จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : I2 หุ้นราคาถูก-ปันผลสูง ลุ้นชนะงานประมูลขนาดใหญ่ไตรมาส 4/67
11 พฤศจิกายน 2567
บมจ.ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) ยังคงได้รับการแนะนำ “ซื้อ” แม้งบระยะสั้นจะไม่โดดเด่น แต่เป็นหุ้นที่ยังมีราคาถูก ให้ปันผลสูง และมีโอกาสชนะประมูลงานขนาดใหญ่ในไตรมาส 4/67 หนุนผลงานเติบโตต่อเนื่อง
บล.หยวนต้าวิเคราะห์ผลงานไตรมาส 3/67 ของบมจ.ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) ซึ่งประกอบธุรกิจบริการ System Integration (SI) แบบครบวงจร ได้แก่ ให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร โทรคมนาคม และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น Infrastructure, Network, Transformation, อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสัญญาณดาวเทียม และเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงาน
โดยคาดการณ์กำไรไตรมาส 3/67 มีกำไรปกติที่ 28 ล้านบาท ลดลง 1%จากไตรมาสก่อน ลดลง 11%จากปีก่อน ซึ่งกำไรที่ทรงตัวในไตรมาสก่อน และลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน มาจากฐานที่สูง และคาด Backlog สิ้น ไตรมาส 3/67 ยังแข็งแกร่งที่ระดับใกล้เคียงกับสิ้นไตรมาส 2/67 ขณะที่ไตรมาส 4/67 ถึงไตรมาส 1/68 บริษัทมีลุ้นงานประมูลขนาดใหญ่ 2 งาน หลักหลายร้อยล้านบาท
บริษัทได้ปรับลดประมาณการปี 2567-2568 ลง8% และ 9% โดยคาดกำไรปกติปี 2567 ที่ 100 ล้านบาท (+17%จากปีก่อน) และปี 2568 ที่ 115 ล้านบาท (+15% จากปีก่อน)
แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสมใหม่สิ้นปี 2568 ที่ 2.74 บาทต่อหุ้น โดย I2 เป็นหุ้นน่าสนใจแม้งบระยะสั้นไม่โดดเด่น แต่หุ้นมีราคาถูก ให้ปันผลสูงและมีลุ้นชนะงานขนาดใหญ่ไตรมาส 4/67
ทั้งนี้ I2 อนาคตยังมีความโดดเด่นจากการที่รัฐบาลสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นฮับ บล็อกเชน ระดับโลกเพื่อดึงดูดการลงทุน ซึ่งจะสนับสนุนธุรกิจไม่ทางตรงก็ทางอ้อมของบริษัทในฐานะผู้ให้บริการ System Integration (SI) แบบครบวงจร โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เชื่อว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี บล็อกเชน ระดับโลก ด้วยศักยภาพด้านทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และมีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่แข็งแกร่ง ที่จะดึงดูดนักลงทุน นักพัฒนา และผู้ประกอบการจากทั่วโลกให้มาลงทุนและ สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ
ทั้งนี้เทคโนโลยี บล็อกเชน เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่จะปฏิวัติวงการการเงินเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การจัดเก็บข้อมูลประชาชน การออกใบอนุญาต การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ การสาธารณสุข เป็นต้น
อย่างไรก็ตามหากประเทศไทยยกระดับเทคโนโลยีเทียบเท่าระดับสากลแล้ว ก็จะสามารถดึงดูดทรัพยากรมนุษย์ และ Digital Nomad จากหลายหลายวงการ เข้ามาในประเทศเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย เนื่องจากเหล่าผู้ประกอบการบุคลากร และ Digital Nomad เหล่านี้จะนำเงินทุน ความรู้ และทักษะใหม่ๆ เข้ามาสู่ประเทศ และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น
บล.หยวนต้าวิเคราะห์ผลงานไตรมาส 3/67 ของบมจ.ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) ซึ่งประกอบธุรกิจบริการ System Integration (SI) แบบครบวงจร ได้แก่ ให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร โทรคมนาคม และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น Infrastructure, Network, Transformation, อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสัญญาณดาวเทียม และเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงาน
โดยคาดการณ์กำไรไตรมาส 3/67 มีกำไรปกติที่ 28 ล้านบาท ลดลง 1%จากไตรมาสก่อน ลดลง 11%จากปีก่อน ซึ่งกำไรที่ทรงตัวในไตรมาสก่อน และลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน มาจากฐานที่สูง และคาด Backlog สิ้น ไตรมาส 3/67 ยังแข็งแกร่งที่ระดับใกล้เคียงกับสิ้นไตรมาส 2/67 ขณะที่ไตรมาส 4/67 ถึงไตรมาส 1/68 บริษัทมีลุ้นงานประมูลขนาดใหญ่ 2 งาน หลักหลายร้อยล้านบาท
บริษัทได้ปรับลดประมาณการปี 2567-2568 ลง8% และ 9% โดยคาดกำไรปกติปี 2567 ที่ 100 ล้านบาท (+17%จากปีก่อน) และปี 2568 ที่ 115 ล้านบาท (+15% จากปีก่อน)
แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสมใหม่สิ้นปี 2568 ที่ 2.74 บาทต่อหุ้น โดย I2 เป็นหุ้นน่าสนใจแม้งบระยะสั้นไม่โดดเด่น แต่หุ้นมีราคาถูก ให้ปันผลสูงและมีลุ้นชนะงานขนาดใหญ่ไตรมาส 4/67
ทั้งนี้ I2 อนาคตยังมีความโดดเด่นจากการที่รัฐบาลสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นฮับ บล็อกเชน ระดับโลกเพื่อดึงดูดการลงทุน ซึ่งจะสนับสนุนธุรกิจไม่ทางตรงก็ทางอ้อมของบริษัทในฐานะผู้ให้บริการ System Integration (SI) แบบครบวงจร โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เชื่อว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี บล็อกเชน ระดับโลก ด้วยศักยภาพด้านทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และมีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่แข็งแกร่ง ที่จะดึงดูดนักลงทุน นักพัฒนา และผู้ประกอบการจากทั่วโลกให้มาลงทุนและ สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ
ทั้งนี้เทคโนโลยี บล็อกเชน เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่จะปฏิวัติวงการการเงินเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การจัดเก็บข้อมูลประชาชน การออกใบอนุญาต การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ การสาธารณสุข เป็นต้น
อย่างไรก็ตามหากประเทศไทยยกระดับเทคโนโลยีเทียบเท่าระดับสากลแล้ว ก็จะสามารถดึงดูดทรัพยากรมนุษย์ และ Digital Nomad จากหลายหลายวงการ เข้ามาในประเทศเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย เนื่องจากเหล่าผู้ประกอบการบุคลากร และ Digital Nomad เหล่านี้จะนำเงินทุน ความรู้ และทักษะใหม่ๆ เข้ามาสู่ประเทศ และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น