รายงานพิเศษ : BKGI บุกตลาด“การแพทย์จีโนมิกส์” เน้นดูแลสุขภาพเชิงป้องกันดันรายได้โต

บมจ. แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น (BKGI)  ผู้นำเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ “การแพทย์จีโนมิกส์” เน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน CEO มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโต 30% เดินหน้าจับมือพันธมิตร ขยายการให้บริการใหม่ๆ  เพิ่มฐานลูกค้าทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง 

โดยบล.กรุงศรีวิเคราะห์ผลงาน บมจ. แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น (BKGI)  โดยระบุว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 ของ BKGI มีกำไรสุทธิ 14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106% จากปีก่อน  เพิ่มขึ้น 4%จากไตรมาสก่อน 

เนื่องจาก 1) รายได้รวมเติบโตสูงจากรายได้ขายมีการส่งมอบเครื่องตรวจพันธุกรรมและน้ำยาตรวจฯ เพิ่มขึ้น 

2) มี Gross margin 40.9% ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน แต่ลดลงจากปีก่อนตามสัดส่วนรายได้ขาย (margin น้อย) มีสัดส่วนเพิ่มเป็น 29% และ3) ค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้นในอัตราน้อยกว่ารายได้  ส่งผลงวด 9 เดือนปี 67 มีกำไรสุทธิ38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% จากปีก่อ คิดเป็น 74% ของกำไรสุทธิปี 67 ที่ 51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59% จากปีก่อน

ส่วนไตรมาส 4/67 คาดกำไรสุทธิเติบโตจากปีก่อนจากไตรมาส 4/66 กำไรสุทธิราว 7 ล้านบาท ทรงตัวจากไตรมาสก่อนเนื่องจาก1) คาดรายได้รวมเติบโตโตสูง ตามรายได้ขายที่ส่งมอบเครื่องมือตรวจฯ และน้ำยาตรวจฯ เพิ่มขึ้น ส่วนรายได้ให้บริการคาดเติบโตจากปีก่อน แต่ลดลงจากไตรมาสก่อน ตามการตรวจคัดกรองวิธี NIPT 

2) คาด Gross  margin ลดลงจากตามสัดส่วนรายได้ขายที่เพิ่มขึ้น คงกำไรสุทธิปี 67 ที่ 51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น59% จากปีก่อน ส่วนปี 68 คาดกำไรสุทธิ 66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากปีก่อน เนื่องจากคาดรายได้รวมเติบโตเพิ่มขึ้น 24%จากปีก่อนและคาด Gross margin ใกล้เคียงปี 67 ที่43.7%

ดังนั้นจึงแนะนำ Trading Buy สำหรับ BKGI ราคาเป้าหมายปี 68 ที่ 2.80 บาท) ประเมินด้วยวิธี DCF WACC 10% และ L-T growth 3% คิดเป็น Imply PE ปี 68 ที่ 25 เท่า เนื่องจาก 

ขณะที่ ดร.เสาวลักษณ์ ด่านสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BKGI ระบุ เแนวโน้มผลการดำเนินธุรกิจในปี2567ของบริษัทฯ มีสัญญาณที่ดีและทิศทางการเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา จากการให้บริการตรวจคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรม และอนามัยเจริญพันธุ์ที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีการทำการตลาดเกี่ยวกับการบริการมากขึ้น ทำให้เป็นที่รู้จักในตลาดอย่างแพร่หลาย 

รวมถึงการขายเครื่องมือทางการแพทย์ และน้ำยาในการตรวจให้กับโครงการจัดตั้งห้องแลป ของโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ และการมีพันธมิตรทางการค้าเพิ่มมากขึ้น จากการขยายการให้บริการใหม่ๆ ซึ่งมีการตอบรับเป็นอย่างดี และในปี2567บริษัทฯ ตั้งเป้ารายการได้เติบโตไว้ที่ 30%จากปีก่อน 

“ในอนาคตประชาชนจะให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพมากขึ้น ทำให้เทคโนโลยีที่จะใช้ในทางการแพทย์มีความจำเป็นสูงขึ้นตามไปด้วย และการตรวจคัดกรองทางพันธุรกรรมเป็นเทคโนโลยีการแพทย์ระดับสูงที่สามารถตรวจได้เจาะจงรายบุคคล ผลการวิเคราะห์จะบ่งชี้ถึงความเสี่ยงของโรค เมื่อรู้ก่อนก็สามารถป้องกันหรือรักษาได้ ซึ่งการเปิดให้บริการใหม่ๆ ด้านการแพทย์จีโนมิกส์ของบริษัทฯ จะดึงดูดกลุ่มลูกค้า และพันธมิตรภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการมีจำนวนฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”ดร.เสาวลักษณ์ กล่าว

ทั้งนี้ BKGI ให้บริการตรวจ และคัดกรองพันธุกรรมได้ทุกช่วงอายุตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ ไปจนถึงวัยชรา รวมถึงการตรวจวิเคราะห์กลุ่มโรคติดเชื้อ และการตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ภายใต้เครื่องหมายการค้า ได้แก่ NIFTY, VISTA, NOVA, BGI-XOME, COLOTECT, SENTISและDNALLซึ่งเป็นที่ยอมรับของคู่ค้าและผู้ใช้บริการ

ด้านนายกิตติคุณ รอดรังนก ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน BKGI กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส3/2567มาจากการให้บริการตรวจคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ การให้บริการตรวจคัดกรองอื่นๆ และการจำหน่ายเครื่องมือห้องปฏิบัติการและBKGI ยังเป็น Flagship รองรับแผนขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน เพราะมี BGI ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยสนับสนุนการเติบโตในอนาคตได้เป็นอย่างดี