Wealth Sharing

ท็อป 5 หุ้น DCA ประจำเดือน พ.ย. KTB สุดแจ่ม ให้ผลตอบแทนเด่นสุด


01 พฤศจิกายน 2567

เข้าสู่เดือนใหม่สำหรับนักลงทุนก็อาจจะเริ่มหาธีมลงทุนหรือหุ้นเด็ดประจำเดือน แต่สำหรับนักลงทุนที่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถุงก็อาจจะเลือกการลงทุนแบบ DCA ที่ไม่ต้องลงทุนด้วยจำนวนเงินที่สูงมากนัก แต่อาศัยการลงทุนแบบสม่ำเสมอในแต่ละเดือน เพื่อเป็นการซัพพอตนักลงทุนทางเราก้ได้นำแนวทางการลงทุนแบบดังกล่าวมาแบ่งปันกัน

ท็อป 5 หุ้น DCA ประจำเดือน พ.ย._WS (เว็บ).jpg

โดยคำแนะนำและมุมมองการลงทุนอยู่ภายใต้การวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้คัดเลือก 5 หุ้นที่น่าสนใจและเหมาะสมในการ DCA ประจำเดือนพฤศจิกายน 2567 ซึ่งประกอบไปด้วย BEM, BJC, KTB, STA และ TIDLOR

 สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกหุ้นเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานดี มีสภาพคล่อง จัดพอร์ตผสมผสานทั้งหุ้นปันผลและหุ้นเติบโต กระจายความเสี่ยงในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งจะมีการให้คำแนะนำทุก 1 เดือน เหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการออมในหุ้น และต้องกระจายน้ำหนักการลงทุนเท่ากันในแต่ละหุ้น

Top 5 หุ้น DCA ประจำเดือน พ.ย. 67

BEM คาดกำไรไตรมาส 3/67 เติบโตจากไตรมาสก่อหน้าและช่วงเดียวกันปีก่อน ทำจุดสูงสุดใหม่ หนุนจากจำนวนผู้ใช้รฟฟ. ที่สูงขึ้นและเงินปันผลรับจาก TTW นอกจากนี้ BEM มีอัพไซด์ที่ยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการได้แก่ โครงการทางด่วน Double Deck เบื้องต้นประเมินเป็นอัพไซด์ที่ระดับ 1.50-2.50 บาท/หุ้น และโครงการ รฟฟ. สายสีม่วงใต้

BJC คาดผลประกอบการไตรมาส 3/67 เติบโตช่วงเดียวกันปีก่อนตามรายได้ที่เติบโต ขณะที่ยอดขายสาขาเดิมพลิกกลับมาเป็นบวก 0.5% จากช่วงเดียวกัน และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น 0.56 จากช่วงเดียวกันปีก่อน หุ้นซื้อขายบน PE ที่ 20 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีและซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี P/BV อยู่ที่0.8 เท่า

KTB คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 เติบโตจากช่วงเดียวกัน จากฐานต่ำในไตรมาส 4/66 ที่มีการตั้งสำรองเพื่อรองรับผลกระทบจากลูกหนี้รายใหญ่ในกลุ่มรับเหมา และคาด KTB จะมีกำไรสุทธิปี 2567 จำนวน 43,791 ล้านบาท โตจากปีก่อนหน้า 19.6% และโตต่อ 5% ในปี2568

STA คาดผลประกอบการไตรมาส 3/67 เติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า จากราคาขายเฉลี่ยที่ปรับขึ้นตามราคายาง SICOM และยอดขายยาง EUDR ที่สูงขึ้น ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน P/BV เพียง 0.74 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังที่0.83 เท่า จึงมองว่าควรซื้อขายในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยจากแนวโน้มอุตสาหกรรมยางพาราที่ดีขึ้น

TIDLOR คาดผลประกอบการครึ่งปีหลังปี 67 มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นจากครึ่งปีแรก เนื่องจากได้ประโยชน์โดยตรงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการให้เงิน 10,000 บาท กับกลุ่มเปราะบางจำนวน 14.5 ล้านคน ส่งผลให้ความสามารถในการชำระหนี้ดีขึ้น และ NPL ลดลง นอกจากนี้กลุ่มไฟแนนซ์ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของกนง.

ทั้งนี้ ทางเราได้จำลองสถานการณ์ DCA ด้วยจำนวนเงิน 2,000 บาทต่อหุ้นต่อเดือน เป็นระยะเวลา 5 ปี (ณ วันที่ 31 ต.ค. 2562 ถึง 30 ต.ค. 2567) พบว่ามีเพียงแค่ KTB ที่สามารถทำกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นให้แก่นักลงทุนอยู่ที่ 57,647 บาท และเงินปันผลอยู่ที่ 14,942 บาท

ขณะที่อีก 4 หุ้น BEM ให้ผลขาดทุนจากส่วนต่างราคาหุ้นอยู่ที่ 10,214 บาท และให้เงินปันผลอยู่ที่ 3,848 บาท, BJC ให้ผลขาดทุนจากส่วนต่างราคาหุ้นอยู่ที่ 32,245 บาท และให้เงินปันผลอยู่ที่ 6,618 บาท,  STA ให้ผลขาดทุนจากส่วนต่างราคาหุ้นอยู่ที่ 1,031 บาท และให้เงินปันผลอยู่ที่ 26,098 บาท และ TIDLOR ให้ผลขาดทุนจากส่วนต่างราคาหุ้นอยู่ที่ 21,285 บาท และให้เงินปันผลอยู่ที่ 1,317 บาท

ท็อป-5-หุ้น-DCA-ประจำเดือน-พ.ย.jpg