Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 14-11-24 (19 พ.ย.รอลุ้นของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล)


14 พฤศจิกายน 2567

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม  14-11-24 (19 พ.ย.รอลุ้นของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล)

14-11-24 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

***มีข่าวว่ารัฐบาลจะนัดประชุมคณะกรรมนโยบายกระตุ้นเศรษบกิจในวันที่ 19 พ.ย. 67 โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งก่อนหน้านีกระทรวงการคลัง ได้เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปลายปีเพื่อนําเสนอรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช. คลัง กล่าวว่าในการประชุมในนัดนี้น่าจะมีความชัดเจนว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจะไปในทิศทางใดทั้งมาตรการสั้น กลาง ยาว และรวมถึงมาตรการของขวัญปีใหม่ด้วยนะ!!!

***SET INDEX ของพวกเราน่าจะได้เวลารีบาวน์เล็กๆ ได้แล้วมั้งคะ..อยู่ในแดนลบนานๆ แบบนี้เจ๊ใจไม่ค่อยดี นอกจากเรื่องเฝ้าติดตามดูการประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 3/67 แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกคือ นักลงทุนกําลังเฝ้าดูและประเมินผลกระทบของนโยบายต่าง ๆ ของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือทรัมป์ ที่คาดว่าจะมีผลต่อเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเซีย นโยบายหาเสียงของทรัมป์ ในรอบนี้ “ทรัมป์” ชูสโลแกน “Make America Great Again!” ซึ่งนโยบายนี จะสนับสนุนตลาดหุ้ นสหรัฐฯ เนื่องจากทรัมป์ มีแผนปรับลดภาษี การผ่อนคลายกฎระเบียบในภาคการเงินและการใช้จ่ายทางการคลัง ซึ่งจะกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ และหนุนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ล่าสุดนักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 65% ที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. นี้

***อีกหนึ่งนโยบายของทรัมป์ที่ใช้หาเสียงรอบนี้ คือ ยุติสงครามในภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะสงครามในยูเครน ทําให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงในระยะสั้น ในส่วนของหุ้นไทยที่ผ่านมามีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน โรงกลั่น กังวลอุปทานน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น หลังแบงก์ ออฟ อเมริกา ซิเคียวริตีส์ คาดว่าอุปทานน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน ในปี 2568 และเพิ่มขึ้น 9 แสนบาร์เรล/วัน ในปี 2569

***ส่วนผลประกอบการหุ้นเด่นๆ ที่เจ๊จะหยิบขึ้นมาเล่าวันนี้เริ่มที่  TFG ทำเอาอึ้งตะลึงงัน!!  พร้อมกับบอาการอ้าปากค้างไปสิบวินาที เพราะไตรมาสนี้โชว์กำไรอลังการมากกกกกก 1,260 ลบ. พุ่งพรวดจากไตรมาสสามปีก่อนที่ขาดทุน 445 ลบ. ส่วนผลงานรวมเก้าเดือนพุ่งปรี๊ดดดดดกำไรขึ้นไปแตะ 2,266 ลบ.จากปีก่อนที่ทำไว้เพียง 48 ลบ.

***มีรายงาน TFG กำไรพุ่งแรงขนาดนี้มีสาเหตุหลักมาจากราคาของไก่ที่เพิ่มขึ้น ราคาสุกรทั้งในประเทศไทยและเวียดนามที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ปริมาณสุกรในเวียดนามที่เพิ่มขึ้นจากการขยายฟาร์มที่ผ่านมา การขยายสาขาของร้านค้าปลีก ประกอบกับการบริหารการจัดซื้อวัตถุดิบทำให้มีต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงและบริหารจัดการช่องทางการจ าหน่าย ส่งผลให้ อัตราก าไรขั้นต้นในไตรมาส 3 ของปี 2567 เท่ากับร้อยละ 15.19 ปรับเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่เท่ากับร้อยละ 4.43

***SFLEX ไม่เคยทำให้ผิดหวัง!!! กำไรไตรมาส 3/67 พุ่งแรงอีกแล้วค่ะ..ถ้าเจ๊จำไม่ผิดน่าจะทำสถิตินิวไฮต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 8 หรือ 9 นี่ละค่ะ!!! ครั้งนี้กำไรพุ่งแตะ 75 ลบ.เพิ่มจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่ทำไว้เพียง 48 ลบ.ส่วนรวมยอดเก้าเดือนมีกำไรสุทธิรวม 204 ลบ. เพิ่มจากปีก่อนที่ทำไว้      139 ลบ. สุดยอด!!!

****แบบนี้ต้องปรบมือรัวๆๆๆๆๆ ให้กับ “สมโภชน์ วัลยะเสวี” CEO คนเก่งที่ทำได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้!!! ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่าสาเหตุที่ SFLEX บริหารอัตราการทำกำไรได้ดีเกิดขึ้นจากการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายการผลิตในทุกด้าน โดยเฉพาะค่าวัตถุดิบซึ่งมีการตกลงราคาไว้ล่วงหน้า พร้อมกับการทยอยปรับราคาขายให้เหมาะสมกับต้นทุน นอกจากนี้บริษัทยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากคณะกรรมการสง่ เสริมการลงทุน (BOI)

***นอกจากนี้มี PCE ที่เจ๊เฝ้าติดตามดูอยู่เงียบๆ พอเห็นผลการดำเนินงานเท่านั้นแหละ!!! พูดได้คำเดียว “ต้องมีหุ้น PCE ติดพอร์ต” ไม่มี..ไม่ได้แล้ว เด๋วตกขบวน!!!ไตรมาส 3/67 ทำรายได้จากการขายและบริการรวม 8,858.1 ล้านบาท เติบโต 79% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 188.5 ล้านบาท พุ่งแรง 5,696.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผล 9 เดือนแรกของปี 2567 ทำรายได้จากการขายและบริการแล้ว 21,747.9 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 400.5 ล้านบาท 

***บิ๊กบอสคนเก่ง “ประกิต ประสิทธิ์ศุภผล” ส่งสัญญาณแล้วนะ..ไตรมาส 4 นี้ PCE  จะได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มในประเทศที่ยังคงเติบโต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมโอเลโอเคมิคอล ที่คาดว่าในปี 2567 การบริโภคน้ำมันปาล์มในประเทศ และความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบ (CPO) จะเติบโตเฉลี่ย 6-7%

***สถานการณ์ตอนนี้ มีความต้องการน้ำมันปาล์มดิบที่เพิ่มสูงขึ้นของตลาดโลกตั้งแต่ไตรมาส 3 ต่อเนื่องมายังไตรมาส 4 และคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องจนถึงปี 2568  ขณะที่ผู้นำตลาดน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ของโลกคิดเป็น 59% อย่างอินโดนีเซีย ณ สิ้นเดือนส.ค.67 กลับมีปริมาณน้ำมันปาล์มดิบคงคลังลดลงจากปีก่อนหน้าถึง 13.61% จากปัญหาสภาพอากาศที่ร้อนจัดส่งผลกระทบต่อผลผลิตปาล์มน้ำมัน และยังมีความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบในอุตสาหกรรมไบโอดีเซลภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในเดือนสิงหาฯนี้ ที่ผ่านมามีการใช้ CPO สูงถึง 2.01 ตัน เติบโตจากปี 2566 ถึง 8.92% นอกจากนี้รัฐบาลอินโดนีเซียมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลเป็น B40 ในปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะทำให้ปริมาณน้ำมันปาล์มดิบที่ออกสู่ตลาดโลกเกิดภาวะตึงตัวมากขึ้น เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะเป็นปัจจัยบวกต่อ PCE เนื่องจากประเทศไทยไม่มีการเก็บภาษีส่งออกน้ำมันปามล์ดิบ จึงยังคงมีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก และ PCE ได้ตั้งเป้าหมายการขายเติบโตราว 10-15% ในปี 2567

***ปิดท้ายที่หุ้นเล็กพริกขี้หนู I2 จิ๋มแต่แจ๋ว!!! ภายใต้การบริหารของ “อธิพร ลิ่มเจริญ”ผลงานงวด 9 เดือนปี 67 รายได้รวมแตะ 1,195.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.69%  อานิสงส์ทยอยรับรู้รายได้ส่งมอบงานขนาดใหญ่หลายโครงการ พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง ดันรายได้เติบโตตามเป้าหมาย 20% แตะออลไทม์ไฮ

***”พี่ลิ่ม”บอกว่า “ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปีนี้ บริษัทฯ มียังสามารถทำผลงานเติบโตได้ดีตามแผนที่วางไว้ สามารถส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ได้ตามกำหนด และมีแผนเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานโครงการของภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง” 

***ส่วนแนวโน้มผลงานปี2567 ทาง I2 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% สร้างสถิติใหม่ต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีแผนร่วมประมูลงานใหม่รวมมูลค่าประมาณ 6,455 ล้านบาท คาดว่ามีโอกาสได้รับงานไม่ต่ำกว่า 20% ช่วยผลักดันผลการดำเนินงานในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าให้เติบโตก้าวกระโดด  นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงศึกษาและมองหาโอกาสในการลงในธุรกิจใหม่ โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้าน ESG การใช้พลังงานหมุนเวียน การประหยัดพลังงาน การลดก๊าซเรือนกระจก รวมไปถึงการสรรหาลูกค้าใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้อง และมีแผนลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้าน ESG และด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สอดคล้องเมกะเทรนด์