รายงานพิเศษ : DMT ติดกลุ่มแนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้นไม่แพง-ปันผลสูง 8.9%
บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง (DMT) ยังเติบโตได้ดี ผลจากปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนเติบโตต่อเนื่องจากปัจจัยทางฤดูกาล และการกลับมาให้บริการของสายการบิน AirAisa X โดยบล.ทิสโก้ยังคงแนะนำ “ซื้อ” จากราคาหุ้นในปัจจุบันยังมีราคาไม่แพงและผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 8.9%
บล.ทิสโก้ วิเคราะห์หุ้น บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง (DMT) โดยคาดในไตรมาส 3/67 บริษัทจะเติบโตทั้งจากปีก่อน และ จากไตรมาสก่อน เนื่องจากปริมาณรถใช้ทางด่วนเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน และจากไตรมาสก่อน ตามปัจจัยทางฤดูกาล ซึ่งเรายังคงชอบ DMT จาก
1) คาดกำไรไตรมาส 3/67 เพิ่มขึ้นทั้งจากปีก่อน และจากไตรมาสก่อน จากปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2) คาดกำไรปี 67 และ 68 ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากแนวโน้มปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการเติบโตของผู้โดยสารสนามบินดอนเมืองหลังการกลับมาของสายการบิน AirAsia X รวมถึงอานิสงส์ จากการปรับขึ้นอัตราค่าผ่านทางในเดือนธ.ค.นี้
3) ราคาหุ้นในปัจจุบันยังมีราคาไม่แพง โดยปัจจุบัน DMT ซื้อขายอยู่ที่ 2024F PER ที่ 9.1 เท่านั้นและให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 8.9% คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/67 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน การจำนวนปริมาณการจร่าจรที่เพิ่มขึ้น
ส่วนบล.ทิสโก้คาดการณ์ว่า DMT จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 271 ล้านบาท 0.8% จากปีก่อน, เพิ่มขึ้น 14.3% จากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้นจากปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นช่วงเปิดภาคเรียนและเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ทำให้มีผู้ใช้ทางยกระดับเพื่อ หลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดบนถนนวิภาวดีฯ โดยคาดรายได้ค่าผ่านทางอยู่ที่ 628 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% จากปีก่อน เพิ่มขึ้น 7.7% จากไตรมาสก่อน
และคาดจำนวนรถใช้ทางยกระดับในไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 112,198 คันต่อวัน เพิ่มขึ้น 4.4% จากปีก่อน 5.2% จากไตรมาสก่อน แบ่งเป็น จำนวนรถใช้ทางด่วนสัมปทานเดิม 71,499 คันต่อวัน เพิ่มขึ้น 5.3% จากปีก่อน เพิ่มขึ้น 2.9% จากไตรมาสก่อน
และสัมปทานส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ 40,699 คันต่อวัน สำหรับอัตราค่าผ่านทางเฉลี่ยต่อคันอยู่ที่ 60.90 บาท เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน แต่ทรงตัวจากไตรมาสก่อน และสำหรับอัตรากำไรขั้นต้นคาดอยู่ที่ 63.6% จากเดิม 62.2% ในไตรมาสก่อนหน้า จากการบริหารด้านต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ปรับประมาณการกำไรปี 2024-26F ลงสะท้อนปริมาณการจราจรที่น้อยกว่าคาด
แม้เราจะคาดว่าปริมาณการจราจรในไตรมาส 3/67 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง แต่ตัวเลขปริมาณการจราจรใน 9 เดือนปี 67 อยู่ที่ 111,476 คันต่อวัน ยังคงต่ำกว่าตัวเลขที่เราคาดไว้สำหรับปี 67 ที่ 128,126 ตันต่อวัน ค่อนข้างมาก
สาเหตุมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และปริมาณการใช้รถที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่หลัง Covid-19 ทำให้เราปรับลดประมาณการปริมาณการจราจรปี 67 ลงมาอยู่ที่ 113,831 คันต่อวัน ส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 67-69 ของเราปรับลดลง 11%, 15%, และ 14% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม เรายังคงคาดว่า ปริมาณการจราจรรวมในwไตรมาส 4/67 และปี 68 จะเติบโตขึ้นจากการกลับมาให้บริการของสายการบิน AirAisa X ที่จะย้ายทุกเที่ยวบินกลับมาให้บริการที่สนามบินดอนเมือง ส่งผลให้แนวโน้มผู้โดยสารสนามบินดอนเมืองจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อปริมาณการจราจรของ DMT
นอกจากนี้ การปรับขึ้นอัตราค่าผ่านทาง 5-10 บาทในเดือน ธ.ค.นี้ จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผลักดันรายได้ค่าผ่านทางและกำไรของบริษัทตั้งแต่ ไตรมาส 4/67 เป็นต้นไป
ยังคงแนะนำ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสมใหม่ที่ 13.10 บาท จากเดิม 14.30 บาท โดยคิดจากวิธิ Discount Cash Flow ด้วยสมมติฐาน WACC 9.2% โดยอิงจาก risk free rate ที่ 3.2% risk premium 6.4% Beta 1 และประเมินมูลค่าถึงสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2034
ด้านผู้บริหาร “ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย” กรรมการผู้จัดการ DMT กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 มีทิศทางสดใส จากปริมาณการจราจรบนทางยกระดับดอนเมืองที่เพิ่มขึ้น โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย เข้ามาใช้บริการ สนับสนุนรายได้เติบโตต่อเนื่อง เทียบไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากสายการบินนานาชาติเพิ่มมากขึ้น จากการกลับมาใช้อาคาร 1 สนามบินดอนเมือง ที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ ทำให้ปริมาณการจราจรบนทางยกระดับดอนเมืองสูงขึ้น
ซึ่งผู้บริหารมั่นใจว่า แนวโน้มรายได้รวมในปี 2567 จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันคาดว่าจะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 116,000 คันต่อวัน จากปี 2566 เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 106,907 คันต่อวัน