จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงโตทั้งตลาดในปท.และตปท. หนุน FM ผนึกพันธมิตรแตกไลน์แหล่งสร้างรายได้
08 พฤศจิกายน 2567
ธุรกิจ“อาหารสัตว์เลี้ยง” ยังเป็นตลาดที่เติบโตได้ดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากจำนวนผู้เลี้ยงสัตว์ที่มีมากขึ้น ปัจจัยสนับสนุนการขยายฐานธุรกิจของ บมจ.ฟู้ดโมเม้นท์ (FM) ที่อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร คาดจะมีความชัดเจนภายใน1-2 เดือนนี้
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ รายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนก.ย. 67 โดยการส่งออกมีมูลค่า 25,983 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 1.1% จากเดือนเดียวกันของปี ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 25,589 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 9.9% ส่งผลให้ในเดือนก.ย.นี้ ไทยเกินดุลการค้า 394 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นการเกินดุลการค้าต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2
ซึ่งการส่งออกในเดือนก.ย.นี้ ได้รับปัจจัยบวก จากภาวะการค้าโลก และเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่เติบโตดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ ที่เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าเกษตร และอาหารมีแนวโน้มเติบโตได้ดี และคำสั่งซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เติบโตตามรอบวัฎจักร ส่งผลดีต่อสินค้าที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิต
และหากพิจารณาการส่งออกเดือนก.ย. เป็นรายกลุ่มสินค้า จะพบว่าทุกกลุ่มสินค้ายังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เช่น
- สินค้าเกษตร ขยายตัว 0.2% ที่มูลค่า 2,370 ล้านดอลลาร์ โดยขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 สำหรับสินค้าสำคัญ ที่การส่งออกขยายตัวได้ดี เช่น ยางพารา, ข้าว และไก่แปรรูป
- สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัว 7.8% ที่มูลค่า 1,973 ล้านดอลลาร์ โดยขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 สำหรับสินค้าสำคัญ ที่การส่งออกขยายตัวได้ดี เช่น ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์, อาหารสัตว์เลี้ยง, อาหารทะเลกระป๋อง และแปรรูป
โดยตลาดส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรกของไทยในเดือน ก.ย.นี้ ได้แก่ อันดับ 1 สหราชอาณาจักร ขยายตัว 29.3% อันดับ 2 สหรัฐฯ ขยายตัว 18.1% อันดับ 3 ลาตินอเมริกา ขยายตัว 15% อันดับ 4 ออสเตรเลีย ขยายตัว 12% อันดับ 5 แคนาดา ขยายตัว 9.1% อันดับ 6 CLMV ขยายตัว 8.3% อันดับ 7 สหภาพยุโรป ขยายตัว 4.1% อันดับ 8 ตะวันออกกลาง ขยายตัว 3.5% อันดับ 9 ไต้หวัน ขยายตัว 3.2% และอันดับ 10 แอฟริกา ขยายตัว 1.6%
อาหารสัตว์ยังเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตได้ดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดมูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศปี 67 โต 15.8% จากปีก่อน ตามจำนวนสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น โดยพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเติบโตคือ กรุงเทพฯ และปริมณฑล เนื่องจากมีจำนวนสัตว์เลี้ยงมากที่สุดและผู้เลี้ยงมีกำลังซื้อ
ส่วนมูลค่าการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยปี 67 คาดโต 19.5% จากปีก่อนที่หดตัว 15.0% จากความต้องการของคู่ค้าหลักที่ทยอยฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำ อาทิ สหรัฐฯ อิตาลี ญี่ปุ่น ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันกว่า 50% รวมถึงการส่งออกไปยังตลาดรองที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะอังกฤษและนิวซีแลนด์
ซึ่งในส่วนของการส่งออก ยังสอดคล้องกับการรายงานของกระทรวงพาณิชย์ ที่พบว่าอุตสาหกรรมเดือนก.ย.ยังขยายตัวได้ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายธุรกิจของบมจ.ฟู้ดโมเม้นท์ (FM) โดยนายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รับว่าบริษัทมีแผนที่จะแตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง( Pet Food) และคาดจะได้ความชัดเจนในปลายปีนี้ และดีลน่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 1/68 โดยเบื้องต้นจะเข้าถือหุ้นราว 25-30% ซึ่งบริษัทได้กันเงินลงทุนส่วนหนึ่งจากการเสนอขายหุ้น IPO ที่ระดมทุนได้ 250 ล้านบาทไว้แล้ว
ทั้งนี้ FM มองว่าขนาดธุรกิจที่เหมาะสมกับการลงทุนในเบื้องต้นนี้มองกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง 2 พันตัน/เดือน คาดจะสร้างยอดขายไม่เกินปีละ 1,000 ล้านบาท น่าจะเริ่มรับรู้กำไรได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/68
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ รายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนก.ย. 67 โดยการส่งออกมีมูลค่า 25,983 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 1.1% จากเดือนเดียวกันของปี ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 25,589 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 9.9% ส่งผลให้ในเดือนก.ย.นี้ ไทยเกินดุลการค้า 394 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นการเกินดุลการค้าต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2
ซึ่งการส่งออกในเดือนก.ย.นี้ ได้รับปัจจัยบวก จากภาวะการค้าโลก และเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่เติบโตดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ ที่เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าเกษตร และอาหารมีแนวโน้มเติบโตได้ดี และคำสั่งซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เติบโตตามรอบวัฎจักร ส่งผลดีต่อสินค้าที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิต
และหากพิจารณาการส่งออกเดือนก.ย. เป็นรายกลุ่มสินค้า จะพบว่าทุกกลุ่มสินค้ายังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เช่น
- สินค้าเกษตร ขยายตัว 0.2% ที่มูลค่า 2,370 ล้านดอลลาร์ โดยขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 สำหรับสินค้าสำคัญ ที่การส่งออกขยายตัวได้ดี เช่น ยางพารา, ข้าว และไก่แปรรูป
- สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัว 7.8% ที่มูลค่า 1,973 ล้านดอลลาร์ โดยขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 สำหรับสินค้าสำคัญ ที่การส่งออกขยายตัวได้ดี เช่น ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์, อาหารสัตว์เลี้ยง, อาหารทะเลกระป๋อง และแปรรูป
โดยตลาดส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรกของไทยในเดือน ก.ย.นี้ ได้แก่ อันดับ 1 สหราชอาณาจักร ขยายตัว 29.3% อันดับ 2 สหรัฐฯ ขยายตัว 18.1% อันดับ 3 ลาตินอเมริกา ขยายตัว 15% อันดับ 4 ออสเตรเลีย ขยายตัว 12% อันดับ 5 แคนาดา ขยายตัว 9.1% อันดับ 6 CLMV ขยายตัว 8.3% อันดับ 7 สหภาพยุโรป ขยายตัว 4.1% อันดับ 8 ตะวันออกกลาง ขยายตัว 3.5% อันดับ 9 ไต้หวัน ขยายตัว 3.2% และอันดับ 10 แอฟริกา ขยายตัว 1.6%
อาหารสัตว์ยังเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตได้ดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดมูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศปี 67 โต 15.8% จากปีก่อน ตามจำนวนสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น โดยพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเติบโตคือ กรุงเทพฯ และปริมณฑล เนื่องจากมีจำนวนสัตว์เลี้ยงมากที่สุดและผู้เลี้ยงมีกำลังซื้อ
ส่วนมูลค่าการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยปี 67 คาดโต 19.5% จากปีก่อนที่หดตัว 15.0% จากความต้องการของคู่ค้าหลักที่ทยอยฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำ อาทิ สหรัฐฯ อิตาลี ญี่ปุ่น ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันกว่า 50% รวมถึงการส่งออกไปยังตลาดรองที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะอังกฤษและนิวซีแลนด์
ซึ่งในส่วนของการส่งออก ยังสอดคล้องกับการรายงานของกระทรวงพาณิชย์ ที่พบว่าอุตสาหกรรมเดือนก.ย.ยังขยายตัวได้ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายธุรกิจของบมจ.ฟู้ดโมเม้นท์ (FM) โดยนายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รับว่าบริษัทมีแผนที่จะแตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง( Pet Food) และคาดจะได้ความชัดเจนในปลายปีนี้ และดีลน่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 1/68 โดยเบื้องต้นจะเข้าถือหุ้นราว 25-30% ซึ่งบริษัทได้กันเงินลงทุนส่วนหนึ่งจากการเสนอขายหุ้น IPO ที่ระดมทุนได้ 250 ล้านบาทไว้แล้ว
ทั้งนี้ FM มองว่าขนาดธุรกิจที่เหมาะสมกับการลงทุนในเบื้องต้นนี้มองกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง 2 พันตัน/เดือน คาดจะสร้างยอดขายไม่เกินปีละ 1,000 ล้านบาท น่าจะเริ่มรับรู้กำไรได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/68