รายงานพิเศษ : ASIA มั่นใจรายได้ปี 67 โต 15% อานิสงส์ท่องเที่ยวบูม-รีโนเวทครั้งใหญ่
นักท่องเที่ยวที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเกือบเท่ากับช่วงก่อนที่จะเกิดการระบาดของโควิด19 หนุนธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยให้ขยายตัว โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม สะท้อนจากผลงานของ บมจ.เอเชียโฮเต็ล (ASIA) ผู้บริการตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15%
นักท่องเที่ยวไหลเข้าทะลุ 29 ล้านคน
กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศไทยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 3 พฤศจิกายน 2567 รวมทั้งสิ้น 29.08 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,358,087 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 5,756,998 คน มาเลเซีย 4,187,399 คน อินเดีย 1,725,659 คน เกาหลีใต้ 1,539,516 คน และรัสเซีย 1,309,395 คน
สำหรับในช่วงวันที่ 28 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2567 นักท่องเที่ยวตลาดระยะไกล (Long haul) เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 24.85% โดยมีปัจจัยจากการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (High season) ของนักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรป อเมริกา และโอเชียเนีย โดยเฉพาะตลาดรัสเซีย และเยอรมัน และกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 17.72% จากการมีวันหยุดต่อเนื่อง (เทศกาลดิวาลี) ในหลายประเทศ อาทิ อินเดีย มาเลเซีย และสิงคโปร์
มาตรการส่งเสริมท่องเที่ยวหนุน
นายพัชรพล เตชะหรูวิจิตร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียโฮเต็ล จำกัด (มหาชน) (ASIA) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นและส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดออกมาตรการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” เพื่อเป็นการกระตุ้นการเที่ยวเที่ยวภาคเหนือ และเป็นการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการที่พักและโรงแรมในภาคเหนือซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา โดยโรงแรมราชพฤกษ์ ลานนา บูทีค เชียงใหม่ และโรงแรมดาร์เลย์ เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือของ ASIA ก็ได้เข้าร่วมในโครงการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” ด้วย ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ www.แอ่วเหนือคนละครึ่ง.com ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป
เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น
สำหรับในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี จะถือได้ว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวไทย เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยมีอากาศเย็นสบายเหมาะแก่การท่องเที่ยวมากที่สุด จึงเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศนิยมเดินทางมาเยือนสถานที่ต่างๆ จึงเป็นโอกาสที่ดีต่อธุรกิจ ASIA ซึ่งมีโรงแรมตั้งอยู่ตามหัวเมืองแหล่งท่องเที่ยว ประกอบด้วย
1) โรงแรมเอเชีย ซึ่งตั้งอยู่ที่เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 2) โรงแรมเอเชียพัทยา ตั้งอยู่ที่เมืองพัทยา 3) โรงแรมเอเชียแอร์พอร์ท ตั้งอยู่ที่ รังสิต ปทุมธานี 4) โรงแรมเอเชีย ชะอำ ตั้งอยู่ที่หาดชะอำ จ. เพชรบุรี 5) ราชพฤกษ์ ลานนา บูทีค ตั้งอยู่ที่ตำบล หนองควาย อำเภอ หางดง จังหวัด เชียงใหม่ และ 6) โรงแรมดาร์เลย์ตั้งอยู่ที่ ตำบล ช้างม่อย อำเภอ เมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
โดยปัจจุบันโรงแรมเอเชียกรุงเทพ มีอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ประมาณ 80-90% ส่วนโรงแรมเอเชียพัทยา มีอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ประมาณ 50-60% สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นเมื่อช่วงต้นปี 2567 ยังเปิดให้บริการร้านคาเฟ่กึ่งร้านอาหาร “Sunny Beach House Pattaya” ในบริเวณหน้าผาเข้าพระตำหนัก ซึ่งอยู่ในบริเวณของโรงแรมเอเชียพัทยา ซึ่งปัจจุบันได้รับกระแสตอบรับจากนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลาม จึงคาดว่าจะช่วยดึงดูดการเข้าพักของลูกค้าเพิ่มมากขึ้น
ตั้งเป้าหมายรายได้โต 15% ต่อปี
จากปัจจัยบวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจากทางรัฐบาล ตลอดจนแผนการรีโนเวทโรงแรมในเครือ ซึ่งปัจจุบันโรงแรมเอเชียกรุงเทพได้ดำเนินการเสร็จสิ้นทั้งในส่วนของห้องสัมมนา ล็อบบี้ และโซนพื้นที่ร้านค้าร้านอาหารใหม่ ส่วนในช่วงปลายปี 2567 ถึงต้นปี 2568 เตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินการรีโนเวทโรงแรมเอเชียพัทยา ทั้งในส่วนของห้องพักและภูมิทัศน์โดยรอบ และประมาณปลายปี 2568 จะเริ่มการรีโนเวทห้องพักของโรงแรมเอเชียแอร์พอร์ท ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวและปัจจัยบวกที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงาน โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15% ต่อปี