รายงานพิเศษ : TPS รับกระแส “เศรษฐกิจดิจิทัล-ดาต้าเซ็นเตอร์” เติบโต ส่งสัญญาณผลงานปีนี้ทิศทางสดใส
การเติบโตของ “เศรษฐกิจดิจิทัล-ดาต้าเซ็นเตอร์” ที่ยังแข็งแกร่งและต่อเนื่อง สนับสนุนผลงาน บมจ. เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น (TPS) ไตรมาส4และปีนี้ขยายตัวตามเป้าหมาย
บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จํากัด (JLL) บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก คาดการณ์ตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในเอเชีย โดย นายไมเคิล แกลนซี่ กรรมการผู้จัดการ JLL เชื่อตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในเอเชียกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีความจุในการเก็บข้อมูลรวมเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจาก 2,500 เมกะวัตต์ในปี 2565 เป็น 5,000 เมกะวัตต์ในปี 2566
การเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้สะท้อนถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการจัดเก็บข้อมูลและการประมวลผลในอุตสาหกรรมต่างๆ ของภูมิภาค โดยสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จีนยังเป็นผู้นำด้วยจำนวนดาต้าเซ็นเตอร์รวมสูงสุด 448 แห่ง ตามด้วยออสเตรเลียที่ 306 แห่ง และญี่ปุ่นซึ่งมีดาต้าเซ็นเตอร์ 218 แห่ง ตัวเลขนี้แสดงถึงความเป็นผู้นำในระบบโครงสร้างพื้นฐานและธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ของประเทศดังกล่าวในเอเชียแปซิฟิก
ในขณะที่ประเทศไทยมีดาต้าเซ็นเตอร์เพียง 39 แห่ง ยังตามหลังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อื่นๆ อย่างมาเลเซียที่มี 55 แห่งและอินโดนีเซียที่ 79 แห่ง ซึ่งตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่าศักยภาพการเติบโตของไทยในภาคธุรกิจนี้ยังมีอีกมากมาย โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจดิจิทัลยังเติบโตต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว ซึ่งเกิดจากนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการสนับสนุนจากภาครัฐในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล”
“เมื่อความต้องการบริการดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ประเทศไทยซึ่งมีข้อได้เปรียบทั้งในเรื่องที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์และสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ดี กลายเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำคัญซึ่งจะมีส่วนสนับสนุนอนาคตของธุรกิจดิจิทัลในประเทศไทยต่อไป” นายไมเคิล แกลนซี่ กล่าว
การขยายตัวอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีสารสนเทศและธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ จะส่งผลดีต่อ บมจ. เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น (TPS) ในฐานะผู้ให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ( Information Technology Solutions Provider : ITP )
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “บุญสม กิจเกษตรสถาพร” มั่นใจแนวโน้มผลงานในไตรมาส 4/67 ยังมีทิศทางสดใส ทำให้รายได้ปีนี้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนได้ตามเป้าหมาย โดยปัจจุบัน บริษัทมีงานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 1,931.50 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปีหน้า ขณะที่ TPS และ บริษัท เดอะวิน เทเลคอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ยังเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะงานขนาดใหญ่ของภาครัฐที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ซึ่งขณะนี้มีสัดส่วนรายได้จากภาครัฐ 41% และภาคเอกชน 59%
ด้านธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้ (Cyber Security) ของบริษัท เอ็กซ์ ซีเคียว จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ให้คำปรึกษาและการออกระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์, จัดหาบริการศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามไซเบอร์ (CSOC: Cyber Security Operation Center & CSIRT : Cyber Security Incident Response Team) ที่มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีชั้นนำที่ทันสมัย สามารถรับรู้รายได้อย่างสม่ำเสมอจากกลุ่มลูกค้าเดิม และมีการขยายไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มเติม
"ในไตรมาส 4/67 บริษัทฯ ยังเชื่อมั่นว่า จะสามารถสร้างผลงานได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากกำไรสุทธิในงวด 9 เดือนของปีนี้อยู่ที่ 74.67 ล้านบาท โดยธุรกิจการให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขาย ธุรกิจวิศวกรรมโยธาด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานและโทรคมนาคมในส่วนของบริษัทย่อยสามารถรับรู้รายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ประกอบกับ Backlog ที่มีอยู่ นอกจากนี้ ภาครัฐยังให้การส่งเสริมให้ประเทศไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีบล็อกเชนระดับโลก สอดคล้องกับธุรกิจของบริษัทฯ"