ทีมข่าวเข้าไปสำรวจงบการเงินไตรมาส 3/67 หุ้นอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย ที่มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปเกินกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยพบว่ากำไรสุทธิปรับตัวลดลง 6 บริษัท คือ LH, SIRI, AP, QH, PSH และ ORI ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะมีทิศทางการฟื้นตัวได้หรือไม่ Share2Trade หาคำตอบให้แล้ว
LH ไตรมาส 4 ดิ่งต่อ
เริ่มกันที่ LH ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุว่า คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ที่ 2.44 พันล้านบาท ลดลง 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 276% จากไตรมาสก่อน แม้ว่า backlog ในปัจจุบันแข็งแกร่งที่ 9.2 พันล้านบาท แต่ LH จะรับรู้ backlog เพียง 19% หรือ 1.77 พันล้านบาท เป็นรายได้ในไตรมาส 4/67-ปี 2568 ส่วนที่เหลืออีก 7.45 พันลบ. จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2569-2570
โดยรายได้ในไตรมาส 4/67 จะลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยได้แรงหนุนจากโครงการเปิดใหม่และพร้อมโอนภายในไตรมาส
สำหรับกำไรสุทธิ ได้รวมเอากำไร 1.6 พันล้านบาท จากการขายสินทรัพย์ คือ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา ให้กับ LHSC เข้ามาไว้ในประมาณการ ดังนั้นประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ที่ปรับใหม่จึงอยู่ที่ 5.34 พันล้านบาท ลดลง 28.64%
โดยประเมินได้ว่า LH จะทำ presales พลาดเป้าที่บริษัทวางไว้ในปี 2567 ราว 35% มาอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท ลดลง13% จากปีก่อน แม้ว่า presales น่าจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/67 โดยได้แรงหนุนจากการเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่า 1.22 หมื่นล้านบาท แนะนำ NEUTRAL ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 6.60 บาท
SIRI มีกำไรพิเศษ
ส่วน SIRI นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองกำไรปกติ 9 เดือนปี 67 คิดเป็น 72% ของประมาณการปี 2567 ที่ 5.1 พันล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน โดยคาดยอดขาย และยอดโอนไตรมาส 4/67 ทำจุดสูงสุดของปี จึงคงประมาณการปี 2567
โดยในไตรมาส 4/67 บริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการใหม่ 18 โครงการ มูลค่าราว 2.8 หมื่นล้านบาท (คิดเป็น 49% ของแผนเปิดโครงการปี 2567) คาดผลประกอบการจะเร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปัจจัยฤดูกาลการโอน การใช้กลยุทธ์ทางการตลาดเชิงรุกกระตุ้นก่อนจบปี
รวมถึง จะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายส่วนลงทุนใน The Standard มูลค่าราว 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (5.0 พันล้านบาท) เข้ามา และการรับรู้ขาดทุนของธุรกิจโรงแรม The Standard ที่จะหายไปจากการขายส่วนลงทุน
ยังคงมองว่า SIRI ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และการปล่อยสินเชื่อเข้มงวดน้อยกว่ากลุ่มฯ เนื่องจากมีสัดส่วนสินค้าระดับบนเป็นหลัก และมีเอกลักษณ์ แบรนด์โดดเด่นช่วยหนุนการรักษาของส่วนแบ่งในตลาดได้ จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 2.14 บาท
AP ไตรมาส 4 ฟื้น
ขณะที่ AP นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองกำไรปกติ 9 เดือน 67 คิดเป็น 70% ของประมาณการทั้งปี 2567 ที่ 5.2 พันล้านบาท ลดลง 14% จากปีก่อน
แต่คาดผลประกอบการไตรมาส 4/67 เติบโตจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อนจากโครงการแนวสูงสร้างเสร็จพร้อมขายและโอนในไตรมาส และ Backlog แนวราบที่ทยอยส่งมอบราว 1.4 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้มองว่าการโอนส่งมอบไตรมาส 4/67 จะได้แรงหนุนจากมาตรการส่วนลดค่าธรรมเนียมโอน (ที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท) ซึ่งจะหมดอายุธ.ค. 67 จึงคงประมาณการปี 2567 แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเหมาะสมสิ้นปี 2568 ที่ 11.40 บาท
QH ไตรมาส 4 ทรุด
QH ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุว่า ปัจจุบัน QH มี backlog มูลค่า 647 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดในไตรมาส 4/67 ดังนั้นคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/67 จะลดลงทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน เพราะได้รับแรงกดดันจากการรับรู้รายได้ที่ลดน้อยลง
อย่างไรก็ดี ปรับประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 32.6% มาอยู่ที่ 31.8% เพื่อสะท้อนอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอในไตรมาส 3/67 ส่งผลทำให้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ลดลง 3% มาอยู่ที่ 2.24 พันล้านบาท ลดลง 10.5% จากปีก่อน โดยกำไร 76% จะมาจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม จึงคงคำ แนะนำ tactical all สำหรับ QH ไว้ที่ Underperform โดยปรับมาใช้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 1.97 บาท
PSH ปีนี้กำไรดิ่งหนัก
PSH นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุว่า ปัจจุบัน PSH มี backlog มูลค่า 4.77 พันล้านบาท (46% จะรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 4/67 และ 52% จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2568) แม้คาดว่าธุรกิจโรงพยาบาลและธุรกิจ wellness จะเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 4/67 และจะทำรายได้มากกว่าเป้าที่ PSH วางไว้ที่ 2 พันล้านบาท (+20%) ราว 10% เป็น 2.2 พันล้านบาท แต่จะถูกลดทอนโดยรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแอลง
ทั้งนี้ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอจากบ้านเดี่ยวในไตรมาส 3/67 จึงปรับประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นโดยเฉลี่ยลดลงจาก 30.1% มาอยู่ที่ 27.6% ส่งผลทำให้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ลดลงมาอยู่ที่ 1.03 พันล้านบาท ลดลง53.3% จากปีก่อน อย่างไรก็ดี ยังไม่ได้รวมกำไรพิเศษที่อาจเกิดขึ้นจากการปรับโครงสร้างธุรกิจเข้ามาไว้ในประมาณการ แนะนำ Underperform โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 6.30 บาท/หุ้น
ORI ปีนี้กำไรดิ่งแรง
สุดท้าย ORI ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยังคงแนะนำ “ขาย” แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 4.10 จากกำไรปี 2567-68 ที่จะปรับลดลง และโครงการของ ORI ยังมีการยกเลิกการจองสูง จากยอดโอนเทียบ presales ที่มีส่วนต่างค่อนข้างมากโดยยังคงประมาณการกำไรปี 2567ที่ 1.7 พันล้านบาท ลดลง 36% จากปีก่อน
สำหรับกำไรไตรมาส 4/67 จะยังต่ำต่อเนื่อง แม้จะดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนได้ จากฐานต่ำปีก่อน ที่รายได้จากค่าบริหารโครงการที่ต่ำมาก แต่จะดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนตามการเร่งโอนที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี
ส่วนปี 2568 ปรับประมาณการกำไรลง 5% เป็น 1.69 พันล้านบาท ลดลง 2% จากปีก่อน ากแนวโน้มการเปิดตัวโครงการใหม่ที่ทำยอดขายได้ช้า ขณะที่ยังมีโครงการคงเหลือขายอีกค่อนข้างมาก ทำให้ยังคงต้องใช้โปรโมชั่นกระตุ้นการขาย กดดันให้ GPM ยังต่ำ
อสังหาฯ ปี 68 ยังท้าทาย
ด้านภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองปี 2568 กลุ่มอสังหาฯ มีปัจจัยท้าทายรออยู่ จาก 1.ความเชื่อมั่นผู้บริโภคชะลอตัว 2. ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น 3.ราคาอสังหาฯ ปรับตัวขึ้นสวนทางกำลังซื้อ 4. หนี้เสีย (NPL + SM) กลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัย ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และ 5.ความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อจากทางสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการมีแนวโน้มชะลอการเปิดโครงการใหม่สะท้อนสภาพตลาดฯ และเพิ่มความระมัดระวังต่ออุปสงค์ที่อยู่อาศัยที่ชะลอตัวลงโดยเฉพาะกลุ่มแนวราบ
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการ ทยอยปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน โดยโครงการเปิดใหม่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชัดเจนขึ้น (เช่น กลุ่มต่างชาติ, กลุ่มสถานศึกษา) และเพิ่มสัดส่วนโครงการเปิดตัวใหม่เน้นกลุ่มลูกค้า Segment ระดับกลางบนที่กำลังซื้อมีความทนทานต่อเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันทางการเงิน ที่ต่ำกว่า Segment อื่น รวมถึงการหันมามุ่งระบายสินค้าคงคลังมากขึ้น
LH ไตรมาส 4 ดิ่งต่อ
เริ่มกันที่ LH ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุว่า คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ที่ 2.44 พันล้านบาท ลดลง 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 276% จากไตรมาสก่อน แม้ว่า backlog ในปัจจุบันแข็งแกร่งที่ 9.2 พันล้านบาท แต่ LH จะรับรู้ backlog เพียง 19% หรือ 1.77 พันล้านบาท เป็นรายได้ในไตรมาส 4/67-ปี 2568 ส่วนที่เหลืออีก 7.45 พันลบ. จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2569-2570
โดยรายได้ในไตรมาส 4/67 จะลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยได้แรงหนุนจากโครงการเปิดใหม่และพร้อมโอนภายในไตรมาส
สำหรับกำไรสุทธิ ได้รวมเอากำไร 1.6 พันล้านบาท จากการขายสินทรัพย์ คือ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา ให้กับ LHSC เข้ามาไว้ในประมาณการ ดังนั้นประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ที่ปรับใหม่จึงอยู่ที่ 5.34 พันล้านบาท ลดลง 28.64%
โดยประเมินได้ว่า LH จะทำ presales พลาดเป้าที่บริษัทวางไว้ในปี 2567 ราว 35% มาอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท ลดลง13% จากปีก่อน แม้ว่า presales น่าจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/67 โดยได้แรงหนุนจากการเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่า 1.22 หมื่นล้านบาท แนะนำ NEUTRAL ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 6.60 บาท
SIRI มีกำไรพิเศษ
ส่วน SIRI นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองกำไรปกติ 9 เดือนปี 67 คิดเป็น 72% ของประมาณการปี 2567 ที่ 5.1 พันล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน โดยคาดยอดขาย และยอดโอนไตรมาส 4/67 ทำจุดสูงสุดของปี จึงคงประมาณการปี 2567
โดยในไตรมาส 4/67 บริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการใหม่ 18 โครงการ มูลค่าราว 2.8 หมื่นล้านบาท (คิดเป็น 49% ของแผนเปิดโครงการปี 2567) คาดผลประกอบการจะเร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปัจจัยฤดูกาลการโอน การใช้กลยุทธ์ทางการตลาดเชิงรุกกระตุ้นก่อนจบปี
รวมถึง จะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายส่วนลงทุนใน The Standard มูลค่าราว 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (5.0 พันล้านบาท) เข้ามา และการรับรู้ขาดทุนของธุรกิจโรงแรม The Standard ที่จะหายไปจากการขายส่วนลงทุน
ยังคงมองว่า SIRI ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และการปล่อยสินเชื่อเข้มงวดน้อยกว่ากลุ่มฯ เนื่องจากมีสัดส่วนสินค้าระดับบนเป็นหลัก และมีเอกลักษณ์ แบรนด์โดดเด่นช่วยหนุนการรักษาของส่วนแบ่งในตลาดได้ จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 2.14 บาท
AP ไตรมาส 4 ฟื้น
ขณะที่ AP นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองกำไรปกติ 9 เดือน 67 คิดเป็น 70% ของประมาณการทั้งปี 2567 ที่ 5.2 พันล้านบาท ลดลง 14% จากปีก่อน
แต่คาดผลประกอบการไตรมาส 4/67 เติบโตจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อนจากโครงการแนวสูงสร้างเสร็จพร้อมขายและโอนในไตรมาส และ Backlog แนวราบที่ทยอยส่งมอบราว 1.4 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้มองว่าการโอนส่งมอบไตรมาส 4/67 จะได้แรงหนุนจากมาตรการส่วนลดค่าธรรมเนียมโอน (ที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท) ซึ่งจะหมดอายุธ.ค. 67 จึงคงประมาณการปี 2567 แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเหมาะสมสิ้นปี 2568 ที่ 11.40 บาท
QH ไตรมาส 4 ทรุด
QH ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุว่า ปัจจุบัน QH มี backlog มูลค่า 647 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดในไตรมาส 4/67 ดังนั้นคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/67 จะลดลงทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน เพราะได้รับแรงกดดันจากการรับรู้รายได้ที่ลดน้อยลง
อย่างไรก็ดี ปรับประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 32.6% มาอยู่ที่ 31.8% เพื่อสะท้อนอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอในไตรมาส 3/67 ส่งผลทำให้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ลดลง 3% มาอยู่ที่ 2.24 พันล้านบาท ลดลง 10.5% จากปีก่อน โดยกำไร 76% จะมาจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม จึงคงคำ แนะนำ tactical all สำหรับ QH ไว้ที่ Underperform โดยปรับมาใช้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 1.97 บาท
PSH ปีนี้กำไรดิ่งหนัก
PSH นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุว่า ปัจจุบัน PSH มี backlog มูลค่า 4.77 พันล้านบาท (46% จะรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 4/67 และ 52% จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2568) แม้คาดว่าธุรกิจโรงพยาบาลและธุรกิจ wellness จะเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 4/67 และจะทำรายได้มากกว่าเป้าที่ PSH วางไว้ที่ 2 พันล้านบาท (+20%) ราว 10% เป็น 2.2 พันล้านบาท แต่จะถูกลดทอนโดยรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแอลง
ทั้งนี้ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอจากบ้านเดี่ยวในไตรมาส 3/67 จึงปรับประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นโดยเฉลี่ยลดลงจาก 30.1% มาอยู่ที่ 27.6% ส่งผลทำให้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ลดลงมาอยู่ที่ 1.03 พันล้านบาท ลดลง53.3% จากปีก่อน อย่างไรก็ดี ยังไม่ได้รวมกำไรพิเศษที่อาจเกิดขึ้นจากการปรับโครงสร้างธุรกิจเข้ามาไว้ในประมาณการ แนะนำ Underperform โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 6.30 บาท/หุ้น
ORI ปีนี้กำไรดิ่งแรง
สุดท้าย ORI ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยังคงแนะนำ “ขาย” แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 4.10 จากกำไรปี 2567-68 ที่จะปรับลดลง และโครงการของ ORI ยังมีการยกเลิกการจองสูง จากยอดโอนเทียบ presales ที่มีส่วนต่างค่อนข้างมากโดยยังคงประมาณการกำไรปี 2567ที่ 1.7 พันล้านบาท ลดลง 36% จากปีก่อน
สำหรับกำไรไตรมาส 4/67 จะยังต่ำต่อเนื่อง แม้จะดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนได้ จากฐานต่ำปีก่อน ที่รายได้จากค่าบริหารโครงการที่ต่ำมาก แต่จะดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนตามการเร่งโอนที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี
ส่วนปี 2568 ปรับประมาณการกำไรลง 5% เป็น 1.69 พันล้านบาท ลดลง 2% จากปีก่อน ากแนวโน้มการเปิดตัวโครงการใหม่ที่ทำยอดขายได้ช้า ขณะที่ยังมีโครงการคงเหลือขายอีกค่อนข้างมาก ทำให้ยังคงต้องใช้โปรโมชั่นกระตุ้นการขาย กดดันให้ GPM ยังต่ำ
อสังหาฯ ปี 68 ยังท้าทาย
ด้านภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองปี 2568 กลุ่มอสังหาฯ มีปัจจัยท้าทายรออยู่ จาก 1.ความเชื่อมั่นผู้บริโภคชะลอตัว 2. ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น 3.ราคาอสังหาฯ ปรับตัวขึ้นสวนทางกำลังซื้อ 4. หนี้เสีย (NPL + SM) กลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัย ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และ 5.ความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อจากทางสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการมีแนวโน้มชะลอการเปิดโครงการใหม่สะท้อนสภาพตลาดฯ และเพิ่มความระมัดระวังต่ออุปสงค์ที่อยู่อาศัยที่ชะลอตัวลงโดยเฉพาะกลุ่มแนวราบ
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการ ทยอยปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน โดยโครงการเปิดใหม่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชัดเจนขึ้น (เช่น กลุ่มต่างชาติ, กลุ่มสถานศึกษา) และเพิ่มสัดส่วนโครงการเปิดตัวใหม่เน้นกลุ่มลูกค้า Segment ระดับกลางบนที่กำลังซื้อมีความทนทานต่อเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันทางการเงิน ที่ต่ำกว่า Segment อื่น รวมถึงการหันมามุ่งระบายสินค้าคงคลังมากขึ้น