Talk of The Town

TOP โดนผู้รับเหมาฯหลักสวนกลับ ลั่นห้ามยุ่งกับผู้รับเหมาช่วงทวงเงิน เหตุ “ไทยออยล์” ไม่ได้เป็นคู่สัญญา


30 ตุลาคม 2567

นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)หรือ TOP แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯว่า จากกรณีที่บริษัทผู้รับเหมาช่วงของกิจการร่วมค้ำระหว่าง - Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd. ("Samsung"), Petrofac South East Asia Pte. Ltd. (Petrofac) และ Saipem Singapore Pte. Ltd. ("Saipem") เรียกรวมกันว่า UJV (Samsung, Petrofac และ Saipem") ซึ่งเป็นผู้รับเหมาหลักในการก่อสร้างโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project: CFP) ให้กับบริษัทในนามสหพันธ์ผู้รับเหมาโรงกลั่นไทยออออล์, โครงการ CFP ศรีราชา ได้มีการเรียกร้องค่าตอบแทนค้างจ่ายจาก UJV นั้น

TOP โดนผู้รับเหมาฯหลักสวนกลับ_S2T (เว็บ)_0.jpg

บริษัทขอชี้แจงว่าได้จ่ายค่าตอบแทนให้ UJV ซึ่งเป็นผู้รับเหมาหลักในการก่อสร้างโครงการพลังงานสะอาด (CFP) ตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญาจ้างเหมาทำของ การออกแบบวิศวกรรม การจัดทำ และการก่อสร้าง (EPC: Engineering, Procurement and Construction) ระหว่างบริษัทและ The Consortium of PSS Netherlands B.V. (Offshore Contractor) และ UJV –Samsung, Petrofac และ Saipem (Onshore Contractor) อย่างครบถ้วนถูกต้องมาอย่างต่อเนื่อง 

แต่ UJV ยังไม่จ่ายค่าตอบแทนค้างจ่ายให้กับบริษัทผู้รับเหมาช่วงซึ่งเป็นหน้าที่ของ UJV ตามสัญญารับเหมาช่วง อย่างไรก็ดี บริษัทได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของสหพันธ์จากการไม่ได้รับค่าตอบแทนค้างจ่ายและได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการผลักดันให้ UJV ปฏิบัติหน้าที่ของตนในการชำระค่าตอบแทนค้างจ่ายให้กับบริษัทผู้รับเหมาช่วงตามสัญญารับเหมาช่วง 

บริษัทได้มีการส่งหนังสือสอบถามไปยัง UJV ในฐานะผู้ออกหนังสือค้ำประกันการปฏิบัติตามสัญญา EPC เกี่ยวกับมาตรการในการจัดการดูแลบริษัทผู้รับเหมาช่วงที่ยังได้รับชำระค่าจ้าง รวมถึงเเผนชำระค่าตอบแทนทนค้างจ่ายมาโดยตลอด ซึ่งหาก UJV ขาดสภาพคล่องจนไม่สามารถชำระค่าตอบแทนค้างจ่ายได้ บริษัทแม่ควรให้ความช่วยเหลือทางการเงิน

โดย UJV ยืนยันว่าจะทำการชำระค่าตอบแทนค้างจ่ายให้แก่บริษัทผู้รับเหมาช่วงตามเงื่อนไขของสัญญารับเหมาช่วง นอกจากนี้ UJV ยังแจ้งไม่ให้บริษัทเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบริษัทผู้รับเหมาช่วง เนื่องจากไม่ได้เป็นคู่สัญญาในสัญญารับเหมาช่วง ดังนั้น หน้าที่ในการชำระคำตอบแทนตามสัญญารับเหมาช่วงดังกล่าวเป็นหน้าที่ของ UJV ที่จะต้องรับผิดชอบโดยตรง

ด้วยโครงการ CFP เป็นโครงการขยายโรงกลั่นน้ำมันที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (Complex Refinery) เพิ่มขีดความสามารถในด้านการกลั่นน้ำมันและสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ ซึ่งเป็นการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่และมีมูลค่าสูง

ดังนั้น บริษัทจึงให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในเรื่องความโปร่งใสในการดำเนินงานโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ให้มีความชัดเจนในทุกขั้นตอน มีการกลั่นกรองเป็นลำดับขั้นอย่างรัดกุม พร้อมกับยังเน้นย้ำในเรื่องการตรวจสอบภายในโดยมีการแต่งตั้งผู้สังเกตการณ์อิสระ มีการนำแนวทางของ Integrity Pact (ข้อตกลงคุณธรรม) มาประถูกต์ใช้ โดยผู้สังเกตการณ์อิสระจะเข้าร่วมสังเกตการณ์ทุกขั้นตอนของกระบวนการประกวดราคาและมีความเป็นอิสระ เพื่อรายงานผลการปฏิบัติงาน รวมถึงข้อสังเกตการณ์ต่างๆ โดยตรงต่อคณะกรรมการบริษัท

ทั้งนี้ บริษัทได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประกวดราคาสำหรับโครงการ CFP ตามกระบวนการจัดจ้างที่โปร่งใส สอดคล้องตามหลักบรรษัทภิบาล โดยมีหลักเกณฑ์ที่มีมาตรฐานที่ชัดเจน เช่น การวิเคราะห์งบการเงิน อัตราส่วนทางการเงิน ประสบการณ์ของผู้เข้าร่วมประกาศราคา เป็นต้น 

นอกจากนี้ มีการพิจารณาความเหมาะสมของผู้เข้าร่วมประกวดราคาแล้ว บริษัทฯ ได้จัดให้มีการชี้แจงข้อมูลโครงการ รายละเอียดของขอบข่ายงานที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมประกวดราคา รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประกวดราคาแต่ละรายเข้าสำรวจพื้นที่ก่อสร้างโครงการอย่างละเอียด เพื่อนำไปประเมินแผนงานและมูลค่าการดำเนินงานโครงการก่อนที่ผู้เข้าร่วมประกวดราคาแต่ละรายจะยื่นข้อเสนอโครงการ 

ทั้งนี้ บริษัทที่เข้าร่วมประกวดราคาแต่ละรายเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมถึงมีประสบการณ์ในการทำงาน โครงการขนาดใหญ่มาแล้ว โดยการประกวดราคาดังกล่าวเป็นสัญญาจ้างแบบเหมารวม (Lumpsum Contract) ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่า ผู้เข้าร่วมประกวดราคาแต่ละราย จะนำเสนอราคาที่มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินโครงการ CFP ให้สำเร็จได้ 

ซึ่งผลการประกวดราคา ปรากฏว่า บริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd. ("Samsung"), Petrofac South East Asia Pte. Ltd. (Petrofac) และ Saipem Singapore Pte. Ltd. ("Saipem") ได้รับการคัดเลือกและได้ทำสัญญาจ้าง EPC ในปี 2561 ในนาม The Consortium ประกอบไปด้วย PSS Netherlands B.V., (Offshore Contractor) และ UJV –Samsung, Petrofac และ Saipem (Onshore Contractor)

สำหรับในการทำสัญญา EPC นี้ บริษัทแม่ของ The Consortium (PSS Netherlands B.V. (Offishore Contractor) UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem (Onshore Contractor) คือ 1. Petrofac Limited 2. Samsung E&A Co., Ltd. (เดิมชื่อ Samsung Engineering Co., Ltd.) และ 3. Saipem S.P.A. (“บริษัทแม่”) ได้ออกหนังสือค้ำประกันการปฏิบัติตามสัญญาของ The Consortium  ทั้งหมด (Parent Company Guarantee) และ The Consortium ได้มีการวางหนังสือค้ำประกันของธนาคารเป็นหลักประกันสัญญา (Performance Bond) จำนวน 10% ของมูลค่าสัญญาทั้งหมด 

เพื่อใช้เป็นหลักประกันการปฏิบัติตามข้อกำหนดในสัญญา รวมถึงเพื่อค้ำประกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นตามสัญญา นอกจากนี้ สัญญา EPC ดังกล่าวได้มีการพิจารณาอย่างรัดกุมและระบุเงื่อนไขสำคัญอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินโครงการ 

โดยบริษัทมีการพิจารณาและระบุหลักการสำคัญหลายประการในสัญญา เช่น การกำหนดขั้นตอนในการทดสอบและส่งมอบโครงการ, การรับประกันคุณภาพโครงการ, เงื่อนไขเกี่ยวกับความผิดและสิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหาย เป็นต้น 

หากคู่กรณีผิดสัญญาหรือเลิกสัญญา บริษัทสามารถที่จะเรียกร้องความเสียหายที่เกิดขึ้นตามเงื่อนไขของสัญญา ดังนั้น การที่มีข่าวในสื่อรายหนึ่งว่า Saipem ซึ่งเป็นคู่สัญญารายหนึ่งในสัญญากับบริษัทสามารถที่จะถอนตัวออกจากสัญญาได้ จึงไม่เป็นความจริง บริษัทขอยืนยันว่าบริษัทได้ปฏิบัติและรักษาสิทธิของบริษัทตามสัญญาอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เริ่มก่อสร้างโครงการ CFP ไปแล้ว ได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เมื่อปี 2562 ทั่วโลก และเริ่มส่งผลกระทบอย่างมากต่อการบริหารงานและการก่อสร้างโครงการ CFP ของ UJV ตั้งแต่ปี 2563 อย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2565 

ดังนั้น เมื่อปี 2564 UJV ได้เริ่มเจรจากับบริษัทเพื่อขอเพิ่มงบประมาณในสัญญา EPC และขอขยายระยะเวลาส่งมอบโครงการ CFP ซึ่งบริษัทได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนตามเงื่อนไขสัญญาและเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทแล้ว จึงได้อนุมัติการแก้ไขสัญญา EPC โดยให้งบประมาณเพิ่มเติมอีกจำนวน 550 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

และจากเหตุการณ์ที่สหพันธ์รวมตัวชุมนุมบริเวณหน้าโรงกลั่นไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของบริษัทในบริเวณดังกล่าวแต่มิได้ส่งผลให้โครงการ CFP ต้องเลื่อนเปิดดำเนินการออกไปอย่างไม่มีกำหนด ดังที่สื่อบางรายได้รายงานข่าวแต่อย่างใด 

ในการนี้บริษัทอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งเร่งดำเนินการแก้ปัญหาเพื่อลดผลกระทบต่อโครงการ CFP โดยที่บริษัทคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้าประการใดเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทจะรายงานให้ผู้ถือหุ้นได้รับทราบตามความเหมาะสมต่อไป

พร้อมกันนี้ บริษัทขอยืนยันว่า บริษัทมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยยึดมั่นตามหลักบรรษัทภิบาลและมุ่งหวังให้การดำเนินโครงการ CFP แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด โดยให้ความสำคัญต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ตลอดจนตระหนักถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับบริษัทผู้รับเหมาช่วง โดยบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการผลักดันให้UJV -Samsung, Petrofac และ Saipem ชำระค่าตอบแทนค้างจ่ายให้แก่บริษัทผู้รับเหมาช่วงแต่ละรายโดยเร็วที่สุดต่อไป

TOP