Talk of The Town

“ทรัมป์” ความนิยมพุ่ง ต้นเหตุทำค่าเงินโลกผันผวน เสี่ยงสุมไฟสงครามการค้าปะทุ


25 ตุลาคม 2567

เหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ กับการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 ล่าสุดคะแนนความนิยมของ TRUMP แซงหน้า KAMALA HARRIS แล้ว แต่ก็มาพร้อมกับปัญหาเงินเฟ้ออาจกลับสู่กรอบเป้าหมายยากขึ้น และมีโอกาสทำให้ FED ปรับลดดอกเบี้ยช้ากว่าคาด ฟากโบรกฯ ชี้ ยังมีอยู่ 4 กลุ่มหุ้นเด่นที่จะได้รับ SENTIMENT เชิงบวก และราคาหุ้นจะ OUTPERFORM ตลาดฯได้ในช่วงนับจากนี้

“ทรัมป์” ความนิยมพุ่ง_S2T (เว็บ)_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ประเมินว่า ทั่วโลกต่างจับตามองการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 ในวันที่ 5 พ.ย. นี้ ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ ขณะที่ POLL สำรวจล่าสุดของ BLOOMBLERG เผย DONALD TRUMP (พรรค REPUBLICAN) มีคะแนนความนิยมแซงหน้า KAMALA HARRIS (พรรค DEMOCRAT) แล้ว นับตั้งแต่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา

เมื่อพิจารณานโยบายหลักๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นสูง หากพรรค REPUBLICAN ชนะ คือ การปรับ COPERATE TAX ในสหรัฐฯลงจาก 21% เหลือ 15% ,การเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีน ซึ่งล่าสุดอาจตั้งกำแพงภาษีเพิ่มเป็น 150 – 200% ถ้าจีนบุกไต้หวัน และการกลับมาของ AMERICAN FIRST อาจเสี่ยงทำให้สงครามการค้าจีน-สหรัฐ (TRADE WAR) ปลุกความร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง

ขณะที่คะแนนความนิยมของ TRUMP ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มาพร้อมกับ BOND YIELD 10Y สหรัฐฯ ที่ขยับขึ้นตาม สะท้อนถึงความกังวลปัญหาเงินเฟ้ออาจกลับสู่กรอบเป้าหมายยากขึ้น และมีโอกาสทำให้ FED ปรับลดดอกเบี้ยช้ากว่าคาด

นอกจากนี้ยังมีโอกาสหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งนับตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. 67 DOLLAR INDEX ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วราว 3% นับจากต้นเดือนต.ค. 67 ถึงปัจจุบัน ล่าสุดยืนเหนือ 104 จุดแล้ว กดดันค่าเงินโลกผันผวนในเชิงเปรียบเทียบ

 ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง 4%นับจากต้นเดือนต.ค. 67 ถึงปัจจุบัน มาอยู่ที่ 33.67 บาท/เหรียญฯ ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ FUND FLOW ชะลอไหลเข้าบ้านเราในช่วงสั้นๆ

อย่างไรก็ตามในเชิงกลยุทธ์หุ้นไทย ยังมีอยู่ 4 กลุ่มหุ้นเด่นที่น่าจะได้รับ SENTIMENT เชิงบวก และราคาหุ้นน่าจะ OUTPERFORM ตลาดฯได้ในช่วงนับจากนี้ อาทิ หุ้นนิคม : AMATA WHA PIN WHAUP

หุ้นรับเหมา TECH : INSET AIT ICN หุ้นเดินเรือ : RSL PSL TTA  และหุ้นอิงราคา COMMODITY ในกลุ่ม FOSSIL : PTTEP BANPU