รายงานพิเศษ : กระแสการใช้ชีวิตหรูหราขั้นสุด ผลักดันการเติบโตของ EURO
Ultra-luxurious life หรือ การใช้ชีวิตแบบหรูหราขั้นสุด นับเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าจับตามอง เป็น Segment ที่เติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจที่ซบเซาและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง สนับสนุบยอดขายและผลงาน บมจ.ยูโร ครีเอชั่นส์ (EURO) ปีนี้เติบโตแข็งแกร่ง
SCB EIC ออกบทวิเคราะห์ โดยระบุว่า การใช้ชีวิตแบบหรูหราขั้นสุด หรือ Ultra-luxurious life กำลังกลายเป็นเมกะเทรนด์และโอกาสทางธุรกิจที่น่าจับตามอง เพราะนอกจากจะเป็น Segment ที่เติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจที่ซบเซาแล้ว ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีต่อเนื่องในอนาคตอีกด้วย เพราะลูกค้าเป้าหมายของ Segment นี้ คือกลุ่มประชากรที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งอยู่บริเวณด้านบนของพีระมิดความมั่งคั่ง (ทรัพย์สินตั้งแต่ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป)
ซึ่งจากข้อมูลของ Global Wealth Databook 2023 ระบุว่า แม้คนกลุ่มนี้จะมีสัดส่วนเพียงราว 13% ของจำนวนประชากรผู้ใหญ่ (Adult population) ทั่วโลก แต่กลับถือครองทรัพย์สินมากถึงกว่า 85% ของมูลค่าทรัพย์สินรวมทั่วโลกซึ่งสะท้อนถึงกำลังซื้อมหาศาล โดยแรงขับเคลื่อนหลักของผู้บริโภคกลุ่มนี้ คือการใช้จ่ายเงินเพื่อตอบสนองความรู้สึกและความต้องการทางอารมณ์ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์และสถานะทางสังคมของตนเอง และที่สำคัญที่สุดคือคนกลุ่มนี้ยังตัดสินใจค่อนข้างเร็ว ใช้เหตุผลน้อยลง จึงซื้อง่ายจ่ายคล่อง และกลายเป็นลูกค้าในฝันของหลายๆธุรกิจ
ปัจจุบันผู้ประกอบการในภาคธุรกิจทั้งกลุ่มสินค้าและบริการ มีการปรับกลยุทธ์การเติบโตโดยหันมาเจาะตลาดและแข่งขันใน Ultra-luxurious segment กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รีสอร์ตและโรงแรม ร้านอาหาร รถยนต์ หรือแม้แต่สินค้าประเภทแฟชันไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ
หนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนเทรนด์นี้ได้ค่อนข้างชัดเจน คือการผุดขึ้นราวดอกเห็ดของคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านหรูในรูปแบบ Branded residences หรือ Super ultraluxury residences ในไทย เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตที่หรูหราและสะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัย โดยมีราคาขายเริ่มต้นตั้งแต่หลังละ 50-60 ล้านบาท ไปจนถึงหลายร้อยล้านบาท ซึ่งนอกจากความสะดวกสบายและความหรูหราของสถาปัตยกรรม รวมทั้งฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล เช่น ลิฟต์ส่วนตัว ห้องเก็บไวน์ ห้องดูหนังฟังเพลง ห้องโชว์งานศิลปะหรือของสะสม ห้องออกกำลังกาย โซนสัตว์เลี้ยง
SCB EIC จึงมองว่า Ultra-luxurious market คืออีกหนึ่ง Segment ที่น่าจับตามองภายใต้แนวโน้มเศรษฐกิจที่มีความเปราะบางและไม่แน่นอนสูงท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน
ซึ่งแนวคิดดังกล่าว สอดคล้องกับทิศทางการทำธุรกิจของ บมจ.ยูโร ครีเอชั่นส์ (EURO) ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ "Luxurious & High Quality Living" โดยนายเควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุถึง แผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ เตรียมเปิดโชว์รูมใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ โชว์รูม Frette ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำโครงสร้างและงานตกแต่ง โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนตุลาคม 2567 และโชว์รูมที่ทองหล่อซอย 5 ซึ่งงานก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว และอยู่ในขั้นตอนการตกแต่งภายใน โดยจะเปิดดำเนินการเป็น 2 ช่วง คือในเดือนกันยายน 2567 และมกราคม 2568 พร้อมทั้งมีแผนเพิ่มแบรนด์ใหม่เข้าพอร์ตเพิ่มเติม
"บริษัทฯ มุ่งเน้นการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด โดยการขยายโชว์รูมและเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งสำหรับลูกค้าปัจจุบันและกลุ่มลูกค้าใหม่ นอกจากนี้ ยังเพิ่มสินค้าจากแบรนด์หลากหลาย เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบวงจร (Total Living Solutions) ในทุกขั้นตอนของการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นบ้าน โรงแรม อาคารสำนักงาน หรือสปอร์ตคลับ" นายเควิน กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากยอดขายและยอดจองที่เพิ่มขึ้น รวมถึงยอดขาย/ยอดจองค้างส่ง (SO Outstanding) ที่สูงขึ้นเช่นกัน พร้อมทั้งรายได้รับล่วงหน้าจากลูกค้าที่ได้วางมัดจำเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ โชว์รูมที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนมีนาคม 2567 จะเริ่มทยอยส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าในไตรมาส 4/2567