บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ประกาศเป้าหมายปี 2027 หรืออีก 3 ปีขึ้น TOP 3 ของอุตสาหกรรม ส่วนปี 2024 ให้เป็นปีแห่งความสำเร็จที่โดดเด่นในการให้บริการแก่นักลงทุนสถาบัน ความสำเร็จในการเป็นที่ปรึกษาด้าน IPO และการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด ล่าสุดเดินหน้าให้ความรู้การลงทุนจัดงาน “ติด BUFF การเงิน TALK SHOW” ครั้งแรกในรูปแบบฟินฟลูเอนเซอร์ทอล์คโชว์
นายอารภัฏ สังขรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หรือ MST กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปีข้างหน้าจะขึ้นไปอยู่ในTop 3 ของอุตสาหกรรมในทุกธุรกิจ โดยปีนี้นับเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญสำหรับบริษัท ในการยกระดับการบริการและสร้างนวัตกรรมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
“ความทุ่มเทของเราที่จะส่งมอบคุณค่าที่เหนือกว่าผ่านโซลูชันดิจิทัล โครงการให้ความรู้ และการลงทุนที่ยั่งยืน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างอนาคตทางการเงินที่เข้าถึงได้และเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนไทย เรามุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพให้กับนักลงทุนและชุมชนเพื่อสร้างระบบการเงินที่เข้มแข็งก้าวสู่อนาคตที่มั่นคง”
ในด้านธุรกิจ เมย์แบงก์ ประเทศไทย ได้รับการยอมรับอย่างโดดเด่นในปี 2024 มีความเป็นเลิศในการให้บริการแก่นักลงทุนสถาบัน การันตีด้วย 2 รางวัลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET AWARDS) ได้แก่ รางวัลบริษัทหลักทรัพย์ที่มีความยอดเยี่ยมด้านการให้บริการหลักทรัพย์แก่นักลงทุนสถาบัน (Business Excellence Best Security Company Awards Institutional Investors) และ รางวัลบริษัทหลักทรัพย์ที่มีศักยภาพในการบริหารองค์กรได้อย่างโดดเด่นด้านการให้บริการหลักทรัพย์แก่นักลงทุนสถาบัน (Outstanding Security Company Awards Business Excellence Institutional Investors) ที่สะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทของเมย์แบงก์ในการให้บริการ นอกจากนี้ เมย์แบงก์ยังได้เสริมสร้างตำแหน่งผู้นำในการให้คำปรึกษาด้าน IPO โดยมีจำนวนโปรเจค IPO สูงที่สุดในประเทศไทยในปีนี้ ถึง 5 บริษัทพร้อมเพิ่มอันดับส่วนแบ่งตลาดจากอันดับที่ 8 มาเป็นอันดับที่ 5 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการแข่งขันที่สูงและกิจการที่เติบโตขึ้นพร้อมกับความมุ่งมั่นในการสร้างความสำเร็จทางการเงินให้แก่ลูกค้า
ด้านการบริการลูกค้า เมย์แบงก์ มุ่งให้บริการโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง มุ่งใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและเพิ่มความสะดวกในการลงทุน แอปพลิเคชัน Maybank Invest (MBi) ได้นำเสนอฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้การจัดการบัญชีง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีการมอบสิทธิประโยชน์จากการลงทุนด้วยโปรแกรมบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า Tiger Club มอบสิทธิประโยชน์ด้านไลฟ์สไตล์และแหล่งความรู้เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจทางการเงินอย่างรอบคอบ โปรแกรมนี้ได้สร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้า โดยเข้าถึงลูกค้ากว่า 50% โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้า Wealth
ด้านการให้ความรู้ ตามวิสัยทัศน์สร้างโอกาสการลงทุนที่เท่าเทียมให้คนไทย นอกจากโครงการ “Mastering Your Investment” ซึ่งเป็นกิจกรรมสัมมนาที่มอบความรู้เชิงปฏิบัติในการตั้งเป้าหมายทางการเงินและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดอย่างต่อเนื่องให้กับลูกค้า เมย์แบงก์ยังคงเดินหน้าภารกิจในการส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้กับประชาชนทั่วไปผ่านโครงการ “Jump Start” โครงการเสริมสร้างความรู้ด้านการลงทุนให้กับพนักงานขององค์กรต่าง ๆ
โดยมีการจัดกิจกรรมและสัมมนาภายใต้แนวคิด "Jump Start พุ่งทะยาน คว้าทุกโอกาสบนโลกการลงทุนยุคใหม่" เพื่อให้ความรู้และนำเสนอเครื่องมือด้านการลงทุนที่ถูกต้อง ช่วยให้ผู้เข้าฟังมีความเข้าใจในเรื่องการลงทุนมากขึ้น และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการพัฒนาตนเองและองค์กรได้อย่างเต็มที่ และอีกหนึ่งไฮไลต์ของปีคือ “ติด BUFF การเงิน TALK SHOW” ซึ่งเป็นงานอีเวนต์ด้านการเงินและบันเทิงครั้งแรกในประเทศไทย จัดขึ้นโดยร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังจากเพจ Money Buffalo และ Buffalo Gags ทอล์คโชว์นี้ได้ผสมผสานเรื่องการเงินกับความบันเทิง ทำให้เรื่องการลงทุนที่ซับซ้อนกลายเป็นเนื้อหาที่เข้าใจง่ายและน่าสนใจสำหรับผู้ชมในวงกว้าง มีผู้ร่วมงานกว่า 600 คน
นอกจากนี้ เมย์แบงก์ ยังมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนที่สนับสนุนหลักการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ผ่านโครงการต่างๆ เช่น Green Bonds และกองทุนที่เน้นการลงทุนตามหลัก ESG เมย์แบงก์ส่งเสริมการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบซึ่งมีส่วนช่วยในการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในประเทศไทย โดยการสนับสนุนกลุ่มธุรกิจที่สอดคล้องกับค่านิยมเหล่านี้ เมย์แบงก์ไม่เพียงแต่สร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับลูกค้า แต่ยังมีบทบาทในการผลักดันเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมในชุมชนอีกด้วย