Fund / Insurance
TQM โชว์งบ 9 เดือนรายได้ New high ทะลุ 3 พันล้าน ไตรมาสสุดท้าย คาดยอดขายทำสถิติสูงสุด
15 พฤศจิกายน 2567
TQM โชว์งบ 9 เดือน รายได้พุ่งทะลุ 3 พันล้าน ทำสถิติสูงสุด ขณะที่กำไรเพิ่ม 9.6% พร้อมรับ High season ไตรมาสสุดท้าย คาดยอดขายสูงสุดของปี
บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQM ประกาศรายได้รวม 9 เดือนแรก ปี 2567 มีรายได้ 3,043.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% จากปีก่อน ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง ส่งผลให้มีกำไร 672 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% อัตรากำไรสุทธิ 22.1% เติบโตดี จากธุรกิจประกัน โดยเฉพาะประกันรถยนต์ เตรียมพร้อมเข้า High season ประกันรถยนต์ไตรมาส 4 และบุกตลาดประกันชีวิตต่อยอดฐานลูกค้าปัจจุบันกว่า 3 ล้านราย
ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมประกันมีความมั่นคงมากขึ้น และมี Momentum ที่ดี ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 นี้ ผลการดำเนินงานของเราเติบโตต่อเนื่อง และรายได้จากการให้บริการขยายตัวได้ดี ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตแบบ Organic ของผลิตภัณฑ์ประกัน โดยเฉพาะประกันรถยนต์ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักของเรา ด้วยอัตราการต่อประกันที่สูง จากลูกค้าที่ไว้วางใจและได้รับความสะดวกสบายในการต่ออายุประกัน อีกทั้งยังมีโอกาสในการเติบโตจากลูกค้าใหม่ รวมไปถึงประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เติบโตต่อเนื่องมาทุกไตรมาส โดยใน 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมียอดขายเบี้ยประกันรถ EV เพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในไตรมาสที่ผ่านมานี้ การเติบโตเป็นที่น่าพอใจ โดยงวด 3 เดือนในไตรมาส 3/2567 รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 10.8% และช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 8.4% และรายได้รวมแตะระดับเกิน 3 พันล้านบาทเป็นครั้งแรก อยู่ที่ 3,043.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 672 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยประกันรถยนต์ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าดี มีการต่ออายุประกันมากกว่า 70% และยังมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น จากการที่เรานำเสนอผลิตภัณฑ์ซึ่งตรงความต้องการ เหมาะกับลูกค้า segment ใหม่ๆ นอกจากนี้ เรายังเตรียมความพร้อมทีมขายทุกช่องทางรองรับช่วง High season ของธุรกิจประกัน ในไตรมาส 4 ทั้งการเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพของทีมงานให้สามารถพร้อมบริการลูกค้าอย่างเต็มที่
TQM ยังเริ่มบุกตลาดประกันชีวิตรายเดี่ยว ต่อยอดจากฐานลูกค้าประกันวินาศภัยในปัจจุบันของบริษัทที่มีอยู่กว่า 3 ล้านราย โดยมีเป้าหมายไปจนถึงสิ้นปี 2568 คาดว่าจะทำยอดเบี้ยประกันประมาณ 2,000 ล้านบาท TQM เชื่อว่าช่วงไตรมาส 4 นี้ ที่ลูกค้ามองหาผลิตภัณฑ์ประกันเพื่อลดหย่อนภาษี จะเป็นจังหวะเหมาะสมในการรุกตลาดประกันชีวิตเพื่อนำเสนอตัวเลือกประกันที่หลากหลายให้กับลูกค้า อีกทั้งยังมี TQC ที่เป็นที่ปรึกษาด้านประกันสุขภาพและเคลมประกันให้กับลูกค้า ช่วยรองรับการให้บริการอย่างครบวงจร ยิ่งไปกว่านี้ TQM ยังบุกช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชอบเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ ตัดสินใจซื้อด้วยตนเอง และชำระเงินผ่านออนไลน์ทั้งหมดโดยไม่ต้องติดต่อกับพนักงาน และนอกเหนือไปจากการขาย TQM ยังใช้ช่องทางออนไลน์สำหรับการบริการลูกค้าได้สะดวกรวดเร็วอีกด้วย
นอกจากนี้ กำไรที่เติบโต ยังมีส่วนมาจากบริษัทในกลุ่มที่มีผลการดำเนินงานดีขึ้น และในไตรมาสนี้ ได้รวมผลการดำเนินงานของบริษัท มายกรุ๊ป อินเทลลิเจนท์ จำกัด เข้ามาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งในปี 2567 คาดว่ามายกรุ๊ปจะทำกำไรได้มากกว่า 70 ล้านบาท ส่วนธุรกิจบริการทางการเงิน ที่ดำเนินการโดย บริษัท อีซี่ เลนดิ้ง จำกัด เติบโตต่อเนื่อง และบริหารจัดการความเสี่ยงของพอร์ตสินเชื่อได้ดี โดยตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 3 ปี มีหนี้เสีย (NPL) ต่ำกว่า 0.50% โดยสินเชื่อเพื่อการซื้อประกัน ยังเป็นผลิตภัณฑ์หลัก ความเสี่ยงต่ำ มีส่วนช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กับลูกค้า ทำให้ธุรกิจประกันเติบโตได้อีกทาง อีกทั้งยังเสริมด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่ออื่นๆ ที่ทำให้บริหารความเสี่ยงได้เหมาะสม รวมถึงสินเชื่อที่มีหลักประกันความเสี่ยงต่ำ เช่น ทอง และสินค้า Luxury สามารถบริการลูกค้าได้หลากหลาย และล่าสุด อีซี่ เลนดิ้ง มีแผนที่จะเสนอขายหุ้นกู้จำนวนไม่เกิน 600 ล้านบาท ในวงจำกัด (Private Placement) เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ
บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQM ประกาศรายได้รวม 9 เดือนแรก ปี 2567 มีรายได้ 3,043.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% จากปีก่อน ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง ส่งผลให้มีกำไร 672 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% อัตรากำไรสุทธิ 22.1% เติบโตดี จากธุรกิจประกัน โดยเฉพาะประกันรถยนต์ เตรียมพร้อมเข้า High season ประกันรถยนต์ไตรมาส 4 และบุกตลาดประกันชีวิตต่อยอดฐานลูกค้าปัจจุบันกว่า 3 ล้านราย
ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมประกันมีความมั่นคงมากขึ้น และมี Momentum ที่ดี ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 นี้ ผลการดำเนินงานของเราเติบโตต่อเนื่อง และรายได้จากการให้บริการขยายตัวได้ดี ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตแบบ Organic ของผลิตภัณฑ์ประกัน โดยเฉพาะประกันรถยนต์ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักของเรา ด้วยอัตราการต่อประกันที่สูง จากลูกค้าที่ไว้วางใจและได้รับความสะดวกสบายในการต่ออายุประกัน อีกทั้งยังมีโอกาสในการเติบโตจากลูกค้าใหม่ รวมไปถึงประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เติบโตต่อเนื่องมาทุกไตรมาส โดยใน 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมียอดขายเบี้ยประกันรถ EV เพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในไตรมาสที่ผ่านมานี้ การเติบโตเป็นที่น่าพอใจ โดยงวด 3 เดือนในไตรมาส 3/2567 รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 10.8% และช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 8.4% และรายได้รวมแตะระดับเกิน 3 พันล้านบาทเป็นครั้งแรก อยู่ที่ 3,043.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 672 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยประกันรถยนต์ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าดี มีการต่ออายุประกันมากกว่า 70% และยังมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น จากการที่เรานำเสนอผลิตภัณฑ์ซึ่งตรงความต้องการ เหมาะกับลูกค้า segment ใหม่ๆ นอกจากนี้ เรายังเตรียมความพร้อมทีมขายทุกช่องทางรองรับช่วง High season ของธุรกิจประกัน ในไตรมาส 4 ทั้งการเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพของทีมงานให้สามารถพร้อมบริการลูกค้าอย่างเต็มที่
TQM ยังเริ่มบุกตลาดประกันชีวิตรายเดี่ยว ต่อยอดจากฐานลูกค้าประกันวินาศภัยในปัจจุบันของบริษัทที่มีอยู่กว่า 3 ล้านราย โดยมีเป้าหมายไปจนถึงสิ้นปี 2568 คาดว่าจะทำยอดเบี้ยประกันประมาณ 2,000 ล้านบาท TQM เชื่อว่าช่วงไตรมาส 4 นี้ ที่ลูกค้ามองหาผลิตภัณฑ์ประกันเพื่อลดหย่อนภาษี จะเป็นจังหวะเหมาะสมในการรุกตลาดประกันชีวิตเพื่อนำเสนอตัวเลือกประกันที่หลากหลายให้กับลูกค้า อีกทั้งยังมี TQC ที่เป็นที่ปรึกษาด้านประกันสุขภาพและเคลมประกันให้กับลูกค้า ช่วยรองรับการให้บริการอย่างครบวงจร ยิ่งไปกว่านี้ TQM ยังบุกช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชอบเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ ตัดสินใจซื้อด้วยตนเอง และชำระเงินผ่านออนไลน์ทั้งหมดโดยไม่ต้องติดต่อกับพนักงาน และนอกเหนือไปจากการขาย TQM ยังใช้ช่องทางออนไลน์สำหรับการบริการลูกค้าได้สะดวกรวดเร็วอีกด้วย
นอกจากนี้ กำไรที่เติบโต ยังมีส่วนมาจากบริษัทในกลุ่มที่มีผลการดำเนินงานดีขึ้น และในไตรมาสนี้ ได้รวมผลการดำเนินงานของบริษัท มายกรุ๊ป อินเทลลิเจนท์ จำกัด เข้ามาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งในปี 2567 คาดว่ามายกรุ๊ปจะทำกำไรได้มากกว่า 70 ล้านบาท ส่วนธุรกิจบริการทางการเงิน ที่ดำเนินการโดย บริษัท อีซี่ เลนดิ้ง จำกัด เติบโตต่อเนื่อง และบริหารจัดการความเสี่ยงของพอร์ตสินเชื่อได้ดี โดยตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 3 ปี มีหนี้เสีย (NPL) ต่ำกว่า 0.50% โดยสินเชื่อเพื่อการซื้อประกัน ยังเป็นผลิตภัณฑ์หลัก ความเสี่ยงต่ำ มีส่วนช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กับลูกค้า ทำให้ธุรกิจประกันเติบโตได้อีกทาง อีกทั้งยังเสริมด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่ออื่นๆ ที่ทำให้บริหารความเสี่ยงได้เหมาะสม รวมถึงสินเชื่อที่มีหลักประกันความเสี่ยงต่ำ เช่น ทอง และสินค้า Luxury สามารถบริการลูกค้าได้หลากหลาย และล่าสุด อีซี่ เลนดิ้ง มีแผนที่จะเสนอขายหุ้นกู้จำนวนไม่เกิน 600 ล้านบาท ในวงจำกัด (Private Placement) เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ