รายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ในการซื้อขายช่วงเช้านี้ ปรับตัวลดลง 3.66% มาอยู่ที่ 131.50 บาท ด้าน 2 นักวิเคราะห์สั่งขาย หลังราคาหุ้นพุ่งแรงไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับและราคาหุ้นแพงเกินไป
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้ราคาเหมาะสมเป็น 98 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PE ที่80 เท่า และ 68 เท่า แพงเกินกว่าที่จะลงทุนด้วยปัจจัยพื้นฐานเทียบกับการเติบโตในปี 2568 ที่ระดับ 17% พร้อมกับแนะนำ “ขาย” โดยราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นร้อนแรงในเดือนต.ค.67 จากระดับ 107 บาท แต่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่มีพัฒนาการที่เด่นอย่างมีนัยสำคัญเพียงพอ
สำหรับคาดการณ์ไตรมาส 4/67 แนวโน้มยอดขายของ DELTA ยังแข็งแกร่ง แต่อาจจะไม่เติบโตเด่นจากไตรมาสก่อนหน้า เหมือนช่วงสองไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากลูกค้ากังวลกับภาพเศรษฐกิจโดยรวมและกังวลกับมาตรการภาษีที่อาจจะตามมาหลังผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจะได้แรงกดดันต่อเนื่องจากค่าเงินบาทต่อดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีฐานไตรมาส 4/66 ที่ต่ำ ทำให้ไตรมาส 4/67 จะเป็นอีกไตรมาสที่ DELTA จะเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน
ทั้งนี้ กำไรปกติงวด 9 เดือนปี 67 คิดเป็น 75% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2567 ของที่ 2.1 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 24% ขณะที่ไตรมาส 4/67 ยังเด่นทำให้ประมาณการทั้งปียังสมเหตุสมผล หากประมาณการจะมีอัพไซด์ประเมินว่ายังไม่ได้มีนัยสำคัญมากนัก
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ให้มุมมองถึงหุ้น DELTA ว่า แม้กำไรปกติไตรมาส 3/67 จะดีกว่าคาด แต่ส่วนหนึ่งได้ผลบวกจากการโอนกลับสินค้าคงคลัง ขณะที่พบว่าค่าใช้จ่ายกลับเพิ่มมากกว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้น และคาดแนวโน้มไตรมาส 4/67 ผลการดำเนินงานจะย่อตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า รวมถึงคาดได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่า
อย่างไรก็ดี แม้ตลาดให้ valuation premium กับ DELTA มากกว่ากลุ่ม จากการที่มีสินค้าเกี่ยวข้องกับ AI, Data center ที่ยังเติบโตโด้ดีในเมกะเทรนด์นี้ แต่มองว่าราคาหุ้นซื้อขายบน P/E 25 ถึง 76 เท่า มองว่าแพงเกินไปกับส่วนเพิ่มที่มีต่อประมาณการแล้ว นักลงทุนสามารถเลือกทำกำไรได้หากต้องการ