บมจ.เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ หรือ SJWD รุกให้บริการแบบ End-to-End Supply Chain Solution ผ่าน SCG International Vietnam แก่ลูกค้าในเวียดนาม นำร่องเซ็นเอ็มโอยูกับ Vietnam Construction Material (VCM) ให้บริการขนถ่ายวัตถุดิบขาเข้าและลำเลียงซีเมนต์ขาออกไปยังเรือขนส่งเพื่อเตรียมส่งออกไปอเมริกา มีระยะเวลาดำเนินงาน 3 ปี คาดสร้างรายได้รวมตลอดอายุสัญญา 430 ล้านบาท
นายบรรณ เกษมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD
ผู้ ให้บริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ เข้าซื้อหุ้น 100% ใน SCG International Vietnam Co., Ltd. (SCG International Vietnam) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในเวียดนาม ขนส่งสินค้าข้ามแดนในภูมิภาคอาเซียน บริหารคลังสินค้า ตลอดจน International Supply Chain Solutions ได้วางกลยุทธ์ต่อยอดความเชี่ยวชาญด้าน
โลจิสติกส์ เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพการให้บริการโลจิสติกส์ในเวียดนามและอาเซียน ด้วยการขยายการให้บริการแบบ “End-to-End Supply Chain Solution” แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในเวียดนาม โดยนำองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญเข้าไปบริหารจัดการซัพพลายเชนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจให้แก่ลูกค้า และสร้างรายได้ของ SCG International Vietnam ให้เติบโตตามเป้าหมาย
ล่าสุด SJWD ในฐานะบริษัทแม่ของ SCG International Vietnam ได้ลงนามเอ็มโอยูกับ VIETNAM CONSTRUCTION MATERIALS JOINT STOCK COMPANY (VCM) ในเครือเอสซีจี ผู้ผลิตซีเมนต์ในเวียดนาม เพื่อให้บริการแบบ End-to-End Supply Chain Solution แก่โรงงานผลิตซีเมนต์ของ VCM ของเวียดนาม เพื่อสนับสนุนการส่งออกไปประเทศสหรัฐอเมริกา มีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี โดยจะให้บริการขนถ่ายปูนเม็ด (Clinker) ขาเข้าสู่โรงงานผลิตซีเมนต์ และให้บริการลำเลียงซีเมนต์ขาออกจากไซโลจัดเก็บไปยังเรือขนส่งสินค้าที่มารอรับเพื่อส่งออกไปสหรัฐอเมริกา ตลอดจนเป็นผู้ลงทุนเครื่องจักรที่ใช้ลำเลียงซีเมนต์อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์รายเดียวในเวียดนาม ที่ให้บริการซัพพลายเชนพร้อมลงทุนเครื่องจักร เนื่องจากต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะในการขนถ่ายและลำเลียงซีเมนต์ให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด และการออกแบบเครื่องจักรให้เข้ากับพื้นที่โรงงานและขนาดของไซโลจัดเก็บ เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนโลจิสติกส์และซัพพลายเชน
การให้บริการดังกล่าวจะทำให้ VCM สามารถมุ่งเน้นการผลิตซีเมนต์และคุณภาพสินค้าได้อย่างเต็มที่ รวมถึงบริหารต้นทุน
โลจิสติกส์ได้ดียิ่งขึ้น โดย SCG International Vietnam คาดว่าจะช่วยให้ VCM ลดต้นทุนการขนถ่ายและลำเลียงซีเมนต์ได้มากกว่าที่ VCM วางเป้าหมาย นอกจากนี้ VCM ยังไม่ต้องรับภาระด้านการลงทุนเครื่องจักรและค่าซ่อมบำรุง และยังสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับ VCM ในการรับโอนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรหรือ ปรับเปลี่ยนไปใช้งานที่โรงงานอื่น ๆ ภายใต้ การบริหารของ VCM ได้ ขณะที่ SCG International Vietnam จะมีรายได้อย่างต่อเนื่องจากการให้บริการขนถ่ายวัตถุดิบและลำเลียงซีเมนต์แก่ VCM คาดว่าตลอด 3 ปีจะสร้างรายได้รวมประมาณ 430 ล้านบาท โดยจะเริ่มให้บริการและรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อแนวโน้มรายได้ในปีหน้า และต่อยอดการให้บริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกได้อีกด้วย
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม SJWD กล่าวว่า SCG International Vietnam คาดการณ์รายได้ในปีนี้ 800 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 1,200 ล้านบาทในปี 2568 โดยมีแผนการขยายธุรกิจโลจิสติกส์ในเวียดนาม สู่การให้บริการแบบ End-to-End Supply Chain Solution เพื่อขยายลูกค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ การนำเสนอบริการอื่น ๆ เช่น บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเลแบบเช่าเหมาลำ (Vessel Chartering Export) ซึ่งได้ดำเนินการสำเร็จไปแล้วในปีนี้ 2 ลำเรือ การให้บริการ Warehouse Management และขนส่งสินค้า ให้กับธุรกิจซีเมนต์และแพคเกจจิ้งในเวียดนาม การให้บริการโลจิสติกส์และคลังสินค้าแก่ลูกค้านอกเครือเอสซีจี รวมทั้งบริการ Cross Border กับประเทศกัมพูชา ลาว และ จีน ซึ่งมีชายแดนติดต่อกันและมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องกันกับประเทศเวียดนาม
นายบรรณ เกษมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD
ผู้ ให้บริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ เข้าซื้อหุ้น 100% ใน SCG International Vietnam Co., Ltd. (SCG International Vietnam) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในเวียดนาม ขนส่งสินค้าข้ามแดนในภูมิภาคอาเซียน บริหารคลังสินค้า ตลอดจน International Supply Chain Solutions ได้วางกลยุทธ์ต่อยอดความเชี่ยวชาญด้าน
โลจิสติกส์ เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพการให้บริการโลจิสติกส์ในเวียดนามและอาเซียน ด้วยการขยายการให้บริการแบบ “End-to-End Supply Chain Solution” แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในเวียดนาม โดยนำองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญเข้าไปบริหารจัดการซัพพลายเชนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจให้แก่ลูกค้า และสร้างรายได้ของ SCG International Vietnam ให้เติบโตตามเป้าหมาย
ล่าสุด SJWD ในฐานะบริษัทแม่ของ SCG International Vietnam ได้ลงนามเอ็มโอยูกับ VIETNAM CONSTRUCTION MATERIALS JOINT STOCK COMPANY (VCM) ในเครือเอสซีจี ผู้ผลิตซีเมนต์ในเวียดนาม เพื่อให้บริการแบบ End-to-End Supply Chain Solution แก่โรงงานผลิตซีเมนต์ของ VCM ของเวียดนาม เพื่อสนับสนุนการส่งออกไปประเทศสหรัฐอเมริกา มีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี โดยจะให้บริการขนถ่ายปูนเม็ด (Clinker) ขาเข้าสู่โรงงานผลิตซีเมนต์ และให้บริการลำเลียงซีเมนต์ขาออกจากไซโลจัดเก็บไปยังเรือขนส่งสินค้าที่มารอรับเพื่อส่งออกไปสหรัฐอเมริกา ตลอดจนเป็นผู้ลงทุนเครื่องจักรที่ใช้ลำเลียงซีเมนต์อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์รายเดียวในเวียดนาม ที่ให้บริการซัพพลายเชนพร้อมลงทุนเครื่องจักร เนื่องจากต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะในการขนถ่ายและลำเลียงซีเมนต์ให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด และการออกแบบเครื่องจักรให้เข้ากับพื้นที่โรงงานและขนาดของไซโลจัดเก็บ เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนโลจิสติกส์และซัพพลายเชน
การให้บริการดังกล่าวจะทำให้ VCM สามารถมุ่งเน้นการผลิตซีเมนต์และคุณภาพสินค้าได้อย่างเต็มที่ รวมถึงบริหารต้นทุน
โลจิสติกส์ได้ดียิ่งขึ้น โดย SCG International Vietnam คาดว่าจะช่วยให้ VCM ลดต้นทุนการขนถ่ายและลำเลียงซีเมนต์ได้มากกว่าที่ VCM วางเป้าหมาย นอกจากนี้ VCM ยังไม่ต้องรับภาระด้านการลงทุนเครื่องจักรและค่าซ่อมบำรุง และยังสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับ VCM ในการรับโอนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรหรือ ปรับเปลี่ยนไปใช้งานที่โรงงานอื่น ๆ ภายใต้ การบริหารของ VCM ได้ ขณะที่ SCG International Vietnam จะมีรายได้อย่างต่อเนื่องจากการให้บริการขนถ่ายวัตถุดิบและลำเลียงซีเมนต์แก่ VCM คาดว่าตลอด 3 ปีจะสร้างรายได้รวมประมาณ 430 ล้านบาท โดยจะเริ่มให้บริการและรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อแนวโน้มรายได้ในปีหน้า และต่อยอดการให้บริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกได้อีกด้วย
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม SJWD กล่าวว่า SCG International Vietnam คาดการณ์รายได้ในปีนี้ 800 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 1,200 ล้านบาทในปี 2568 โดยมีแผนการขยายธุรกิจโลจิสติกส์ในเวียดนาม สู่การให้บริการแบบ End-to-End Supply Chain Solution เพื่อขยายลูกค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ การนำเสนอบริการอื่น ๆ เช่น บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเลแบบเช่าเหมาลำ (Vessel Chartering Export) ซึ่งได้ดำเนินการสำเร็จไปแล้วในปีนี้ 2 ลำเรือ การให้บริการ Warehouse Management และขนส่งสินค้า ให้กับธุรกิจซีเมนต์และแพคเกจจิ้งในเวียดนาม การให้บริการโลจิสติกส์และคลังสินค้าแก่ลูกค้านอกเครือเอสซีจี รวมทั้งบริการ Cross Border กับประเทศกัมพูชา ลาว และ จีน ซึ่งมีชายแดนติดต่อกันและมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องกันกับประเทศเวียดนาม