กระดานข่าว

CMO เปิดงบ 9 เดือน รายได้ 927.64 ล้านบาท พลิกมีกำไร โชว์บริษัทลูก “โมเมนตัม เอส” เติบโตดี - มีปันผล


13 พฤศจิกายน 2567

“ซีเอ็มโอ” (CMO) เปิดผลประกอบการ 9 เดือนแรก ทำรายได้ 927.64 ล้านบาท  โตขึ้น 15% จากปีก่อน ขณะที่ผลงานไตรมาส 3/67 ยังสวย ส่วนหนึ่งมาจากศักยภาพของธุรกิจในเครือที่เติบโตต่อเนื่อง ด้าน “ผู้บริหาร” ยิ้มรับผลงาน ลุยธุรกิจโค้งสุดท้ายของปี ต่อไม่พัก โชว์สถานะการเงินแกร่ง เร่งปั้นรายได้ตามเป้าที่ 1.2-1.5 พันล้านบาท 

Pic _K.Mongkol 2_11zon.jpg

นายมงคล ศีลธรรมพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO ผู้ดำเนินธุรกิจสร้างสรรค์บริหารจัดการงานอีเวนต์ นิทรรศการ พิพิธภัณฑ์ งานประชุมสัมมนา คอนเสิร์ต และเฟสติวัล เปิดเผยถึง ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม – กันยายน 2567) ว่ากลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 927.64  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 122.58  ล้านบาท  คิดเป็นเพิ่มขึ้น 15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้ 805.06 ล้านบาท  

ในส่วนของผลประกอบการไตรมาส 3 ของปี 2567 (กรกฎาคม-กันยายน 2567) บริษัทฯ มีรายได้รวม 312.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อน ซึ่งมีรายได้ 246.28 ล้านบาท  ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 3.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีผลขาดทุน 51.53 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 106% ส่งผลให้ผลขาดทุนสะสมในงวด 9 เดือนลดลงเหลือ 61.79 ล้านบาท จากขาดทุน 200.49 ล้านบาท ในปีก่อนหน้า การฟื้นตัวของกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ สะท้อนถึงการปรับใช้กลยุทธ์ทางการเงินและการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิผล ซึ่งจะเป็นปัจจัยส่งเสริมให้บริษัทสามารถรักษาการเติบโตได้อย่างยั่งยืนและลดผลขาดทุนต่อเนื่องในอนาคต

ทั้งนี้ หากพิจารณาอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญของงบ 9 เดือน ปี 67 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน  จะเห็นว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจให้มีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยมีความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้นด้วยเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท จะเห็นได้จากวงจรเงินสด (Cash Cycle ) อยู่ที่ 4 วัน เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 16 วัน  สะท้อนให้เห็นอัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio) ดีขึ้นปรับมาอยู่ที่ 0.59 เท่า ซึ่งเดิมอยู่ที่ 0.47 เท่า  อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) อยู่ที่ 1.64 เท่า ซึ่งลดลงจากเดิมอยู่ที่ 2.04 เท่า ในส่วนนี้ก็สะท้อนได้ว่า บริษัทฯ มีการบริหารเงินทุนหมุนเวียนที่ดีขึ้น มีประสิทธิภาพในการจัดการหนี้สิ้น   

“จากผลประกอบการ 9 เดือน ถือว่าเป็นผลงานที่อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ เติบโตขึ้นจากปีก่อนเนื่องจาก บริษัทฯ มุ่งเน้นกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกและขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่ต้องการสร้างแบรนด์เพื่อกระตุ้นตลาดในช่วงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มาจากรายได้ของบริษัทในเครือ ทั้งในกลุ่มธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ในการจัดงาน รวมถึง บริษัทให้บริการงานอีเวนต์ ได้แก่ บริษัท โมเมนตัม เอส จำกัด เป็นบริษัทในเครือที่มีศักยภาพการเติบโต และมีแนวทางการขยายงานที่ชัดเจน โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าตลาดใหม่ อาทิเช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า, ธุรกิจอาร์ตทอย (Art Toy) เป็นต้น” นายมงคล กล่าว 

ประธานเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนาธุรกิจ CMO ยังกล่าวอีกว่า ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่บริษัทซีเอ็มโอ เข้าลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มเติม ของ บริษัท โมเมนตัม เอส จำกัด จากร้อยละ 59.99 เป็นร้อยละ 99.99 ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 66 เพราะ หลังจากดำเนินงานภายใต้ทีมผู้บริหารชุดใหม่ ที่มีศักยภาพในการบริหารงาน จนสร้างรายได้เติบโตอย่างโดดเด่น  และให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า โดยสามารถจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลประกอบการ 6 เดือนแรก ให้กับ CMO เป็นจำนวนเงิน 10 ล้านบาท นอกจากนี้ โมเมนตัม เอส ยังมีแผนการขยายธุรกิจเพิ่มเติม เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต นับเป็นการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับบริษัทฯ  ดังนั้น ขอให้นักลงทุนและผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นได้ว่าบริษัท ซีเอ็มโอ มีศักยภาพในการดำเนินงาน พร้อมขับเคลื่อนบริษัทฯ ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้

สำหรับทิศทางตลาดอีเวนต์ในช่วง 2 เดือน สุดท้ายของปี เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นเต็มตัว กลับมาคึกคัก เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาล ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนต่างใช้งบในการจัดอีเวนต์ เพื่อกระตุ้นยอดขายก่อนสิ้นปี ในส่วนของ CMO และบริษัทในเครือทั้งหมด ก็เร่งขยายงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ บวกกับบริษัทฯ ยังมีธุรกิจด้านอื่นๆ เข้ามาเพิ่มรายได้ อาทิเช่น การให้เช่าพื้นที่สำนักงานทั้ง 12 ไร่ สำหรับงานโปรดักชั่นส์ถ่ายละคร ซีรีส์ ภาพยนตร์ โฆษณา และมิวสิควีดีโอ เป็นต้น ซึ่งเป็นอีกธุรกิจของบริษัทฯ ที่มีรายได้เติบโตขึ้นต่อเนื่องทุกปี นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารทำการตลาดให้แบรนด์ต่างๆ และการทำ Digital Content เพื่อตอบเทรนด์ของโลกยุคดิจิทัล อีกด้วย 

ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าเป็นบริษัทเอกชน 80% ส่วนภาครัฐ 20% โดยผลงานที่น่าสนใจในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา อาทิเช่น งานเปิดตัวแคมเปญ แสตมป์เสน่ห์ไทย ใครๆ…ก็หลงรัก” ของเซเว่นฯ , เปิดตัวรถยนตร์ New NISSAN NAVARA, กิจกรรมโรดโชว์ Huawei Digital Bus 2024 โครงการรถดิจิทัลเพื่อสังคม, งานสัมมนาผู้ขายสุดยิ่งใหญ่ของลาซาด้า Lazada Seller Conference 2024 เป็นต้น ตลอดจนงานในกลุ่มพิพิธภัณฑ์ ได้แก่ โครงการก่อสร้างปรับปรุงอาคารนิทรรศการและบริการทางการศึกษา ของหน่วยงานกรมส่งเสริมวัฒนธรรม 

CMO