Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 25-11-24 (ใครจะชนะ! LTF ขาย-THAIESG ซื้อ)


25 พฤศจิกายน 2567

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม  25-11-24 (ใครจะชนะ!  LTF ขาย-THAIESG  ซื้อ)

25-11-24 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

***ศุกร์ที่ผ่านมา ดาวโจนส์ปิดที่ 44,296.51 จุด เพิ่มขึ้น 426.16 จุด หรือ +0.97%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,969.34 จุด เพิ่มขึ้น 20.63 จุด หรือ +0.35% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,003.65 จุด เพิ่มขึ้น 31.23 จุด หรือ +0.16% ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 1.96%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.68% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 1.73%

***รายงานข่าวระบุว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (22 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างแข็งแกร่งในสหรัฐฯ ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก

***ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดในรอบ 31 เดือนในเดือน พ.ย. โดยได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และการออกนโยบายที่เป็นมิตรกับภาคธุรกิจมากขึ้นจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในปีหน้า

***เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.3 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 31 เดือน จากระดับ 54.1 ในเดือนต.ค. ดัชนี PMI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคธุรกิจสหรัฐฯ

***ที่จริงปลายปีนี้หุ้นน่าจะขึ้นแบบชิลๆ เพราะได้แรงหนุนจากกองทุน THAIESG หรือ THAILAND ESG FUND  แต่ในช่วงนี้อาจเห็นแรงที่สู้กันระหว่างแรงขายของ LTF และ แรงซื้อของ  THAIESG

***โดยในส่วนของ LTF พบว่ามี AUM คงค้าง 2.4 แสนล้านบาท เป็นส่วนที่สามารถขายได้ภายในปี 2567 จำนวน 1.67 แสนล้านบาท และในปี 2568 ก็สามารถขายได้ทั้งหมด ส่วน THAIESG  สิ้น ต.ค.67 มี AUM 1.16 หมื่นล้านบาท แยกเป็นกองหุ้น 7.17 พันล้านบาท แต่ที่น่าสนใจพบว่าช่วงส.ค.-ต.ค.67 เม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นรวม 3.5 พันล้านบาท ถูกแยกเป็นซื้อกองหุ้น และ ตราสารหนี้อย่างละครึ่ง 

***กูรูหุ้นให้ความเห็นว่า แม้ต้นทุนกองทุน LTF ที่ซื้อในปี 2561 ส่วนใหญ่ยังขาดทุน โดย เฉลี่ยเทียบกับ SET INDEX ที่ 1678 จุด แต่เชื่อว่า ในช่วงที่เหลือของปี อาจมีนักลงทุนนำเงินส่วนนี้ มาสลับเข้ากองทุน THAIESG แทน ทำให้เห็นเม็ดเงินขาย LTF บางส่วนออกมากดดันตลาดหุ้น และบางส่วนสลับไปเข้ากองทุน THAIESG ประเภทตราสารหนี้แทนอีก

***เจ๊ยังได้รู้มาอีกว่า..มีเม็ดเงิน LTF คงค้างในระบบลดลงมาตลอดจากปี 2562 ที่ 4.06 แสนล้านบาท และลดลงจน ปี 2566 เหลือ 2.65 แสนล้านบาท ลดลงต่อจนปัจจุบัน ต.ค. 24 เหลือ 2.4 แสนล้านบาท แต่ถ้ามองในมุมเม็ดเงิน LTF ที่พร้อมขายได้จะเห็นการเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่ 1.14 แสนล้านบาท, ปี 2567 ที่ 1.69 แสนล้านบาท และปี 2568  เม็ดเงิน LTF สามารถถูกขายคืนได้ทั้งหมด 2.41 แสนล้านบาท ดั้งนั้นเม็ดเงินพร้อมขาย LTF ปี 2568 ที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยกดดันตลาดต่อในช่วงต้นปีหน้าได้ เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่มักขายคืนกองทุนประหยัดภาษีในช่วงต้นปีมากสุด

***แฟนคลับของเจ๊คงอยากรู้ว่า AOT จะเป็นอย่างไรต่อไป  ต่อกรณีที่มีการเรียกคืนพื้นที่เช่าจาก คิงพาวเวอร์ สุวรรณภูมิอีกรอบ ทำให้ต้องคืนเงินการันตีและสูญเสียรายได้ในอนาคต ซึ่งในรอบจะทำให้กำไรของ AOT ลดลงราว 2% ต่อปี เป็น Sentiment ลบกับราคาหุ้น

***ปิดท้ายวันนี้กับประเด็น MSCI Rebalance  สำหรับรอบนี้การ Rebalance ดัชนี MSCI จะมีผลราคาปิดวันจันทร์หน้า (25 พ.ย.)ประเมินเม็ดเงินเข้า -ออก หุ้นไทย ภาพรวมไม่มีเปลี่ยนแปลงมีนัยฯ

-หุ้นเข้า : ไม่มี แต่คาดจะมีการเพิ่มน้ำหนักใน BH (25 ล้านเหรียญฯ) ส่วน GULF, ADVANC, SCB,TRUE, INTUCH หุ้นละ 10-15 ล้านเหรียญฯ

-หุ้นออก : SCGP (-65 ล้านเหรียญฯ) ส่วน BEM, BDMS และ SCC ลดน้ำหนัก -5 ล้านเหรียญฯ

***สะกิดกันลืมค่ะ!!! PROEN และ PROEN-W2 ตอนนี้ตลท.จับเป็นหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย ระดับ 1 ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance ระหว่างวันที่ 25 พ.ย. -13 ธ.ค. 2567