กลุ่มโรงไฟฟ้าใหญ่ ผลงานไตรมาส 3/67 ยังอ่อนแอ เหตุค่า FT โดนตรึง แต่ต้นทุนเพิ่ม
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด ให้มุมมองว่า แนวโน้มกำไรปกติของกลุ่มโรงไฟฟ้างวดไตรมาส 3/67 คาดปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีแรงกดดันจากผลประกอบการของกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ภาพรวมกำไรปกติอ่อนตัว ถึงแม้ผลประกอบการของกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจะฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้าแต่ไม่สามารถชดเชยได้หมด
โดยในกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ กำไรปกติที่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ถูกกดดันจากอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ที่อ่อนตัว ตามต้นทุนก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ค่า FT งวดนี้ยังถูกตรึงไว้ในระดับเดิม อีกทั้งคาดปริมาณขายไฟฟ้ากลุ่มโรงไฟฟ้า IPP จะอ่อนตัว หลังผ่านพ้นช่วงความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของไทยมาแล้ว
นอกจากนี้คาดบริษัทที่มีโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ ยังได้รับผลกระทบจากราคาขายไฟฟ้าที่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า จากสภาพอากาศที่อบอุ่น ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าโดยรวมยังอยู่ในระดับต่ำ แม้จะเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนของสหรัฐฯก็ตาม ประกอบกับยังได้รับผลกระทบของค่าเงินบาทในงวดไตรมาส 3/67 ที่แข็งค่า ส่งผลให้มีการบันทึกกำไรหลังจากแปลงค่าเงินกลับมาเป็นสกุลบาทได้น้อยลง
ในส่วนของกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ภาพรวมกำไรปกติที่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ได้รับปัจจัยหนุนจากผลประกอบการของกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่คาดปรับตัวดีขึ้นตามการเข้าสู่ช่วงพีกของซีซั่นในฤดูฝน ประกอบกับคาดกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานลมจะเริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น ตามกระแสลมที่ได้รับอานิสงส์ของสภาวะอากาศแบบลานีนา (ฝนตกหนัก) ในช่วงครึ่งปีหลังปี67 ถึงแม้คาดว่าผลประกอบการของกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จะปรับตัวลดลงหลังผ่านพ้นช่วงไฮซีซั่นของแสงแดดในช่วงไตรมาส 2/67 มาแล้วก็ตาม
สำหรับ TOP PICKS ของกลุ่มงวดนี้ เลือก GULF (แนะนำ OUTPERFORM ราคาเหมาะสม 68 บาท) แม้กำไรปกติช่วงสั้นไตรมาส 3/67 คาดอ่อนตัวจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ระยะยาวถือเป็นตัวเลือกที่มีกำไรแข็งแกร่งสุดของกลุ่มในยามนี้ พร้อมคาดหวังโอกาสการเกิด SYNERGY ในธุรกิจใหม่ๆได้ในอนาคต แนะนำเน้นหาจังหวะทยอยสะสมสำหรับการลงทุนในระยะยาว
และ CKP (แนะนำ OUTPERFORM ราคาเหมาะสม 4.5 บาท) ที่คาดกำไรปกติจะปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดของปี ระยะสั้นจึงเน้นหาจังหวะ TRADING ตามช่วงฤดูกาล