บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเวทีสัมมนาการลงทุนสุดยิ่งใหญ่แห่งปี “Yuanta Thailand’s Investment Insights 2025”
รวมถึงฉายภาพทิศทางเศรษฐกิจไทย ยุทธศาสตร์การลงทุน ตลอดจนวิเคราะห์ตลาดของไทยและเวียดนาม เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญให้แก่ลูกค้าของหยวนต้า โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มสถาบัน โดยจัด Corporate Meeting ระหว่างวันที่ 21 – 22 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งงานนี้ได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนอาทิ ศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.), คุณจารุชาติ บูชาชาติ นักกลยุทธ์ จากทีมวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า และ Mr.Matthew Smith Yuanta Vietnam Head of Research มาแลกเปลี่ยนมุมมองในหลากหลายเวที ทั้งได้ ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน มาเป็นผู้ร่วมดำเนินรายการตลอดงาน
ทั้งนี้ Mr. Bobby Hwang,Chief Strategy Officer Chief International Operations Officer Yuanta Financial Holding Co.,Ltd. ขึ้นกล่าวเปิดงาน พร้อมนำคณะผู้บริหารต้อนรับลูกค้า ณ ห้องแมกโนเลีย บอลรูม ชั้น 10 โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567
Mr. Bobby Hwang, Chief Strategy Officer Chief International Operations Officer Yuanta Financial Holding Co.,Ltd กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศภูมิภาคเอเชียที่ถือว่าเติบโตรวดเร็วที่สุด ไม่ว่าจะด้านเศรษฐกิจหรือตลาดทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จึงจัดงานสัมมนา “Investment Insights” ขึ้นเพื่อแบ่งปันรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียนของไทยและเวียดนาม ที่มีอนาคตไกลและมีศักยภาพในการเติบโตสูง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จัดงานสัมมนาระดับนานาชาติขึ้นที่ประเทศไทย โดยมีลูกค้าสถาบันและคู่ค้าจากทั่วโลกมากกว่า 120 ราย ทั้งจากไต้หวัน ฮ่องกง เวียดนาม รวมถึงไทย เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง นับเป็นโอกาสดีที่ทุกคนจะได้รู้จักกันและสำรวจความเป็นไปได้ของความร่วมมือด้านฟิวเจอร์ส
พร้อมกันนี้ผู้เข้าร่วมงานยังมีส่วนได้ร่วมเปิดมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจ แนวโน้มตลาดทุนไทยและเวียดนาม จากศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ที่มาเปิดมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจของไทย และจากทีมวิเคราะห์หยวนต้าเวียดนาม และนักกลยุทธ์ของหยวนต้า (ประเทศไทย) มาร่วมแบ่งปันเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดของไทยและเวียดนาม ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดทุนของไทย เพื่อเพิ่มทางเลือกเปิดโอกาสในการลงทุนใหม่ ๆ และเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างหยวนต้า (ประเทศไทย), นักลงทุน และคู่ค้าจากทั่วโลก
ด้านคุณบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าด้วยสภาวะการลงทุนในปัจจุบันที่ท้าทายและซับซ้อน การได้รับข้อมูลเชิงลึกที่ครบถ้วนจะเป็นสิ่งสำคัญต่อการกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่จะสร้างผลตอบแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเชื่อว่างาน สัมมนา “YUANTA THAILAND'S INVESTMENT INSIGHTS 2025” ภายใต้หัวข้อ “SPOTTING K-SHAPED RECOVERY” ที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จัดขึ้นในครั้งนี้จะช่วยเสริมมุมมองและสร้างโอกาสในการลงทุนให้แก่นักลงทุนสถาบันได้เป็นอย่างดี
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้มีผู้บริหารระดับสูงจาก 33 บริษัท ที่ตอบรับเข้าร่วมงาน ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมกันกว่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 30% ของมูลค่าตลาดในประเทศ โดยบริษัทที่เข้าร่วมได้รับการคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน ไม่เพียงแต่เฉพาะด้านความแข็งแกร่งทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานที่ยั่งยืนโดยคำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล ESG อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ฝ่ายวิเคราะห์ของ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ความสำคัญมาโดยตลอด จึงทำให้ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มีการพัฒนาบทวิเคราะห์ ESG Rating เป็นของตัวเองและเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้งานวิเคราะห์มีความโดดเด่นในอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ การที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เป็นส่วนหนึ่งของ Yuanta Financial Group ทำให้มีเครือข่ายที่ช่วยให้สามารถนำเสนอโอกาสการลงทุนที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่รวมถึงโอกาสจากทั่วภูมิภาคเอเชียอีกด้วย ซึ่งงานสัมมนา “YUANTA THAILAND'S INVESTMENT INSIGHTS 2025” ในครั้งนี้ยังมีผู้บริหารของบริษัทชั้นนำในประเทศเวียดนามจำนวน 5 บริษัท ที่มาร่วมให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเศรษฐกิจเวียดนามและเจาะลึกโอกาสการลงทุนในตลาดเวียดนาม ซึ่งขณะนี้กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนเป็นอย่างมาก
ท้ายนี้ ดิฉันเชื่อว่างานสัมมนาในวันนี้ทุกท่านจะได้ มุมมองและข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจเกี่ยวกับตลาดทุนไทยอย่างมากมาย ซึ่ง บล.หยวนต้า ได้เริ่มดำเนินการในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2559 มาถึงปัจจุบันนี้รวมเวลากว่า8 ปี ที่ผ่านมา บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของวงการหลักทรัพย์ การันตีด้วยรางวัลด้านการวิเคราะห์ นวัตกรรม และล่าสุดรางวัล SET Award of Honor 2024 ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติสำหรับบริษัทที่รักษาคุณภาพของการดำเนินงานได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่องมากว่า 3 ปี ดิฉันมั่นใจว่า บล. หยวนต้า มีความพร้อมในทุก ๆ ด้านที่จะเป็นคู่คิดสำคัญให้กับทุกท่านในการหาโอกาสการลงทุนและต่อยอดสู่การสร้างผลตอบแทนจากตลาดทุนไทยต่อไป
ภายในงานสัมมนา“YUANTA THAILAND'S INVESTMENT INSIGHTS 2025” ในครั้งนี้ศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ฉายภาพให้เห็นว่า “ประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายที่หลากหลาย แต่ยังคงเติบโตได้จากการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งจากภาคการท่องเที่ยว และการลงทุนจากต่างชาติ ทางออกของเศรษฐกิจไทยในโลกที่ผันผวนนี้ จึงอยู่ที่การต่อยอดจุดแข็งดังกล่าวด้วยการยกระดับคุณภาพตลาดอย่างรอบด้าน ผ่านการเสริมสร้างความเชื่อมั่นในตลาด การเสริมสร้างศักยภาพทางการแข่งขัน และการมุ่งเน้นด้านความยั่งยืน”
ด้านคุณจารุชาติ บูชาชาติ นักกลยุทธ์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวให้คำแนะนำการลงทุน Thailand Key Highlights ว่า “ปัจจัยบวกต่อ SET Index ในปี 2568 ได้แก่ Valuation ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงทั่วโลกที่ช่วยหนุนเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย ขณะที่เสถียรภาพทางการเมืองและการกระตุ้นเศรษฐกิจจากงบประมาณรัฐบาล คาดจะช่วยผลักดัน GDP โต 3.2% จาก 2.8% ในปีนี้ อีกทั้ง FDI มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในกลุ่มเทคโนโลยีและนิคมอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาความเสี่ยงจากนโยบาย America First ของทรัมป์ที่อาจชะลอการลดดอกเบี้ยและทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็ง รวมถึงความตึงเครียดทางการค้า (Trade War) ด้านกลยุทธ์การลงทุนในปี 2568 เราแนะนำ 1) กลุ่ม Yield Play (Finance, Utilities) 2) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War (Industrial Estate: AMATA, WHA, ICT, Utilities) และ 3) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจและนโยบายภาครัฐ”
Mr.Matthew Smith Vietnam Head of Research มองว่า “เศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตในระยะยาวจาก 1) โครงสร้างประชากรวัยทำงานที่ยังเติบโตจนถึงปี 2035 2) การขยายตัวของชนชั้นกลางที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 3) การเติบโตของตัวเลข FDI จากการฐานการผลิตเข้ามาในประเทศ สำหรับปี 2025 เศรษฐกิจยังคงเติบโตจากการอัปเกรดดัชนีตลาดหุ้นเวียดนาม (VNI) เข้าสู่ตลาด FTSE และการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ใน 2H25 เราคาดเป้าดัชนี VNI ปี 2025 จะอยู่ที่ 1539 จุด เพิ่มขึ้น 24% YoY อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยไม่แน่นอนทั้งในและต่างประเทศ เช่น อัตราดอกเบี้ย, ความขัดแย้งทางการเมือง, และความล่าช้าในการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์จากปัจจัยทางการเมืองในประเทศ กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำกลุ่ม 1) Finance (VCB, ACB, HDB) 2) Utilities (MWG, PNJ) 3) Technology (FPT)”