จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : PTG โตโดดเด่นทั้งธุรกิจ “Oil-Non oil” ไตรมาส4 high season รับท่องเที่ยวไทย


14 พฤศจิกายน 2567

ผลงานบมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ปีนี้ยังเติบโตได้ดี แม้ช่วงไตรมาส3 จะชะลอเล็กน้อยจากปัจจัยฤดูกาล แต่ในช่วงไตรมาส4 สถานการณ์ปรับตัวดีขึ้นจากปริมาณยอดขายน้ำมันน่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วง high season ของการท่องเที่ยวไทย รวมทั้งยอดขายจากธุรกิจร้านกาแฟ ที่ยอดขายยังโตต่อเนื่อง

รายงานพิเศษ PTG โตโดดเด่นทั้งธุรกิจ “Oil-Non oil”.jpg

โดย บล.KGI ออกบทวิเคราะห์ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG)  โดยระบุว่ากำไรในไตรมาส 3/67 เพิ่มขึ้น 261% จากปีก่อน แต่ลดลง 85% จากไตรมาสก่อน  ซึ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปีก่อน 

เป็นเพราะปริมาณยอดขายน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 1,577 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน ส่วนกำไรที่ลดลงอย่างมากจากไตรมาสก่อน เป็นเพราะค่าการตลาดน้ำมันลดลงมาอยู่ที่ 1.65 บาท/ลิตร ลดลง 5% จากไตรมาสก่อน ประกอบกับปริมาณยอดขายน้ำมันลดลงมาอยู่ที่ 1,577ล้านลิตร ลดลง 8% จากไตรมาสก่อน

โดยปัจจัยสำคัญที่น่าสนใจจากกำไรจากธุรกิจน้ำมันลดลงจากไตรมาสก่อน ใน 3Q67 เนื่องจากค่าการตลาดน้ำมันของ PTG ลดลง 5% จากไตรมาสก่อน เหลือ 1.65 บาท/ลิตร ในขณะที่ปริมาณยอดขายน้ำมันลดลง 8% จากไตรมาสก่อนเหลือ1,577 ล้านลิตร เพราะการใช้น้ำมันในประเทศลดลงในช่วงหน้าฝน

ประกอบกับกำไรจากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน โดยรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน เป็น 4.3 พันล้านบาท โดยเฉพาะจากหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยที่เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสก่อน ในไตรมาส 3/67 แต่อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันลดลงเล็กน้อย จากไตรมาสก่อน จาก 22.0% เหลือ21.4%    

ณ สิ้นงวด 3Q67 PTG มีจำนวนสถานีบริการน้ำมัน 2,214 สถานี เพิ่มขึ้น 6 สถานีจากไตรมาสก่อน และมีจำนวนร้านกาแฟพันธุ์ไทย 1,126 ร้าน เพิ่มขึ้น 98ร้านจากไตรมาสก่อน

ทั้งนี้ยังคงคำแนะนำซื้อ PTG และคงราคาเป้าหมายปี2568 ที่11.30 บาท อิงจาก PE ที่ 13.0x ถึงแม้ว่าผลประกอบการจะแผ่วลงจากไตรมาสก่อน ในไตรมาส 3/67 แต่คาดว่าน่าจะดีดตัวขึ้นจากไตรมาสก่อน ในไตรมาส 4/7 เพราะค่าการตลาดน้ำมันและปริมาณยอดขายน้ำมันน่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วง high season ของการท่องเที่ยวไทย

ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของบล.ทรีนี้ตี้  ที่ระบุ PTG รายงานกําไรไตรมาส 3/67 อ่อนตัวเหลือ 70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 261% จากปีก่อน ลดลง 85% จากไตรมาสก่อน ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด โดยกําไรที่ลดลงนั้นมาจากทั้งปริมาณขายที่ลดลงผลของฤดูกาล และMargin ต่อลิตรที่ปรับลดลง

1) ปริมาณขายอยู่ราว 1.6 พันล้านลิตร เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน ลดลง 8 % จากไตรมาสก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนตามการขยายสถานีบริการน้ำมัน ในขณะที่ลดลงจากไตรมาสก่อน จากผลของฤดูกาลหน้าฝนที่มีปริมาณการใช้น้ำมันในการเดินทางที่น้อยลง

2) Gross Margin ต่อลิตรลดลงมาเหลือ 1.65 บาทต่อลิตร จากไตรมาส 3/66 ที่ 1.67 บาทต่อลิตร และจาก ไตรมาส 2/67 ที่ 1.73 บาทต่อลิตร 3) ธุรกิจ Non-Oil มีกําไรขั้นต้นที่ 923 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น2.4% จากไตรมาสก่อน โดยมาจากการขยายร้านกาแฟพันธุ์ไทย

ดังนั้นเรายังคงประมาณการกําไรปี 67  ที่ 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อน จากค่าการตลาดที่ระดับปกติ 1.7 บาทต่อลิตร และแนวโน้มไตรมาส 3/67 จะเป็นช่วง Low Season หน้าฝน ปริมาณการใช้น้ำมันลดลง 

นอกจากนี้ระยะสั้นอาจจะมีความเสี่ยงเรื่องกฎหมายบริหารโครงสร้างราคาซึ่งอาจจะส่งผลจต่อ Margin ต่อลิตรของบริษัทได้ ในขณะที่ Non-Oil ของบริษัทยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปริมาณจําหน่ายน้ำมันต่อสถานีบริการที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันบริษัทเน้น  ปริมาณ Traffic ที่จะเข้ามาใช้บริการมากกกว่าการขยายจำนวนสถานีบริการ

คงราคาเป้าหมายปี 68 ที่ 11 บาท อิง Avg PER ที่ 14.5 เท่า และคงคำแนะนํา Trading Buy แนวโน้มระยะสั้นอาจจะถูกกดดันจากผลการดําเนินงานที่อ่อนตัว แต่จะเป็นจังหวะซื้อ  ช่วงไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่มีการบริโภคน้ำมันมากจากช่วงวันหยดุยาว

PTG