Talk of The Town
7 เซียนหุ้นชื่อดังเลือดซิบ โดนพิษหุ้นไอพีโอต่ำจอง ขาดทุนรวมกว่า 10 ล้านบาท
04 พฤศจิกายน 2567
หุ้นไอพีโอน้องใหม่ที่เข้าเทรดได้ไม่ถึงเดือน แต่ฟอร์มไม่ดีเสียแล้ว ซึ่งล่าสุดบริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) หรือ TMAN และ บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงจนต่ำกว่าราคา IPO ไปเรียบร้อย
โดย TMAN ราคาปิดการซื้อขายของวันที่ 1 พ.ย.2567 อยู่ที่ระดับ 15.8 บาท ลดลง 3.07% จากราคา IPO ขณะที่ MEDEZE ราคาปิดการซื้อขายของวันเดียวกันอยู่ที่ 8.8 บาท ลดลง 2.22% ดังนั้นหากเข้าไปสำรวจรายชื่อนักลงทุนรายใหญ่ ถ้าไม่มีการขายหุ้นออกมา จะขาดทุนเท่าไหร่กันบ้าง
เริ่มกันที่นายวิชัย วชิรพงศ์ หรือเสี่ยยักษ์ ที่ได้รับจัดสรรหุ้น IPO ของทั้ง TMAN และ MEDEZE โดยได้รับจัดสรรหุ้น IPO TMAN จำนวน 10,100,000 หุ้น มูลค่า 164,630,000 บาท และ MEDEZE จำนวน 2,000,000 หุ้น มูลค่า 18 ล้านบาท แต่จากราคาหุ้นที่ปรับลดลงดังกล่าว หาก เสี่ยยักษ์ ยังถือทั้ง 2 บริษัท เท่ากับว่าจะขาดทุนราว 5.45 ล้านบาท
ส่วนนายอรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย หรือ บอย ท่าพระจันทร์ ได้รับจัดสรรหุ้น IPO TMAN จำนวน 2,030,400 หุ้น มูลค่า 33,095,520 บาท แต่จากราคาหุ้นที่ปรับลดลงดังกล่าว ทำให้บอย ท่าพระจันทร์ มีโอกาสขาดทุนราว 1 ล้านบาท
ด้านเสี่ยป๋อง หรือ นายวัชระ แก้วสว่าง ที่ได้รับจัดสรรหุ้น IPO ของทั้ง TMAN และ MEDEZE โดยได้รับจัดสรรหุ้น IPO TMAN จำนวน 1,113,000 หุ้น และ MEDEZE จำนวน 2,000,000 หุ้น หากเสี่ยป๋อง ยังถืออยู่ มีโอกาสขาดทุนราว 956,500 บาท
ขณะที่นายชาย มโนภาส ที่ได้รับจัดสรรหุ้น IPO ของ TMAN จำนวน 471,200 หุ้น แต่จากราคาหุ้นที่ปรับลดลงดังกล่าว หากยังถือครอง มีโอกาสขาดทุนราว 235,600 บาท
ด้าน นายทิวา ชินธาดาพงศ์ เช่นกัน ได้รับจัดสรรหุ้น IPO ของ TMAN จำนวน 355,900 บาท แต่จากราคาหุ้นที่ปรับลดลงดังกล่าว หากยังถือครอง มีโอกาสขาดทุนราว 177,950 บาท
ส่วนนายไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ได้รับจัดสรรหุ้น IPO ของ MEDEZE จำนวน 10,000,000 หุ้น จากราคาหุ้นที่ปรับลดลงดังกล่าว หากยังถือครอง มีโอกาสขาดทุนราว 2 ล้านบาท
และนายเฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ ที่ได้รับจัดสรรหุ้น IPO ของ MEDEZE เช่นกัน จำนวน 2,111,000 หุ้น จากราคาหุ้นที่ปรับลดลงดังกล่าว หากยังถือครอง มีโอกาสขาดทุนราว 422,200 บาท
ดังนั้นจากราคาหุ้นของทั้ง TMAN และ MEDEZE ที่ปรับตัวลดลงจนต่ำกว่าราคา IPO ทำให้นักลงทุนรายใหญ่ขาดทุนรวมกันกว่า 10,257,450 บาท
อย่างไรก็ตามในมุมมองนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มีความเห็นต่อ TMAN และ MEDEZE โดยประเมิน TMAN มองว่า คนที่เทรดหุ้นจะเป็นกลุ่มเดียวกันทั้ง TMAN และ MEDEZE สังเกตุจากราคา VALUATION น่าสนใจ มี P/E เพียง 10 เท่า และ 12 เท่าปีหน้า
ส่วนการรีวิวแนวโน้มงบไตรมาส 3 ซึ่งสัปดาห์นี้จะมีการพูดคุยกับผู้บริหารเพื่อยืนยันถึงแนวโน้มว่า จะเป็นไปตามที่คาดการณ์หรือไม่ ถ้างบออกมาตามที่มีมุมมองไว้ว่าจะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน จะเป็นปัจจัยให้ราคาหุ้นฟื้นตัว
ด้าน MEDEZE ประเมินผลประกอบการไตรมาส 3/2567 คาดว่าจะมีกำไรสูงถึง 100 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมองว่า ธุรกิจสเต็มเซลล์ เชื่อว่ามีทั้งคนที่เข้าใจและไม่สนใจ ซึ่งธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความพร้อมจัดเก็บไว้ก่อน และในอนาคตถ้ามีเทคโนโลยีมากกว่านี้ ก็นำเซลล์มารักษาตัวเองให้มากยิ่งขึ้นได้
โดย TMAN ราคาปิดการซื้อขายของวันที่ 1 พ.ย.2567 อยู่ที่ระดับ 15.8 บาท ลดลง 3.07% จากราคา IPO ขณะที่ MEDEZE ราคาปิดการซื้อขายของวันเดียวกันอยู่ที่ 8.8 บาท ลดลง 2.22% ดังนั้นหากเข้าไปสำรวจรายชื่อนักลงทุนรายใหญ่ ถ้าไม่มีการขายหุ้นออกมา จะขาดทุนเท่าไหร่กันบ้าง
เริ่มกันที่นายวิชัย วชิรพงศ์ หรือเสี่ยยักษ์ ที่ได้รับจัดสรรหุ้น IPO ของทั้ง TMAN และ MEDEZE โดยได้รับจัดสรรหุ้น IPO TMAN จำนวน 10,100,000 หุ้น มูลค่า 164,630,000 บาท และ MEDEZE จำนวน 2,000,000 หุ้น มูลค่า 18 ล้านบาท แต่จากราคาหุ้นที่ปรับลดลงดังกล่าว หาก เสี่ยยักษ์ ยังถือทั้ง 2 บริษัท เท่ากับว่าจะขาดทุนราว 5.45 ล้านบาท
ส่วนนายอรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย หรือ บอย ท่าพระจันทร์ ได้รับจัดสรรหุ้น IPO TMAN จำนวน 2,030,400 หุ้น มูลค่า 33,095,520 บาท แต่จากราคาหุ้นที่ปรับลดลงดังกล่าว ทำให้บอย ท่าพระจันทร์ มีโอกาสขาดทุนราว 1 ล้านบาท
ด้านเสี่ยป๋อง หรือ นายวัชระ แก้วสว่าง ที่ได้รับจัดสรรหุ้น IPO ของทั้ง TMAN และ MEDEZE โดยได้รับจัดสรรหุ้น IPO TMAN จำนวน 1,113,000 หุ้น และ MEDEZE จำนวน 2,000,000 หุ้น หากเสี่ยป๋อง ยังถืออยู่ มีโอกาสขาดทุนราว 956,500 บาท
ขณะที่นายชาย มโนภาส ที่ได้รับจัดสรรหุ้น IPO ของ TMAN จำนวน 471,200 หุ้น แต่จากราคาหุ้นที่ปรับลดลงดังกล่าว หากยังถือครอง มีโอกาสขาดทุนราว 235,600 บาท
ด้าน นายทิวา ชินธาดาพงศ์ เช่นกัน ได้รับจัดสรรหุ้น IPO ของ TMAN จำนวน 355,900 บาท แต่จากราคาหุ้นที่ปรับลดลงดังกล่าว หากยังถือครอง มีโอกาสขาดทุนราว 177,950 บาท
ส่วนนายไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ได้รับจัดสรรหุ้น IPO ของ MEDEZE จำนวน 10,000,000 หุ้น จากราคาหุ้นที่ปรับลดลงดังกล่าว หากยังถือครอง มีโอกาสขาดทุนราว 2 ล้านบาท
และนายเฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ ที่ได้รับจัดสรรหุ้น IPO ของ MEDEZE เช่นกัน จำนวน 2,111,000 หุ้น จากราคาหุ้นที่ปรับลดลงดังกล่าว หากยังถือครอง มีโอกาสขาดทุนราว 422,200 บาท
ดังนั้นจากราคาหุ้นของทั้ง TMAN และ MEDEZE ที่ปรับตัวลดลงจนต่ำกว่าราคา IPO ทำให้นักลงทุนรายใหญ่ขาดทุนรวมกันกว่า 10,257,450 บาท
อย่างไรก็ตามในมุมมองนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มีความเห็นต่อ TMAN และ MEDEZE โดยประเมิน TMAN มองว่า คนที่เทรดหุ้นจะเป็นกลุ่มเดียวกันทั้ง TMAN และ MEDEZE สังเกตุจากราคา VALUATION น่าสนใจ มี P/E เพียง 10 เท่า และ 12 เท่าปีหน้า
ส่วนการรีวิวแนวโน้มงบไตรมาส 3 ซึ่งสัปดาห์นี้จะมีการพูดคุยกับผู้บริหารเพื่อยืนยันถึงแนวโน้มว่า จะเป็นไปตามที่คาดการณ์หรือไม่ ถ้างบออกมาตามที่มีมุมมองไว้ว่าจะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน จะเป็นปัจจัยให้ราคาหุ้นฟื้นตัว
ด้าน MEDEZE ประเมินผลประกอบการไตรมาส 3/2567 คาดว่าจะมีกำไรสูงถึง 100 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมองว่า ธุรกิจสเต็มเซลล์ เชื่อว่ามีทั้งคนที่เข้าใจและไม่สนใจ ซึ่งธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความพร้อมจัดเก็บไว้ก่อน และในอนาคตถ้ามีเทคโนโลยีมากกว่านี้ ก็นำเซลล์มารักษาตัวเองให้มากยิ่งขึ้นได้