รายงานพิเศษ : SFLEX หนึ่งในหุ้นที่ถูกที่สุดในกลุ่ม CEO มั่นใจรายได้ปีนี้แตะ 2,000 ลบ.
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ออกบทวิเคราะห์ ระบุปัจจุบันหุ้น SFLEX ซื้อขายที่2025E P/E เพียง 9.1x เป็นหนึ่งในหุ้นที่ถูกที่สุดในกลุ่ม ขณะที่ ผู้บริหารบริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้ทำสถิติสูงสุดแตะ 2,000 ล้านบาทตามเป้า
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ออกบทวิเคราะห์ บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) โดยระบุว่า ไตรมาส3/67 SFLEX สร้างสถิติกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 76 ล้านบาท(+17.2% q-q, +57.2% y-y) แม้ว่ากำไรจะเป็นไปตามคาด แต่อัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าคาดอย่างน่าประทับใจ
ซึ่งกำไรที่ดีดังกล่าวมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงที่สุดในรอบกว่า 6 ปีที่ 26.1% ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม และได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงอย่างน่าประทับใจเป็นผลมาจากความสามารถในการบริหารจัดการวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพ มีการตกลงราคาล่วงหน้า สามารถเจรจาปรับราคาขายกับลูกค้าให้สะท้อนต้นทุนได้ และการประหยัดต่อขนาด
ในส่วนของรายได้จากการขาย เติบโตอย่างต่อเนื่อง +5.3% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 13.1% จากปีก่อน เป็น 476 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 2 รองจากไตรมาส 1/67 ตามการเติบโตของการอุปโภคบริโภคในประเทศ ซึ่งหนุนให้ Demand ของ Flexible packaging เติบโต รวมถึงการปรับราคาขาขให้สะท้อนต้นทุน ค่าใช้จายในการขายและบริหารควบคุมได้ดี อยู่ในกรอบ 11-12% ของรายได้เหมือนในอดีต
SFLEX ยังรับส่วนแบ่งกำไรจาก JV Starprint Vietnam (SFLEX ถือ 25%) 10 ล้านบาท สูงขึ้นเกือบเท่าตัวจาก 2Q24 (+82.7% q-q) ส่วนแบ่งกำไรดังกล่าวคิดเป็น 13.0% ของกำไรรวม ทั้งนี้หากไม่รวมส่วนแบ่งกำไรจาก Starprint Vietnam กำไรปกติของ SFLEX จะอยู่ที่ 66 ล้านบาท ยังคงเป็นสถิติสูงสุด
กำไรปกติงวด 9เดือน เพิ่มขึ้น 46.3% จากปีก่อน เป็น 204 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นและการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก Starprint เวียดนาม ตั้งแต่ต้นปี กำไรดังกล่าวคิดเป็น 84% ของประมาณการกำไรทั้งปีที่เราคาด 243 ล้านบาท (+33.9% เพิ่มขึ้น) ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4/67 สดใส
เรายืนยันคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 5.10 บาท อิง 2025E P/E 16 เท่า (-0.7SD ของค่าเฉลี่ย 4 ปี) ปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ 68 P/E เพียง 9.1 เท่า เป็นหนึ่งในหุ้นที่ถูกที่สุดในกลุ่ม
ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SFLEX ระบุ ผลประกอบการในไตรมาส 3/2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นไตรมาสที่ 8 ติดต่อกัน เนื่องจากการฟื้นตัวของสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศหลังการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี และลูกค้าเริ่มมีการเตรียมสต็อกสินค้าเพื่อรองรับดีมานด์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 4 อีกทั้งบริษัทฯ มีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ประกอบกับมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วมที่จำนวน 9.8 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจของบริษัทร่วมที่ประเทศเวียดนาม เข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานของปี 2567 บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างรายได้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้อยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน และสร้างสถิติสูงสุดใหม่ จากแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจมุ่งเน้นการขายสินค้าที่มีมูลค่าสูง เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีการเติบโตต่อเนื่อง และกลุ่มที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มความยั่งยืน หรือแพคเกจจิ้งที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ (Recyclable) ให้มากยิ่งขึ้นตามเทรนด์ในปัจจุบัน พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ยกระดับ SFLEX และเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอย่างครบวงจร และสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว
ขณะที่ความคืบหน้าโครงการร่วมทุน "บริษัท สตาร์ยูเนี่ยน แพคเกจจิ้ง จำกัด" เตรียมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ประมาณต้นปี 2568