ตามที่นักลงทุนหลายคนจะทราบกันดีว่าในช่วงปลายปี จะมีเม็ดเงินจากกองทุนลดหย่อนภาษีเข้ามาพยุงตลาดหุ้นไทยและในปีนี้สิ่งที่แตกต่างออกไปก็จะมีเม็ดเงินจากกองวายุภักษ์ 1 เข้ามาช่วยพยุงตลาดที่หนึ่งช่องทาง ซึ่งสำหรับนักลงทุนที่จะลงทุนในหุ้นรายตัวก็ถือเป็นโอกาสการลงทุนด้วยเช่นกัน
แต่จะมีหุ้นตัวใดที่เป้าหมายของกองทุนดังกล่าว ในวันนี้ทางเราก็ทำได้การรวบรวมมุมมองจากนักวิเคราะห์พร้อมกับคำแนะนำการลงทุนในหุ้นรายตัวมานำเสนอให้แก่นักลงทุนและผู้อ่านที่น่าสนใจกันในครั้งนี้
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า ในช่วงไตรมาส 4/67 จะมีเม็ดเงินจาก TESG และ VAYU1ที่ต้องลงทุนให้หมดก่อนสิ้นปี ซึ่งเม็ดจะอยู่ที่ 1.7 - 2 แสนล้านบาท จึงมองว่าหุ้นใหญ่ได้ประโยชน์ เช่นADVANC, AOT, BBL, BDMS, CPALL, GULF, KTB และ PTT
สำหรับปัจจัยพื้นฐานหุ้นรายตัว ADVANC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 294 บาท หลังจากที่ราคาหุ้นพักตัวลงมาในช่วง 2 สัปดาห์ล่าสุด ทำให้อัพไซด์กลับมาเปิดให้ซื้อขายอีกครั้ง ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/67 เติบโตดีตามคาดและแนวโน้มไตรมาส 4/67 ดีต่อเนื่อง จึงคาดว่าหุ้นทยอยฟื้นตัว
ถัดมา AOT นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 70 บาท แม้ว่าภาพการเติบโตของกำไรจะชะลอลงไม่โดดเด่นเหมือนในปี 2566-2567 ที่ฟื้นตัวจาก COVID-19 ขณะที่ปัจจุบันหุ้นซื้อขายP/E ที่ 37 เท่า ได้สะท้อนการให้พรีเมี่ยมบนมูลค่าของตลาดมากพอสมควร และประเมินโอกาสปรับประมาณการขึ้นของตลาดยังจำกัด จึงแนะนำค่อยรอเข้าการเก็งกำไรเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว
BBL นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 182 บาท เนื่องจากเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ บนฐานลูกค้ารายใหญ่ที่มีสัดส่วนสูงสุดนอกจากนี้ยังมีความ conservative มาก จึงจะเห็นได้จากมีอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร (Coverage ratio) ที่สูงสุดในกลุ่มและมีเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง ประกอบกับคาดมีอัตราเงินปันผลน่าจูงใจที่ 5.5% ต่อปี
ต่อมา BDMS นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 36.20 บาท เนื่องจากมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการปี 2567 ที่คาดทุบสถิติสูงสุด และยังเติบโตดีต่อเนื่องในช่วง 3ปีข้างหน้า รับผลบวกจากการเปิดประเทศและแผนในการขยายธุรกิจต่อเนื่อง
CPALL นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จํากัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 81 บาท ด้วยปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของกำไร ได้แก่ ยอดขาสาขาเดิมที่เติบโตเร็วขึ้น, อัตรากำไรที่สูงขึ้น และผลประโยชน์จากการทำงานร่วมกัน เนื่องจาก CPAXT ที่รวมการดำเนินงานของ Makro และ Lotus ซึ่งจากการเติบโตของกำไรจะช่วยหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น
ถัดมา GULF นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด แนะนำ “OUTPERFORM” ราคาเป้าหมาย 70 บาท ในปี 2568 สะท้อนการควบรวมเป็น NEWCO แล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับเพิ่มประมาณการและราคาเหมาะสมใหม่ของ ADVANC ในช่วงก่อนหน้า แม้ราคาปัจจุบันเริ่มมีอัพไซด์จํากัด แต่ยังคาดหวังอัพไซด์ส่วนเพิ่มจากธุรกิจใหม่ทั้งคลาวด์, ดาต้า เซ็นเตอร์และเกิดการทำงานใหม่ๆ ที่ยังไม่ถูกรวมไว้
KTB นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 23 บาท เนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง ROE ที่แข็งแกร่งกว่าคู่แข่งที่ 10% ในปี 2567-2568 และคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการเบิกจ่ายของภาครัฐและโครงการภาครัฐที่เพิ่มสูงขึ้น
สุดท้าย PTT นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 38.50 บาท แม้มีปัจจัยบวกจากไม่มีค่า shortfall ก้อนที่ 2 ราว 4,700 ล้านบาทมาฉุดในครึ่งปีหลังปี 67 และอาจบรรลุการเจรจาปรับราคาขายกับ PTTGC ภายในไตรมาส 4/67 แต่เป็นเพียงอัพไซด์ระยะสั้น ไม่ได้เปลี่ยนภาพการเติบโตของกำไรปกติเฉลี่ย 2567 - 2569 ที่ทรงตัว (ธุรกิจฟื้นจากฐานต่ำ) ดังนั้น จึงแนะนำถือเพื่อรับปันผลและมีหลายธุรกิจกระจายความเสี่ยงกำไรไม่ผันผวนเท่าบริษัทลูก