MINT เปิดแผนตั้ง “กองรีท” คาดมูลค่าสูงถึง 4 หมื่นล้านบาท หนุนการลงทุนใหม่-ลดภาระหนี้สิน
MINT มีประเด็นใหม่! มีแผนการตั้งกอง REIT คาดแล้วเสร็จภายใน 1-1.5 ปี มูลค่าเบื้องต้น 4 หมื่นล้านบาท เป็นผลดี นำเงินไปลดภาระหนี้สิน เป็นเงินทุนสำหรับการขยายการลงทุนใหม่ๆ และ ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า MINT วางแผนการตั้งกอง REIT (อาจจดทะเบียนในตลาดไทยหรือตปท.) คาดจัดตั้งแล้วเสร็จภายใน 1-1.5 ปี มูลค่ากองเบื้องต้นคาดที่ราว 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 4.0 หมื่นล้านบาท สินทรัพย์ส่วนใหญ่คาดอยู่ในเอเชีย
โดยการขายสินทรัพย์เข้ากองจะเป็นบวกในแง่ 1.การนำเงินไปลดภาระหนี้สินลงอย่างมีนัยสำคัญ 2. เป็นเงินทุนสำหรับการขยายการลงทุนใหม่ๆ และ 3.ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งเป็นรายการ พิเศษที่บริษัทต้องบันทึกทุกไตรมาส
นอกจากนี้ บริษัทคงแผน 3 ปี (ปี 2567-2569) ตั้งเป้ารายได้เติบโต 8-10% ต่อปี และกำไรเติบโต 15-20% ต่อปีสูงกว่าการเติบโตของรายได้จาก Economies of scale
โดยกลยุทธ์การดำเนินงานหลักยังเน้น "Asset Light" ขยายโรงแรมภายใต้สัญญารับจ้างบริหารและแฟรนไชส์ร้านอาหารมากกว่าลงทุนเอง ตั้งเป้าเพิ่มโรงแรมรับจ้างบริหารขึ้นเป็น 50% ของพอร์ตภายในปี 2569 (ปัจจุบันอยู่ที่ 31%) ส่วนธุรกิจอาหารจะขยายไปในตลาดใหม่ๆในเอเชียมากขึ้นเช่น อินโดนีเซียและอาเซียน
ด้านแผนการลดภาระหนี้สิน (Deleverage) บริษัทลดหนี้ไป 7.6 พันล้านบาทในไตรมาส 3/67 และคงเป้าหมายลด Net IBD/E จาก 0.98 เท่า ลงเป็น 0.80 เท่า ภายในสิ้นปี 2567 ด้วยกระแสเงินสดในมือ และแผนการขายสินทรัพย์เพิ่มเติม คาดเห็นภาระดอกเบี้ยจ่ายจะลดลงมากขึ้นในไตรมาส 4/67
ขณะที่ CAPEX สำหรับปี 2567-2569 คาดอยู่ที่ระดับ 0.9-1.1 หมื่นล้านบาท หลักๆ ใช้สำหรับการรีแบรนด์และปรับปรุงห้องพักราว 65% จะใช้ในการปรับขึ้น ADR ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของการเติบโต
อย่างไรก็ตามอัพเดทตัวเลขเบื้องต้นไตรมาส 4/67 (ต.ค.67) ธุรกิจโรงแรม Revpar กลุ่มโรงแรมในยุโรป เพิ่มขึ้น 4-5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกลุ่มโรงแรมในไทย เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดจองห้องพักล่วงหน้าเดือนพ.ย.-ธ.ค.เติบโต จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เด่นขึ้นอีก
ส่วนธุรกิจร้านอาหารภาพรวม SSSG ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ TSS เติบโต จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายสาขาใหม่ พิจารณาเฉพาะตลาดจีนที่อ่อนแอ SSSG -7-9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ติดลบน้อยลงเทียบ 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาส 3/67
ดังนั้นมีมุมมองเป็นบวกหลังการประชุม การสินทรัพย์เข้ากอง REIT เป็นประเด็นบวกใหม่สำหรับฝ่ายวิจัยและตลาด แม้ยังไม่มีรายละเอียดมากนัก แต่สะท้อนถึงโครงสร้างทางการเงินที่จะแข็งแกร่งขึ้น พอร์ตการลงทุนมีความเสี่ยงน้อยลง
รวมไปถึงเงินทุนที่พร้อมรองรับโอกาสในการขยายธุรกิจของ MINT ในระยะถัดไป โดยสมมติให้บริษัทใช้เงิน 25% จากมูลค่ากองหรือ 1 หมื่นล้านบาทไปชำระหนี้คืนคาดจะเป็นบวกต่อกำไรปกติปีละ 4-5%
ส่วนการดำเนินงานระยะสั้นแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/67 ดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะในไทยจาก High Season ตามคาด และบริษัทคง Guidance การเติบโตของรายได้ซึ่งตัวเลขดังกล่าว ใกล้เคียงกับคาดการณ์ปัจจุบันของฝ่ายวิจัย ดังนั้นคงคำ แนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม 36.00 บาทต่อหุ้น