เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 29-12-22
29-12-22 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***ถือว่าเป็นภาค 2 ของเรื่องราวต่อเนื่องจากประเด็นจีนนะตะเอง ประเด็นที่ต้องการสื่อสารในวันนี้คือมีเสียงสะกิดเตือนมาจากกูรูหุ้นว่า จากการ ศึกษาพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น พบว่าหลายบริษัทมีระดับราคาหุ้นสูงกว่าจุดสูงสุดในปี 2562 (ก่อน Covid19 ระบาด) ซึ่งหุ้นลักษณะดังกล่าวต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเข้าไปลงทุน เฉพาะอย่างยิ่งในบริษัทที่ราคาปรับขึ้นไปสูงกว่าปี 2562 แต่ผลประกอบการยังมีฐานกำไรที่ต่ำกว่า
***เซียนหุ้นค่ายนี้ได้เปิด 3 กลุ่มหุ้นเด่น รับจีนเปิดประเทศ คือ 1.ภาคการท่องเที่ยวและบริการ ได้รับแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่คาดว่าจะหลั่งไหลเดินทางเข้าไทยช่วงปลาย 1Q66 โดย ททท. คาดทั้งปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยราว 20 ล้านคน (หุ้นที่ได้ประโยชน์ อาทิ AOT, CENTEL,ERW, MINT, AWC, AU, M, HMPRO, CBG, BEM, BDMS, BCH, CHG)
***2. ภาคการส่งออก ในภาวะปกติปี 2562 ไทยมีสัดส่วนการส่งออกไปจีนราว 12% ของมูลค่าการส่งออก และอยู่อันดับ 2 ของมูลค่าการส่งออกไทยรายประเทศดังนั้นหากจีนเปิดประเทศการค้าของไทยกับจีนน่าจะกลับมาคับคลั่งขึ้น (หุ้นที่ได้ประโยชน์ อาทิ NER, STA, HANA, KCE, TKN) และ 3.กลุ่มน้ำมัน, ปิโตรเคมี & โรงกลั่น คาดว่าจะมี Demand เพิ่มขึ้น เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับ 2 ของโลก (หุ้นที่ได้ประโยชน์ อาทิ PTTGC, IRPC, SCC)
***หมายเหตุ--ตรงนี้สำคัญ--เซียนหุ้นบอกว่าหุ้นที่ได้ประโยชน์จากจีนเปิดประเทศดังกล่าว ยังมีหุ้นที่ราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นไปไม่ถึงจุดสูงสุดในปี 2019 บวกกับปัจจุบันยังมี Upside ให้สะสม ได้แก่ IRPC, PTTGC, SCC, M,MINT, HMPRO, BEM, ERW, AOT เป็นต้น
***นอกจากเรื่องจีนแล้วยังมีอีกเรื่องที่นักลงทุนมองข้ามไปไม่ได้คือการที่ ก.คมนาคม ทิ้งทวน เตรียมเสนอ ครม. 9 โปรเจกต์ ภายใน ก.พ 66 วงเงินรวม 5 แสนล้านบาท เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในเดือน ม.ค-ก.พ 2566 ประกอบไปด้วย โครงการรถไฟไทย-จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากรถไฟไทย-จีนระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โครงการรถไฟสายสีแดงส่วนต่อขยายอีก 4 โครงการ ,รถไฟทางคู่เฟส 2 อีก 3 โครงการ และงานเพิ่มเติม โครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ซึ่ง รมว.คมนาคม ยืนยันว่าจะเดินหน้าผลักดันโครงการลงทุนต่างๆตาม Action Plan ที่ได้วางไว้
***ไม่ต้องบอกก้อรู้ว่าประเด็นนี้ส่งผลบวกโดยตรงกับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ อาทิ ITD,CK,STEC และ UNIQ ซึ่งมีศักยภาพในการเข้าประมูลในฐานะผู้รับเหมาหลัก และยังมีหุ้นที่มีงานเกี่ยวเนื่องกันคือบริษัทรับเหมาเสาเข็มอย่าง SEAFCO และ PYLON ที่พร้อมเข้าไปรับช่วงงานต่อจากผู้รับเหมาหลักทุกราย ..ถึงตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าใครจะได้งาน-หรือ-ไม่ได้งาน แต่ที่รู้ๆ คือ ทุกโครงการล้วนเป็นโครงการที่มีความสำคัญและได้ผ่านการศึกษารายละเอียดมาแล้ว จึงไม่น่าจะถูกยกเลิก แต่อาจมีการจัดลำดับความสำคัญในการเปิดประมูลที่แตกต่างกัน