Talk of The Town

AOT สูญเสียรายได้ หลังขอคืน พื้นที่จาก “คิง เพาเวอร์” โบรกฯ หั่นคาดการณ์กำไรและราคาเป้าหมาย


22 พฤศจิกายน 2567

AOT ขอคืนพื้นที่จาก “คิง เพาเวอร์” คาดรายได้ค่าเช่าพื้นที่ลดลงเดือนละ 0.6 ล้านบาท และ รายได้ผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือน ช่วงปีสัญญา 2567 –2568 ของลดลงเดือนละ 24 ล้านบาท นักวิเคราะห์หั่นเป้ากำไรงวดปี 2567/68 และปี 2568/69 ลดลงปีละ 2% พร้อมหั่นเป้าหมายเหลือ 69.00 บาทต่อหุ้น คงคำแนะนำ “TRADING”

โบรกฯ หั่นเป้ากำไร AOT_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

นายกฤช ภาคากิจ เลขานุการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า ตามที่ บริษัทจะดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) โดยจะมีพื้นที่ก่อสร้างบางส่วนอยู่บริเวณสวนหย่อมภายนอกอาคารผู้โดยสารฝั่งตะวันออก (Food Stop (City Garden เดิม)) ชั้น 2 ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าวบางส่วน บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด (KPS) ได้รับสิทธิในการประกอบกิจการบริหารจัดการพื้นที่กิจกรรมเชิงพาณิชย์สำหรับร้านค้าย่อย หรือบริการต่าง ๆ โดยมีอายุสัญญาตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2563 - 31 มีนาคม 2576 นั้น 

ด้วยเหตุดังกล่าว ทอท.จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการบริหารจัดการเชิงพาณิชย์ บางส่วนบริเวณดังกล่าวจาก KPS โดย ทอท.ได้มีหนังสือแจ้ง และ KPS ได้ส่งมอบพื้นที่บริเวณดังกล่าวคืนให้แก่ ทอท. ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 

ทั้งนี้ KPS มีความประสงค์ขอให้ ทอท.จัดสรรพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ซึ่งมีขนาดพื้นที่เท่ากับขนาดพื้นที่ Food Stop เดิมให้กับ KPS เพื่อประกอบกิจการจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มให้กับผู้โดยสารและผู้มาใช้บริการต่อไป อย่างไรก็ตาม ทอท.ไม่สามารถจัดสรรพื้นที่ที่มีขนาดเท่ากับพื้นที่ที่ ทอท.ขอคืนให้กับ KPS เพื่อเป็นการทดแทนได้ เนื่องจากปัจจุบันไม่มีพื้นที่เหลือที่มีขนาดใหญ่เพียงพอ  

โดยในการประชุมคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 14/2567 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน 2567  มีมติอนุมัติให้ ทอท.ขอคืนพื้นที่ ประกอบกิจการฯ ของ KPS ณ ทสภ. จำนวนรวมประมาณ 1,257.560 ตารางเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 4.97 ของพื้นที่ประกอบกิจการทั้งหมดของ KPS ณ ทสภ. (จำนวน 25,307.260 ตารางเมตร) 

โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป เพื่อให้ ทอท.นำมาใช้ประโยชน์ในการก่อสร้างอาคารส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก ณ ทสภ. ซึ่งการขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการฯ ดังกล่าว ทอท.จะต้องคืนค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำของปีสัญญาที่ 2 (1 เมษายน 2566 – 31 มีนาคม 2567) ที่ KPS ได้ชำระให้แก่ ทอท.ไว้แล้วให้แก่ KPS ตามจำนวนพื้นที่ประกอบกิจการฯ ที่ลดลง นับตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นมา เป็นจำนวนเงินประมาณ 193.08 ล้านบาท 

โดย KPS ตกลงที่จะ ไม่เรียกร้องค่าเสียหาย ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายใด ๆ จากการที่ ทอท.ชำระคืนค่าผลประโยชน์ตอบแทนดังกล่าว ทั้งนี้ การขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการฯ จาก KPS ดังกล่าว จะทำให้ ทอท.มีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ประกอบกิจการฯ ภายใน อาคารผู้โดยสาร ณ ทสภ. ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 591,000.- บาท และค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ทสภ. ในช่วงปีสัญญาที่ 3 (1 เมษายน 2567 – 31 มีนาคม 2568) ลดลงเป็นจำนวน เงินเดือนละประมาณ 23.46 ล้านบาท ซึ่ง ทอท.ได้รับรู้รายการดังกล่าวไว้ในงบการเงินประจำปี 2567 เรียบร้อยแล้ว 

แต่อย่างไรก็ตาม ทอท.คาดว่า เมื่อโครงการก่อสร้าง East Expansion แล้วเสร็จ จะทำให้ ทอท.มีรายได้เพิ่มขึ้นจาก การให้บริการผู้โดยสาร และการอนุญาตให้ประกอบกิจการเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะเป็นการชดเชยรายได้ส่วนที่ลดลงต่อไป

ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า จากประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้ AOT  ต้องคืนค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำย้อนหลังให้ KPS ตั้งแต่ ก.ค.2564 เป็นจำนวนเงินราว 193 ล้านบาท (รับรู้แล้วในงบปี 2567) ส่วนผลกระทบในอนาคต รายได้ค่าเช่าพื้นที่ลดลงเดือนละ 0.6 ล้านบาท และ รายได้ผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือน (MAG) ช่วงปีสัญญา 2567 –2568 ของลดลงเดือนละ 24 ล้านบาทซึ่งเมื่อโครงการ East Expansion แล้วเสร็จบริษัทคาดจะมีรายได้เพิ่มเติมจากผู้โดยสาร และ กิจกรรมเชิงพาณิชย์อื่นๆ ชดเชยรายได้ส่วนที่ลดลง

อย่างไรก็ดี จากการการขอคืนพื้นที่ ฝ่ายวิจัยได้ปรับลดกำไรปกติปี 2567/68 ลง 2% เป็น 2.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 12% จากปีก่อน และปี 2568/69 ลง 2% เป็น 2.4 หมื่นล้านบาท เติบโต 11% จากปีก่อน เนื่องจากการปรับลดรายได้ค่าเช่าพื้นที่ลดลงปีละ 12 ล้านบาท และรายได้ค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ (MAG) ปรับลงเป็น 69.5 ยาทต่อคน จากเดิม 72 บาทต่อคน ตามสัดส่วนพื้นที่ที่ขอคืน ปรับราคาเหมาะสมลงเป็น 69.00 บาทต่อหุ้น คงคำแนะนำ“TRADING”

AOT