กระดานข่าว

PMC โชว์ฟอร์มแกร่ง 9 เดือนกำไรโตทะยาน 434% ส่งซิก Q4 โตต่อเนื่อง หนุนรายได้ปีนี้เติบโตเลข 2 หลัก


14 พฤศจิกายน 2567

บมจ.พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ หรือ PMC”  โชว์ฟอร์มแกร่ง ประกาศงบ Q3/2567  มีกำไรสุทธิ 13.37 ลบ. โต 125.8% มีรายได้จากการขายรวมอยู่ที่ 224.3 ลบ. เพิ่มขึ้น 9.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หนุนผลงาน 9 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรอยู่ที่ 37.37 ลบ. เติบโต 434.1% “เอก สุวัฒนพิมพ์แม่ทัพใหญ่ ส่งซิกแนวโน้ม Q4  ทิศทางเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ที่ผ่านมา สนับสนุนเป้ารายได้ปีนี้เติบโตเลข 2 หลัก พร้อมมุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายสติ๊กเกอร์เปล่าในภูมิภาคอาเซียน หลังระดมเงินไอพีโอเพิ่มกำลังการผลิต เป็น 185 ล้านตารางเมตร/ปี

 PMC_นายเอก สุวัฒนพิมพ์.png

นายเอก สุวัฒนพิมพ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMC ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สติ๊กเกอร์หรือฉลากกาวรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่าผลประกอบการของบริษัทในงวดไตรมาส 3/2567 มีรายได้รวมอยู่ที่ 235.85 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายรวมอยู่ที่ 224.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากรายได้จากการขายทั้งในและต่างประเทศ ที่เติบโตขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 13.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125.8% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อันเนื่องมาจากไตรมาส 3/2566 ยังคงได้รับผลกระทบจาก Cost Factor ต่างๆ ที่พร้อมใจกันขึ้น

“ในไตรมาส 3/2567 รายได้โดยรวมเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2567 ด้วยจากความต้องการในประเทศที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น แม้ว่าธุรกิจจะยังได้รับผลกระทบโดยอ้อมจากภาวะเศรษฐกิจที่ซึมตัวจากช่วงหลังโควิด และภาวะสงครามในทวีปยุโรป รวมถึงกระทบจาก  Energy Crisis ในยุโรป และความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ส่งผลให้ราคาวัตถุดิบที่นำเข้ามาปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลต่ออัตรากำไรขั้นต้น แต่บริษัทฯ ก็ยังสามารถรักษากำไรสุทธิของบริษัทฯ เอาไว้ได้ โดยบริษัทฯ ยังคงใช้กลยุทธ์การเพิ่มยอดขายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ฟิล์ม และกลุ่มผลิตภัณฑ์พิเศษอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังสามารถรักษาระดับการเติบโตของยอดขายเข้าไปในกลุ่มดังกล่าวได้ดี” นายเอก กล่าว

โดยบริษัทฯ มีรายได้หลักจากผลิตภัณฑ์ 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์กระดาษ มีสัดส่วนการขาย 60% ผลิตภัณฑ์ฟิล์ม มีสัดส่วนการขาย 26% ผลิตภัณฑ์ฉลากพิเศษ สัดส่วนการขาย 13% และที่เหลือเป็นผลิตภัณฑ์ฉลากอื่นๆ  โดยมีสัดส่วนรายได้จากการขายในตลาดในประเทศ 66% และขายต่างประเทศ 34% จากยอดขายและบริการรวม ณ ไตรมาส 3/2567 โดยสัดส่วนการขายในตลาดต่างประเทศยังสามารถเติบโตได้อีก โดยเฉพาะในทวีปเอเชียและโอเชียเนีย

ขณะที่ผลประกอบการในงวด 9 เดือนแรกปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 670.36 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายรวมอยู่ที่ 656.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.0% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จากรายได้จากการขายทั้งในและต่างประเทศที่เติบโตขึ้น และมีกำไรสุทธิ 37.37 ล้านบาท เติบโต 434.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/2567 ช่วงโค้งสุดท้ายของปี เชื่อว่ามีทิศทางที่ดีจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ที่ผ่านมา สนับสนุนเป้ารายได้ปีนี้เติบโตเลข 2 หลัก และมุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายสติ๊กเกอร์เปล่าในภูมิภาคอาเซียน หลังนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในตลาด mai  ในช่วงปลายไตรมาส 3/2567 ที่ผ่านมา ไปขยายกำลังการผลิตสติ๊กเกอร์จาก 75 ล้านตารางเมตรต่อปี เพิ่มเป็น 185 ล้านตารางเมตรต่อปี หวังเพิ่มยอดขายเติบโตเท่าตัว จากการใช้เครื่องจักรที่มีความทันสมัย ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง ปัจจุบันสายการผลิตใหม่อยู่ระหว่างการทดสอบการเดินเครื่องจักร คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงต้นไตรมาส 1/68

ปัจจุบัน PMC เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สติ๊กเกอร์ (Sticker) หรือฉลากกาว (Self-Adhesive Label) รายใหญ่ของประเทศ บริษัทฯ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ในรูปแบบสติ๊กเกอร์เปล่า ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ สติ๊กเกอร์กระดาษ สติ๊กเกอร์ฟิล์ม และสติ๊กเกอร์ชนิดพิเศษอื่นๆ บริษัทฯ จำหน่ายสติ๊กเกอร์ให้แก่ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจโรงพิมพ์ฉลากสินค้า (Printers) และผู้ผลิตฉลากสินค้า (Converters) เป็นหลัก โดยลูกค้าเหล่านี้จะนำสติ๊กเกอร์เปล่าไปดำเนินการออกแบบ จัดพิมพ์ลวดลายและตัดให้ได้รูปทรง เพื่อผลิตเป็นฉลากสินค้าให้แก่ลูกค้าซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์หรือ End Users อีกทอดหนึ่ง

PMC