เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 28-12-22

29 ธันวาคม 2565

28-12-22 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ

***ตอนนี้กระแสของการลงทุนวนอยู่กับสองเรื่องคือการทำ Window Dressing และ การเปิดประเทศของจีน ซึ่งในเรื่องของ Window Dressing กูรูหุ้นระบุว่าจากข้อมูลในอดีตพบว่าสัปดาห์สุดท้ายของปี SET Index จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 0.82% โดยหุ้นกลุ่มนำตลาด คือ ค้าปลีกและสื่อโฆษณา 1.5% ตามมาด้วยกลุ่มโรงแรม 0.7% ส่วนภาพตั้งแต่ต้นปี(YTD) พบว่าหุ้นใน SET50 ที่ยัง Laggard จึงมีโอกาสถูกทำ Window Dressing สูงได้แก่ CBG (-21.3%) GPSC (-20%) OSP (- 19.7%) SCGP (-19.4%) SCB (-17.3%) และ SCC (-13.7%)

***ส่วนเรื่อง จีนประกาศยกเลิกมาตรการกักตัวเริ่ม 8 ม.ค. 23 หลังจากที่มีการบังคับใช้มานาน 3 ปีเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19นอกจากนี้ จีนจะผ่อนคลายมาตรการจัดการเกี่ยวกับโควิด-19 สู่ระดับ Category B จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ Category A ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันขั้นสูงสุดนั้น

***บรรดากูรูต่างมองว่าเป็นบวกต่อการเริ่มผ่อนคลายการกักตัวลง โดยคาดว่าจะผลดีต่อนักท่องเที่ยวจีนที่จะมีการเดินทางออกนอกประเทศเพื่อท่องเที่ยวมากขึ้น ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจีนเป็นประเทศที่มีสัดส่วนรายได้เข้าไทยสูงที่สุด โดยในช่วงปี 2019 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยมากสุดราว 11 ล้านคน คิดเป็น 25% ของนักท่องเที่ยวโดยรวม และการผ่อนคลายดังกล่าวจะทำให้มีโอกาสที่จะเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบได้เร็วมากกว่าคาดใน 2H23E ซึ่งจะเป็น upside กับตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนในปี 2023E จะเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านคน จากเดิมที่คาดไว้ที่ 2 ล้านคน นอกจากนี้จะเป็น upside ต่อประมาณการกำไรของกลุ่มท่องเที่ยว

***เซียนหุ้นชี้เป้าหุ้น Top picks ที่ได้ประโยชน์จากจีนมีแนวโน้มผ่อนคลายมาตรการโควิดมากขึ้น ได้แก่

-CENTEL ( ซื้อ /เป้า 54.00 บาท)จะได้ประโยชน์จากรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ 10%

-AAV (ซื้อ /เป้า 3.70 บาท) ท าให้ผู้โดยสารจีนเพิ่มขึ้น และมีโอกาสที่จีนจะเพิ่มโควต้าเที่ยวบินเพิ่มในอนาคต (ปัจจุบัน AAV มี 2 เที่ยวบิน/สัปดาห์) โดยสถานการณ์ปกติสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยว 25%

-BAFS ( ซื้อ /เป้า 35.00 บาท) ได้ผลบวกจากแนวโน้มเที่ยวบินจีนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะหนุนปริมาณเติมน้ำมันอากาศยาน โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากเที่ยวบินจีนราว 10-15%

-AOT ( ซื้อ /เป้า 82.00 บาท) โดยสถานการณ์ปกติสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีน 15%

-ERW ( ซื้อ /เป้า 5.20 บาท)จะได้ประโยชน์จากรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนที่สูงที่สุดในกลุ่มอยู่ที่ 12%

-SPA (Bloomberg consensus 11.82 บาท) เพราะมีสัดส่วนรายได้จากจีน 50-55%

-EKH (ถือ/เป้า 8.50 บาท)จากการเข้ารับศูนย์บริการ IVF โดยเดิมมีสัดส่วนรายได้ของจีนราว10% โดยมองว่าจะมีผู้ป่ วย IVF เข้ามารักษา 300 คู่ ในปี 2023E โดยคาดว่าจีนจะกลับเข้ามาใช้บริการใน 2Q23E ซึ่งหากจีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาดจะเป็น upside ให้กับรายได้ของ IVF

-SNNP ( ซื้อ /เป้า 30.00 บาท) สัดส่วนรายได้นักท่องเที่ยวจีน 8% ของรายได้รวม

-WHA (ซื้อ/เป้า 4.60 บาท) จากนักลงทุนที่จะเดินทางเข้าไทยมากขึ้น บวกต่อยอด presaleและ transfer ที่จะอยู่ในระดับสูง

***ส่วนอีกสายประเมินตลาด “Up” ปัจจัยบวกสำคัญของการเปิดประเทศของจีน เข้ามาไวกว่าตลาดคาดว่าจะเป็นสิ้นเดือน มี.ค. 2023เบื้องต้นคาด 2023F GDP ไทยจะเร่งสู่กรณี Best Case 4.4% จากเดิมคาด 3.8% และสมมติฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติ 28 ล้านราย น่าจะมี Upside Risk เบื้องต้นประเมิน 31-34 ล้านราย โดยได้ประเมินหุ้นได้ประโยชน์ China Reopening จะนำตลาด (AOT, AMATA, AWC, AAV, ERW,BAFS, CENTEL, MINT, SNNP, WHA, SCGP, SPA)

***รักใคร-ชอบใคร-อยากลงทุนเท่าใด จัดไป..อย่าให้เสียค่ะพี่น้อง!!!!