เหลือเวลไม่ถึง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2567 กันแล้ว รอบนี้จะพานักลงทุนมาสำรวจกันว่าหุ้นไทย 10 อันดับแรกที่บวกแรงสุดในดัชนี SET คือบริษัทไหนกันบ้าง
จากการสำรวจข้อมูลผ่าน SETSMART อ้างอิงราคาปิด ณ วันที่ 21 พ.ย. 67 พบว่า CCET คือหุ้นที่ราคาหุ้นหุ้นปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดกว่า 344% ตามด้วย TRUE ที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 135% และ SAMTEL ที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 134% นับจากต้นปีถึงปัจจุบัน (ณ วันที่ 21 พ.ย. 67)
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงเวลาเดียวกัน พบว่า ปรับตัวเพิ่มขึ้น 46 จุด หรือราว 3.29% โดยดัชนีปิดทำจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 17 ต.ค.67 ระดับ 1,495.02 จุด และทำจุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 6 ส.ค.67 ที่ 1,274.01 จุด
สำหรับความร้อนแรงของ CCET ราคาหุ้นเคยทำจุดต่ำสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 2.04 บาท หลังจากนั้นราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนแตะระดับสูงสุดที่ 10 บาท เมื่อวันที่ 19 พ.ย.67 ที่ผ่านมา
โดย CCET คือ ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อีเล็คโทรนิคส์ในรูปแบบของ Electronics Manufacturing Services (EMS) มีกลุ่มลูกค้าหลัก 2 ประเภทคือ อุปกรณ์ประกอบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม
ขณะที่ผลประกอบการ CCET กำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยปี 2563 มีกำไรสุทธิ 209 ล้านบาท แต่ล่าสุดรอบ 9 เดือนปี 2567 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น มาสู่ระดับ 1,985 ล้านบาท เติบโต 95% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุว่า CCET ถือเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่มีคุณลักษณะคล้าย DELTA กล่าวคือ มี Free float ต่ำ และขนาด Market cap เริ่มสูงขึ้นจนมีอิทธิพลต่อดัชนี SET
ทั้งนี้ CCET เป็นตัวหุ้นที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าจะถูกนำเข้าสู่ดัชนี SET50 และ SET100 ประจำรอบถัดไป หรือครึ่งปีแรกของปี 2568 แน่นอนแล้ว
แต่หากมูลค่าการซื้อขายของตัวหุ้น ณ วันที่ (21 พ.ย.) มีมากกว่า 2,380 ล้านบาท จะทำให้ตัวหุ้นมีความเสี่ยงที่จะเข้าเกณฑ์ซื้อขายด้วยบัญชี Cash balance ทันที ซึ่งหากประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ ก็จะกินเวลาควบ 2 เดือน (พ.ย.-ธ.ค.) คล้ายกับหุ้น DELTA และทำให้ตัวหุ้นมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่อาจถูกถอดออกจากดัชนี SET50 และ SET100 ในรอบครึ่งหลังปี 2568 คล้ายกับกรณีของหุ้น DELTA เช่นกัน ถือเป็นปัจจัยที่น่าติดตามต่อไป