อีกไม่กี่เดือนก็จะเข้าสู่ช่วงท้ายปี 2567 ซึ่งหลายๆคนมีแผนมากมายที่จะทำในช่วงดังกล่าวที่เป็นวันหยุดยาว แต่สำหรับนักลงทุนและมนุษย์เงินก็มีอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องทำและหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างการลงทุนในกองทุนประหยัดภาษีเพื่อนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้ในปี 2567
ดังนั้น ในวันนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้อ่านและนักลงทุนที่ติดตามสำนักข่าว Share2Trade มาอย่างต่อเนื่อง ทางเราจึงได้หยิบยกกองทุนกองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ TESG น้องใหม่ที่กำลังเปิดให้จองซื้อกันอยู่ในตอนนี้มาแบ่งปันกัน
โดยกองทุนนี้มีชื่อว่า กองทุนเปิดอีสท์สปริง ESG MIXED 30/70 หรือ ES-ESG30/70 ซึ่งมีให้นักลงทุนสามารถเลือกรูปแบบกองทุนได้ถึง 2 รูปแบบการลงทุน ก็คือ แบบสะสมมูลค่า (ES-ESG30/70-THAIESG-A) และแบบมีเงินปันผล (ES-ESG30/70-THAIESG-D) ไม่เกินปีละ 4 ครั้ง
แต่ทั้ง 2 รูปแบบจะมีนโยบายการลงทุนที่เหมือนกัน ก็คือจะลงทุนทั้งในหุ้นไทยและตราสารหนี้ โดยสำหรับสัดส่วนการลงทุนในส่วนที่ 1 จะลงทุนในหุ้นที่ได้รับการคัดเลือกจาก SET ว่ามีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) หรือด้านความยั่งยืน (ESG) ในสัดส่วนที่เท่าหรือใกล้เคียงกับน้ำหนักที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีผลตอบแทนรวม SETESG TRI
รวมไปถึงตราสารพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ย หรือหุ้นกู้ที่กระทรวงการคลังคํ้าประกันต้นเงินและดอกเบี้ย และตราสารเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
และส่วนที่ 2 ลงทุนในตราสารทุน คิดเป็นสัดส่วน 30% ซึ่งการลงทุนเป็นลักษณะตามดัชนี (Passive Investment) และอีก 70% ในตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน (ESG Bond) โดยเน้นลงทุนแบบบริหารเชิงรุกในตราสารหนี้ภาครัฐ/เอกชนเพื่อความยั่งยืน และตราสารหนี้ระยะสั้นอื่น ๆ สำหรับสภาพคล่อง
สำหรับนักลงทุนที่สนใจก็สามารถเข้าไปจองซื้อได้ผ่านบริษัทจัดการหรือผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืน โดยสามารถหักเงินคำซื้อหน่วยลงทุนผ่านบริการธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิกส์ผ่านบัญชี ธ.ทหารไทยธนชาต ธ.ไทยพาณิชย์ ธ.กรุงศรีอยุธยา ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทย ธ.กสิกรไทย ธ.ยูโอบี ธ.แลนด์แอนด์ เฮ้าส์ ธ.เกียรตินาคินภัทร และธ.ซีไอเอ็มบีไทย
โดยกองทุนดังกล่าวกำลังเสนอขายระหว่างวันที่ 24-29 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้เงินลงทุนเริ่มต้นที่ 1 บาท ตามเงื่อนไขการลงทุนขั้นต่ำที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ระบุ