จิปาถะ

ทำความรู้จัก ค่าธรรมเนียมรถติด ภาษีรถติด คืออะไร


24 ตุลาคม 2567
ค่าธรรมเนียมรถติด ภาษีรถติด คืออะไร? หากใครเคยเห็นข่าวเกี่ยวกับเรื่องของการเก็บค่าธรรมเนียมรถติด ก็อาจจะสงสัยว่ามันคืออะไร หมายถึงอะไร วันนี้เราจะมาอธิบายให้ทุกคนได้เข้าใจกัน

ทำความรู้จัก copy.jpg


เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มีข่าวออกมาว่า คมนาคม จ่อเก็บค่าธรรมเนียมรถติด คันละประมาณ 40- 50 บาทใน 5 ปีแรก และอาจเพิ่มขึ้นในอนาคต เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเก็บค่าธรรมเนียมรถติดได้วันละ 7.5 แสนคัน รวมเม็ดเงิน 1.2 หมื่นล้านต่อปี และบริเวณที่จะทำการเก็บภาษีรถติดหรือค่าธรรมเนียมรถติดคือช่วงบริเวณถนนเส้นสุขุมวิท-สีลม ซึ่งโมเดลนี้จะช่วยให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะโดยรถไฟฟ้ามากขึ้น อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหามลภาวะ และฝุ่นละออง PM 2.5 ด้วย

ค่าธรรมเนียมรถติด คืออะไร

ค่าธรรมเนียมรถติด (Congestion Charge) คือค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ใช้รถยนต์เมื่อขับรถเข้าไปในพื้นที่ที่มีปัญหาการจราจรติดขัดสูง โดยมีเป้าหมายเพื่อลดจำนวนรถยนต์บนถนนและส่งเสริมให้ใช้การขนส่งสาธารณะมากขึ้น รวมถึงการลดมลพิษทางอากาศ ซึ่งแนวคิดนี้ถูกนำมาใช้ในหลายเมืองใหญ่ทั่วโลก เช่น ลอนดอน นิวยอร์ก และสตอกโฮล์ม

หลักการทำงานของค่าธรรมเนียมรถติด

1. พื้นที่ที่เก็บค่าธรรมเนียม: พื้นที่ที่มีการจราจรติดขัดสูงมักจะเป็นเขตใจกลางเมืองหรือพื้นที่สำคัญที่มีรถสัญจรจำนวนมาก

2. เวลาที่เก็บ: มักจะเก็บค่าธรรมเนียมในช่วงเวลาที่มีการจราจรหนาแน่น เช่น ช่วงเช้าและเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่คนเดินทางไปและกลับจากที่ทำงาน

ซึ่งในตอนนี้ประเทศไทยกำลังวางแผนถึงโมเดลนี้อยู่ โดยคาดว่าจะเริ่มได้ในเดือน กันนยายน ปี 2568

เส้นทางไหนบ้างเหมาะที่จะเก็บค่าธรรมเนียมรถติด

จากที่สนข.ได้มร่วมมือกับสำนักงานองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ศึกษาสำรวจปริมาณจราจรของโครงข่ายถนนที่คาดว่าจะมีการดำเนินการมาตรการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด (Congestion charge) จำนวน 6 เส้นทาง ได้แก่

- ทางแยก เพชรบุรี-ทองหล่อ (ช่วงถนนเพชรบุรี และ ทองหล่อ) มีปริมาณจราจร 60,112 คัน/วัน 

- ทางแยก สีลม-นคราธิวาส (ช่วงถนน นราธิวาสราชนครินทร์ และ ถนนสีสม) มีปริมาณจราจร 62,453 คัน/วัน

- ทางแยก สาทร-นราธิวาส (ช่วงถนน นราธิวาสราชนครินทร์ และ ถนนสาธร) มีปริมาณจราจร 83,368 คัน/วัน 

- ทางแยก ปทุมวัน (ช่วงถนนพญาไทและ ถนนพระรามที่ 1 ) มีปริมาณจราจร 62,453 คัน/วัน

- ทางแยก ราชประสงค์ (ช่วงถนนราชดำริ ถนนพระราม 1 และถนนเพลินจิต) มีปริมาณจราจร 56,235 คัน/วัน

- ทางแยกประตูน้ำ  (ช่วงถนนราชดำริ ถนนราชปรารถ และถนนเพชรบุรี) มีปริมาณจราจร 68,473 คัน/วัน) 

การเก็บค่าธรรมเนียมรถติด มีประโยชน์อย่างไร

1. ลดปริมาณรถบนถนน
ค่าธรรมเนียมรถติดจะช่วยให้ผู้คนตัดสินใจใช้รถยนต์ส่วนตัวน้อยลงในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ส่งผลให้จำนวนรถยนต์บนถนนลดลง การจราจรคล่องตัวมากขึ้น และลดปัญหารถติดในช่วงเวลาที่มีการสัญจรสูงสุด เช่น ช่วงเช้าและเย็น

2. ลดมลพิษทางอากาศ
การลดจำนวนรถยนต์ในพื้นที่เมืองช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษอื่น ๆ ที่เกิดจากเครื่องยนต์ เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เมื่อลดมลพิษทางอากาศ สุขภาพของประชาชนในเมืองใหญ่จะดีขึ้น และปัญหาโรคที่เกิดจากมลพิษทางอากาศ เช่น โรคหอบหืดหรือโรคระบบทางเดินหายใจก็ลดลง

3. ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ
การเก็บค่าธรรมเนียมรถติดเป็นการกระตุ้นให้คนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟ รถเมล์ หรือบริการเช่าจักรยาน ซึ่งช่วยลดความต้องการใช้รถยนต์ส่วนตัว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ค่าธรรมเนียมสูง ขนส่งสาธารณะจะกลายเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า นอกจากนี้ การลดปริมาณรถบนถนนยังทำให้การขนส่งสาธารณะมีความสะดวกและตรงเวลามากขึ้น

4. เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ถนน
เมื่อจำนวนรถยนต์น้อยลง ถนนก็สามารถรองรับการเดินทางได้มากขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การจราจรติดขัดน้อยลงทำให้การขนส่งสินค้าหรือบริการมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจและเศรษฐกิจของเมืองโดยรวม

5. เพิ่มรายได้ให้กับรัฐ
รายได้จากค่าธรรมเนียมรถติดสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเมือง เช่น ขยายเส้นทางรถเมล์หรือรถไฟ ปรับปรุงสภาพถนน สร้างทางจักรยาน หรือเพิ่มพื้นที่สำหรับคนเดินเท้า ทำให้เมืองน่าอยู่มากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถนำรายได้นี้ไปใช้ในโครงการที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมหรือการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปล่อยมลพิษ

6.ช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน
เมื่อปริมาณรถยนต์บนถนนลดลง ความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุก็ลดลงตามไปด้วย นอกจากนี้ การลดการจราจรที่แออัดยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขับรถได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากถนนไม่แออัดจนเกินไป

ค่าธรรมเนียมรถติดเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดและมลภาวะในเขตเมือง ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งสังคมและเศรษฐกิจในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การนำมาใช้ต้องมีการวางแผนและดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดและสร้างความยอมรับจากประชาชน

ที่มา : https://www.one2car.com/congestion-charge-139482/139482