AMATA-WHA สุดปัง! งบไตรมาส Q3/67 ลุ้นกำไรพุ่ง

2 บริษัทเจ้าของนิคมอุสาหกรรมรายใหญ่ของไทยกำลังโดดเด่น ล่าสุดนักวิเคราะห์ฉายภาพไตรมาส 3/2567 AMATA จะมีกำไร 815 ล้านบาท เติบโต 60% เพราะการโอนที่ดินที่เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด ขณะที่ WHA ก็ไม่น้อยหน้า คาดกำไร 866 ล้านบาท เติบโต 48% 

โดยบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดกำไรปกติไตรมาส 3/67 ที่ 815 ล้านบาท เติบโต 147% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เติบโตตามการโอนที่ดินที่เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดอยู่ที่ 452 ไร่ เพิ่มขึ้น 177% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 66% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ประกอบด้วยการส่งมอบที่ดินชลบุรีอัตรากำไรสูงจำนวน 51 ไร่ (จาก 14 ไร่ ในไตรมาส 2/67 และ 2 ไร่ ในไตรมาส 3/66) ซึ่งช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) เพิ่มขึ้นคาดที่ 36.5% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนยอดขายที่ดิน (Presales) ไตรมาส 3/67 เติบโตเด่นอยู่ที่ 957 ไร่ เติบโต 30% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 83% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากกลุ่ม Electronics และชิ้นส่วนยานยนต์เป็นหลัก 

ยอดขายที่ดินสะสมใน 9 เดือนปี 67 อยู่ที่ 2,018 ไร่ เพิ่มขึ้น 68% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมากกว่ายอดขายจำนวน 1,855 ไร่ของปี 2566 ทั้งปี 

ขณะที่ มูลค่า Backlog สิ้นไตรมาส 3/67 ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่กว่า 1.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 82% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นในไทย 1.8 หมื่นล้านบาท และเวียดนาม 1.8 พันล้านบาท ดังนั้นคาดทั้งปี 2567 จะมีกำไรสุทธิ 2,041 ล้านบาท เติบโต 8% จากปีก่อน แนะนำ “ซื้อ” และมีการปรับไปใช้มูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 2568 ที่ 30.25 บาท

ต่อกันที่ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดกำไรปกติไตรมาส 3/67 ที่ 866 ล้านบาท ลดลง 30% จากไตรมาสก่อน แต่ยังเติบโต 48% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สะท้อนตามการโอนที่ดินจำนวน 337 ไร่ ลดลง 46% จากไตรมาสก่อน แต่เติบโต 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากที่ดินโครงการ JV นิคม IER จ.ระยอง (WHA ถือ 60%) จำนวนราว 180 ไร่ ขณะที่ Backlog สิ้นไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 1,250 ไร่ ลดลง 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนยอดขายที่ดิน (Presales) ไตรมาส 3/67 คาดอยู่ที่ราว 700 ไร่ เติบโต 70% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากลูกค้ากลุ่ม Data center เป็นหลัก ซึ่ง Presales สะสมช่วง 9 เดือนปี 67 อยู่ที่ 1,743 ไร่ ลดลง 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 70% ของเป้าปี 2567

นอกจากนี้บริษัทกำลังเจรจากับลูกค้า High Potential กลุ่ม Data center มากกว่า 1 ราย ขนาด 400-600 ไร่ ที่คาดเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 4/67 โดยปัจจุบันมีที่ดินรอเซ็นสัญญาซื้อขาย (LOI) อยู่ราว 900 ไร่ ซึ่งคาดจะเข้ามาหนุนการเติบโตของ Presales ไตรมาส 4/67 ให้เติบโตจากไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันของปีก่อน

คงประมาณการกำไรปี 2567 ที่ 4.8 พันล้านบาท เติบโต 12%จากปีก่อน ทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยมองอุปสงค์ที่ดินยังอยู่ระดับสูง และบริษัทมีโอกาสปรับขึ้นราคาขายที่ดินขึ้นหนุนการเติบโตในปี 2568 จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเหมาะสมสิ้นปี 2568 ที่ 6.35 บาท/หุ้น