จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : GTV เกาะกระแส “เทคโนโลยีสีเขียว” ปรับโครงสร้างธุรกิจหนุนเทิร์นอะราวด์ปี 68
26 ตุลาคม 2567
บริษัท กรีนเทค เวนเจอร์ส หรือ “GTV” ภายใต้การนำของ “ธีมนัส เกียรติเดชปัญญา” รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจ มุ่งสู่ “เทคโนโลยีสีเขียว” หรือ Green & Technology พร้อมทั้งการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างรายได้และผลกำไรอย่างยั่งยืน พร้อมกับการเดินตามเป้าหมายการนำพาบริษัทฯ สู่ Green และ Technology ชั้นนำของประเทศ
ปัจจุบัน GTV ดำเนินธุรกิจใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจพลังงานและธุรกิจสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง, ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีสินทรัพย์พร้อมจะเป็นรายรับในอนาคต
เร่งสร้างรายได้ - ปี 68 เทิร์นอะราวด์
“ธีมนัส เกียรติเดชปัญญา” มองว่าผลการดำเนินงานในปี 2568 จะมีทิศทางที่ดี และคาดว่าจะเห็นการเทิร์นอะราวด์ เนื่องจากยังมีรายรับจากธุรกิจที่บริษัทฯ มีอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ เตรียมขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ ที่แตกไลน์จากธุรกิจเดิม เป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้า เพิ่มฐานลูกค้านอกเหนือจากกลุ่มเดิม โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ธุรกิจใหม่จะเติบโตเฉลี่ย 10%
รุกธุรกิจใหม่มาร์จิ้นสูง
การเข้ามาบริหารงานใน GTV ครั้งนี้ (22 สิงหาคม 2567) ภายใต้ประสบการณ์การเป็นนักบริหารด้านการปรับโครงสร้างธุรกิจ ผมวางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราเดินตามแผนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็นบริษัทเทคโนโลยีสีเขียว การสร้าง และพัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อมทุกรูปแบบ รวมทั้งการขยายธุรกิจใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะเห็นในไตรมาส 4/2567 เป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง และจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืนในอนาคตแน่นอน
มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
ในปีที่ผ่านมาถือเป็นห้วงเวลาของการปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อเติมเต็มจุดแข็งของ GTV ผ่านการขยายธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่อง เพื่อต่อยอด และเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ ทั้งในส่วนของรายได้สม่ำเสมอ (Recuring Income) และไม่หยุดยั้งสร้าง New S Curve ใหม่ให้กับธุรกิจ เพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต สร้างผลตอบแทนที่ดีกับผู้ถือหุ้น พร้อมกับการเดินไปสู่เป้าหมาย “Green และ Technology ชั้นนำของประเทศ” พร้อมกับการสร้างรายได้โตอย่างยั่งยืน
ธุรกิจโรงไฟฟ้าโตแกร่ง
สำหรับธุรกิจธุรกิจพลังงาน และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาบริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยได้จำหน่ายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ของบริษัท พาราโบลิก โซลาร์พาวเวอร์ จํากัด (PSP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ให้กับ บริษัท บีเอสอี เพาเวอร์ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) (BCPG) วงเงิน 477 ล้านบาท รวมทั้งมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการ สหกรณ์การเกษตรกระแสสินธุ์กำลังการผลิตรวม 5 เมกะวัตต์ ที่ยังเป็นรายรับเข้ามาสนับสนุนต่อเนื่อง
ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล-อสังหาฯ แนวโน้มสวย
ในส่วนแผนการขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่บริษัทฯ ถือครองอยู่ ยังมีแนวโน้มที่ดี สามารถได้ราคาที่เหมาะสม เพื่อสร้างกำไรให้แก่บริษัทฯ ซึ่งปี 2565 บริษัทฯ เข้าลงทุนในธุรกิจการขุดเหมืองคริปโทเคอร์เรนซีในประเทศลาว กำลังการขุด 6,000 เครื่อง ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จะเกิดผลกำไรจากการเวนคืนที่ดิน อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ในไตรมาส 3 ปีนี้
ปัจจุบัน GTV ดำเนินธุรกิจใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจพลังงานและธุรกิจสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง, ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีสินทรัพย์พร้อมจะเป็นรายรับในอนาคต
เร่งสร้างรายได้ - ปี 68 เทิร์นอะราวด์
“ธีมนัส เกียรติเดชปัญญา” มองว่าผลการดำเนินงานในปี 2568 จะมีทิศทางที่ดี และคาดว่าจะเห็นการเทิร์นอะราวด์ เนื่องจากยังมีรายรับจากธุรกิจที่บริษัทฯ มีอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ เตรียมขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ ที่แตกไลน์จากธุรกิจเดิม เป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้า เพิ่มฐานลูกค้านอกเหนือจากกลุ่มเดิม โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ธุรกิจใหม่จะเติบโตเฉลี่ย 10%
รุกธุรกิจใหม่มาร์จิ้นสูง
การเข้ามาบริหารงานใน GTV ครั้งนี้ (22 สิงหาคม 2567) ภายใต้ประสบการณ์การเป็นนักบริหารด้านการปรับโครงสร้างธุรกิจ ผมวางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราเดินตามแผนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็นบริษัทเทคโนโลยีสีเขียว การสร้าง และพัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อมทุกรูปแบบ รวมทั้งการขยายธุรกิจใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะเห็นในไตรมาส 4/2567 เป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง และจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืนในอนาคตแน่นอน
มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
ในปีที่ผ่านมาถือเป็นห้วงเวลาของการปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อเติมเต็มจุดแข็งของ GTV ผ่านการขยายธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่อง เพื่อต่อยอด และเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ ทั้งในส่วนของรายได้สม่ำเสมอ (Recuring Income) และไม่หยุดยั้งสร้าง New S Curve ใหม่ให้กับธุรกิจ เพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต สร้างผลตอบแทนที่ดีกับผู้ถือหุ้น พร้อมกับการเดินไปสู่เป้าหมาย “Green และ Technology ชั้นนำของประเทศ” พร้อมกับการสร้างรายได้โตอย่างยั่งยืน
ธุรกิจโรงไฟฟ้าโตแกร่ง
สำหรับธุรกิจธุรกิจพลังงาน และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาบริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยได้จำหน่ายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ของบริษัท พาราโบลิก โซลาร์พาวเวอร์ จํากัด (PSP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ให้กับ บริษัท บีเอสอี เพาเวอร์ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) (BCPG) วงเงิน 477 ล้านบาท รวมทั้งมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการ สหกรณ์การเกษตรกระแสสินธุ์กำลังการผลิตรวม 5 เมกะวัตต์ ที่ยังเป็นรายรับเข้ามาสนับสนุนต่อเนื่อง
ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล-อสังหาฯ แนวโน้มสวย
ในส่วนแผนการขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่บริษัทฯ ถือครองอยู่ ยังมีแนวโน้มที่ดี สามารถได้ราคาที่เหมาะสม เพื่อสร้างกำไรให้แก่บริษัทฯ ซึ่งปี 2565 บริษัทฯ เข้าลงทุนในธุรกิจการขุดเหมืองคริปโทเคอร์เรนซีในประเทศลาว กำลังการขุด 6,000 เครื่อง ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จะเกิดผลกำไรจากการเวนคืนที่ดิน อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ในไตรมาส 3 ปีนี้