โบรกฯ ลั่นหุ้นไทยยังผันผวน เหตุ FUND FLOW ไหลออก ชี้แนวโน้มค่าเงินบาทยังอ่อนค่าได้อีก
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นเอเชียปั่นป่วน และกระแส FUND FLOW ไหลออก รวมไปถึงอัตราค่าเงินบาทมีโอกาสที่จะอ่อนค่าต่อเนื่อง
โดยหลังจากทรัมป์ได้เป็น ปธน. คนที่ 47 ของสหรัฐ ถึงปัจจุบัน (วันที่ 6 พ.ย. –14 พ.ย.67) ตลาดหุ้นโลกผันผวนและปั่นป่วน จากการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินไปสู่สินทรัพย์ที่ได้ SENTIMENT เชิงบวก จากนโยบายของพรรค REPUBLICAN โดยเฉพาะตลาดหุ้น NASDAQ สหรัฐ ปรับตัวขึ้นมาแรง 3.6%
ทั้งนี้ในช่วงเวลาดังกล่าว ต่างกับตลาดหุ้นเอเชีย ที่ปรับตัวลงแรงจากความกังวลเรื่องกำแพงภาษี โดย ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ -9.7%, ฮ่องกง -7.5%, เกาหลีใต้ -6.1%, อินโดนีเซีย -3.7%, อินเดีย -2.4% และไทย -2.1% เป็นต้น
และหากพิจารณา FUND FLOW พบว่า มีการไหลออกจากตลาดหุ้นในภูมิภาคทุก ประเทศ ขายสุทธิตลาดหุ้นไต้หวัน -3.2 พันล้านเหรียญ, เกาหลีใต้ -1.2 พันล้าน เหรียญ, อินเดีย -1.4 พันล้านเหรียญ, ฟิลิปปินส์ -205 ล้านเหรียญ และไทย -244 ล้าน เหรียญ หรือ -8.4 พันล้านบาท
ขณะที่ ในมุมค่าเงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าต่อ ถ้าดูจากส่วนต่าง BOND YIELD 10ปี สหรัฐ กับไทย ที่มักจะเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันเสมอ โดยล่าสุด BOND YIELD 10ปี สหรัฐ (4.45%) ที่ทิ้งห่าง BOND YIELD 10ปี ไทย (2.43%) ซึ่งกว้างขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดทำ จุดสูงสุดใหม่ที่ 2.02% ความกว้างระดับนี้ปกติค่าเงินบาทจะสูงระดับ 37 บาท/เหรียญ แต่ปัจุบันค่าเงินบาทอยู่ที่ 35 บาท/เหรียญ
ดังนั้น แสดงว่าค่าเงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าเพิ่มขึ้นในช่วงต่อจากนี้ได้ อีกทั้งสัปดาห์หน้ายัง มีประเด็นเสี่ยงการรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3/67 และประเด็นรอดูศาล รธน. จะรับหรือไม่ คำร้องตรวจสอบพฤติกรรมของอดีตนายกฯ ทักษิณ ซึ่งจะกดดันให้ FUND FLOW มี โอกาสชะลอไหลเข้า และตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในภาวะผันผวนอยู่