Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 19-11-24 (ลุ้นวันนี้!อนุมัติเฟสสองเงิน 10,000 บาท)
Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 19-11-24 (ลุ้นวันนี้!อนุมัติเฟสสองเงิน 10,000 บาท)
19-11-24 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***วันนี้ (19 พ.ย.)เจ๊เชื่อว่าทุกคนกำลังจับตาดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเบื้องต้นจะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะต่อไป มีกระแสข่าวลอยมาตามลมง่ามาตรการที่จะนำเข้าพิจารณาหลักๆ คือ
***1.มาตรการแก้สินเชื่อรายย่อย เพื่อเติมสภาพคล่อง ในกลุ่มลูกหนี้สินเชื่อบ้าน (วงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อราย) ลูกหนิ้สินเชื่อรถยนต์ (ราคาไม่เกิน 7 แสนบาทต่อราย) ลูกหนิ้สินเชื่อ SMEs รายเล็ก(วงเงินสินเชื่อ 3 ล้านบาทต่อราย) โดยคาดว่าจะมีการพักดอกเบี้ย ช่วยให้จ่ายหนี้ลดลง หรือ การยืดหนี้ โดยหากลูกหนี้ทำได้ตามกำหนด จะอนุญาตให้ธนาคารเคลมเงินจากกองทุนแก้หนี้ที่จะตั้งขึ้นใหม่ โดยแหล่งเงินทุนจากธนาคารนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินที่แบ่งออกมา 0.23% (จากปัจจุบันที่จ่ายอยู่ 0.46%)
***ถ้ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง กูรูมองเป็นบวกต่อหุ้นธนาคาร และหุ้น Domestic ที่ได้ผลบวกคุณภาพหนี้และสภาพคล่องดีขึ้น บวกต่อหุ้นธนาคารที่มีสัดส่วนสินเชื่อดังกล่าวสูง SCB (73% ของสินเชื่อรวม) TTB (64%) KBANK (50%) ส่วน Domestic ที่น่าสนใจคือ ค้าปลีก อาทิ CPALL
***2.ครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต เฟส 2 หารือในหลักเกณฑ์ที่จะดำเนินการในระยะต่อไป คาดว่าจะครอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุอายุมากกว่า 50 หรือ 60ปี กูรูมองว่าเป็นปัจจัยบวกกลุ่มค้าปลีก CPALL, BJC, HMPRO เช่าซื้อ (นำเงินไปคืนหนี้) MTC ธนาคาร BBL, SCB
***3.มาตรการทางด้านภาษีที่จะลดหย่อนภาษีเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย คาดว่าน่าจะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาด้วย ซึ่งอาจจะให้มีผลกระตุ้นในช่วงปลายปีนี้เลย หรือต้นปีหน้า กรณีดังกล่าวหากเกิดขึ้นมองบวกสูงต่อกลุ่มที่มียอดขายต่อใบเสร็จสูง อาทิ CRC, COM7, CPAXT, HMPRO
***4.) การลงทุนระยะยาว ปัจจุบันหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ 65-66% ใกล้กรอบเพดานที่ 70% มากขึ้นเรื่อยๆ จะต้องช่วยกันผลักดัน GDP โดยผลักดันเกิดการลงทุนรัฐฯและเอกชนช่วยกันลงทุนโดยมองเครื่องมือ Infrastructure Fund สามารถช่วยผลักดันให้เกิดขึ้นได้ โดยไม่ต้องพึ่งรัฐเท่านั้น
***ข้อสี่นี้ กูรูประเมินสัญญาณที่เห็นจากการระดมทุนกองทุนวายุภักษ์ช่วงก่อนหน้ายังสะท้อนภาพสภาพคล่องในประเทศที่ยังเหลือ มองว่าแนวนโยบายดังกล่าวยังช่วยให้โครงการที่รัฐฯวางไว้เกิดขึ้นได้จริง อาทิ Entertainment Complex (บวกต่อ AOT, ERW) , รถไฟฟ้า 20 บาท (บวกต่อ BTS) รวมถึงการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ
***ใครที่กำลังมองหาปันผลดีๆ เชิญทางนี้จ้าาาาาาา หุ้นโรงไฟฟ้าโตวันโตคืนอย่าง TPCH หลังโชว์งบ Q3/67 สวยๆ มีกำไรสุทธิ 67.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 121.87% จากปีก่อน แถมบอร์ดใจดีอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดให้อีกอัตราหุ้นละ 0.128 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 19 พ.ย.นี้ ผู้ถือหุ้นเตรียมเป๋าตุงรับทรัพย์ได้ในวันที่ 4 ธ.ค. 67
***ทางด้านบิ๊กบอสสวย+เก่ง+วิชั่นไกล “กนกทิพย์ จันทร์พลังศรี” บอกว่าTPCH พร้อมมุ่งบริหารธุรกิจให้เติบโต เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี และเป็นของขวัญให้กับผู้ถือหุ้นเพื่อส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่กันแบบจุใจไปเลยคร้าา!!
***ส่วน PTG ที่ได้โชว์กำไรงวด 9 เดือนปี 67 เพิ่มขึ้นถึง 90% โตเกือบเท่าตัว บอร์ดเคาะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดเอาใจผู้ถือหุ้นทันทีในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น หากไม่อยากตกขบวนรับเงินปันผลอย่ารีรอ! เพราะวันที่ 26 พ.ย.นี้ กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD และรับเงินเข้ากระเป๋าได้เลยในวันที่ 12 ธ.ค.67 โอกาสดีๆ มาถึงแล้ว รีบคว้าไว้เลยน๊าาาา
***อลังการดาวล้านดวง..นาทีนี้ต้องยกให้กับ CCET โชว์ผลงานเริ่ดดดด! 9 เดือนแรก กำไรพุ่งแตะ 1,953.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89.30% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน และสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์-สูงกว่าผลงานปี 66 มีกำไรอยู่ที่ 1,115.61 ล้านบาท
***สาเหตุที่กำไรสวยขนาดนี้มาจากการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้มีรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความต้องการเครื่องพิมพ์ ผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูล และอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะที่เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสนี้
***”คงสิทธิ์ โจวกิจเจริญ”คาดการณ์ว่าผลประกอบการในอนาคตของ CCET จะเติบโตอย่างต่อเนื่องตามแผน โดยโรงงานใหม่ในจังหวัดสมุทรสาครจะเริ่มดำเนินการในปีนี้ และโรงงานใหม่ในจังหวัดเพชรบุรีจะเริ่มดำเนินการในปีต่อๆไป พร้อมรองรับคำสั่งซื้อที่มีมาร์จิ้นสูง นอกจากนี้เรื่องที่สงครามการค้ายังคงดำเนินอยู่และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐอเมริกา-จีน และจีน-ไต้หวัน คาดว่าจะเร่งย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศไทยและประเทศอื่นๆ (เมื่อเร็ว ๆ นี้ ลูกค้ารายใหญ่สองรายได้ประกาศแผนการย้ายฐานการผลิตไปยังโรงงานใหม่ของ CCET เพื่อลดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์)