จะเกิดอะไรขึ้น? กับ TRUE หลังเสียสิทธิ์ถ่ายฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ให้กับคู่แข่งที่สำคัญทางการตลาด
จากประเด็นที่ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ประกาศคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพสำหรับประเทศไทย ลาว และกัมพูชา ในทุกช่องทางถ่ายทอดสด (อินเตอร์เน็ต ทีวี, ดิจิทัล ทีวี, ทีวี ดาวเทียม เคเบิลทีวี ไอพีทีวี และ OTT) 3-6 ฤดูกาล (แล้วแต่วันยืนยันข้อตกลงระหว่าง JAS กับเจ้าของลิขสิทธ์) มีผลตั้งแต่ฤดูกาล 2025/26 คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.9 หมื่นล้านบาท
ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาด TRUE ได้เข้าแข่งขันประมูล แต่มูลค่าการประมูลเกินกว่าระดับที่บริษัทฯ จะทำกำไรได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นคาดบริษัทน่าจะเลือกที่จะไม่แข่งขันด้านราคาและหาทางเลือกอื่นๆ ให้กับลูกค้าแทน
ปัจจุบัน TRUE ยังมีสิทธิในการถ่ายทอดถึงพฤษภาคม 2568 หรือสิ้นสุดฤดูกาลนี้ทำให้มีเวลาในการบริหารผลกระทบที่อาจเกิดกับ ลูกค้า TRUE Vision หรือ TRUE ID บางส่วนที่เลือกสมัครเพราะเน้น Package Premier League ดังกล่าว
โดยรวมมองเป็นกลางกับ TRUE ตลาดอาจจะตกใจเพราะสูญเสีย Content สำคัญ แต่การไม่ทำธุรกิจที่ไม่ทำกำไร และไม่ประมูลในราคาสูงมากเหมือนในอดีตสะท้อนวินัยทางการเงินที่ดีขึ้นมากในยุค New Co. ที่มี DTAC มาร่วมบริหาร และสะท้อนว่า บริษัทฯ เดินหน้ามุ่งหากำไรเป็นหลักดีกับหุ้นในระยะยาว
ขณะที่การแข่งขันอาจมีผลกระทบบ้างจากคู่แข่งมี Content ที่เป็น Key Content แต่จากราคาประมูลที่สูงขนาดนี้ ประเมินไม่ง่ายที่จะทำกำไร และราคาขายให้ลูกค้าจำเป็นต้องอยู่ในระดับสูง
นอกจากนี้ TRUE ยังมี Content อื่นๆที่ใช้ประคองผลกระทบให้ ไม่มากนัก และธุรกิจ PayTV ไม่ใช่ธุรกิจที่ทำกำไรเด่นของกลุ่ม TRUE อยู่แล้ว เป็นธุรกิจที่ทำประคองตัวเพื่อให้มี Convergence ครบถ้วนมากกว่า เมื่อตลาดมือถือและอินเตอร์เน็ตบ้านแข็งแกร่งมากจากการรวมตลาดไปแล้ว ทำให้ความจำเป็นต้องมี Content ระดับ Magnet ลดลง
ดังนั้นคงคำแนะนำ “ซื้อ TRUE อิงราคาเหมาะสม 14.00 บาทต่อหุ้น เชิงกลยุทธ์หากราคาหุ้นตกใจเพราะข่าวดังกล่าว เป็นโอกาสใน การสะสม ผลกระทบสุทธิไม่ได้แย่ แม้อาจเสียลูกค้าไปบ้าง แต่ต้นทุนหายไปมาก และยังมีเวลาในการบริหารจัดการอีก 6 เดือน ล่วงหน้า
ส่วนความเห็นนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด มองจากข่าวที่จาก JAS ได้มีการประกาศว่าบริษัทได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอล English Premier League (EPL) เริ่มฤดูกาล 2025/26 นั้น เบื้องต้นเราคาดว่าผลกระทบต่อ TRUE ซึ่งเป็นผู้ได้ลิขสิทธิ์ปัจจุบันนั้นค่อนข้างจำกัด
ทั้งนี้เท่าที่สอบถามทาง TRUE นั้นบริษัทไม่ได้มีการเปิดเผยถึงตัวเลขต้นทุนของ EPL ว่าเป็นเท่าไหร่ เพียงแต่บอกว่าปัจจุบัน EPL นั้นเป็นธุรกิจที่ทำกำไรให้กับบริษัท และคาดว่าผลกระทบของการที่ไม่มี EPL นั้นจำกัดเนื่องจาก TrueVision เองก็ยังมี Content กีฬาอื่นๆอีกมากมาย
โดยลองดูสมัยปี 2012-2015 ตอนที่ CTH เป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอด EPL นั้นรายได้ของธุรกิจ PayTV ของ TRUE แทบจะไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบเลย
ดังนั้นมองว่าในกรณีที่ราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงบน Sentiment เรื่องนี้เป็นโอกาสในการเข้าซื้อ โดยเราคงคำแนะนำ OUTPERFORM ราคาเป้าหมาย 15 บาท