หากจะพูดถึงกลุ่มหุ้นที่มีความทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอและสามารถเติบโตได้ดี หนึ่งในนั้นก็จะมีกลุ่มหุ้นโรงไฟฟ้าติดอยู่ในลิสต์ด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งในวันนี้ทางสำนักข่าว Share2Trade จึงจะพาผู้อ่านและนักลงทุนมาดูแนวโน้มธุรกิจ 6 หุ้นโรงไฟฟ้า พร้อมกับมุมมองการลงทุนจากนักวิเคราะห์กัน
โดยเริ่มกันที่ GULF นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาดแนวโน้มกำไรในช่วงปี 2567-2569 จะอยู่ที่ 18,119 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 30%), 22,186 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 15%) และ 23,968 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 22%) ในการเข้าร่วมประมูลพลังงานหมุนเวียน (ประมาณ 20,000-30,000 เมกะวัตต์)และโรงไฟฟ้าก๊าซ (ประมาณ 6,000 เมกะวัตต์)
นอกจากนี้ยังมีอัพไซด์จากกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นจากการประมูลพลังงานหมุนเวียนรอบ 2 และ PDP2024 ที่อาจสร้างกำไรให้บริษัทเพิ่มขึ้น 10,000 -17,000 ล้านบาท,การนำเข้า LNG เพิ่มขึ้น จะทำให้มีกำไรจาก shipping fee ราว 500-600ล้านบาทต่อปี,แผนขยาย Data Center และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการถือ ADVANC ดังนั้น แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายที่ 60.25 บาท
GPSC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดแนวโน้มกำไรปี 2567 ที่ 3,523 ล้านบาท ลดลง 4% จากปีก่อน ลดลงตามกำไรปกติไตรมาส 4/67 ที่เข้าสู่ปัจจัยฤดูกาลโรงไฟฟ้าและยังมีต้นทุนค่าก๊าซที่สูงขึ้นในขณะที่Ft ถูกตรึงกดดันมาร์จิ้น
อย่างไรก็ตามปี 2568 คาดกำไรจะกลับมาเติบโตโดดเด่นหรือเพิ่มขึ้น 85% จากปีก่อนมาอยู่ที่ 6,501 ล้านบาท จากการปรับค่า Ft ให้สะท้อนตามต้นทุนพลังงานและสามารถทยอยจ่ายคืนหนี้ EGAT ได้ 0.25 บาท/หน่วย ตลอดทั้งปี จะทำให้มาร์จิ้น SPP กลับมาขยายตัวได้ ดังนั้น จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 60 บาท
RATCH นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) คาดกำไรปี 2567 ที่ 6,767 ล้านบาท เติบโต60% จากปีก่อน เนื่องจากในปีนี้มีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก Paiton และหินกอง (ปีที่แล้วไม่มี) รวมถึงกำไรจาก SPP เพิ่มขึ้นตามค่า Ft เพิ่มขึ้นจากฐานต่ำ
ส่วนในปี 2568 คาดการณ์กำไรจะอยู่ที่ 7,760 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน หลังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก Paiton เต็มปี และเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการ COD โครงการใหม่ปีหน้า ได้แก่หินกอง หน่วยที่ 2 770 เมกะวัตต์, NNEG เฟสที่ 3 30 เมกะวัตต์ และ Song Giang 1 12 เมกะวัตต์ ดังนั้น ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 37 บาท
EGCO นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) คาดกำไรปี 2567 ที่ 7,815 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อนหน้า และในปี 2568 จะอยู่ที่ 8,082 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนหน้า ถูกหนุนด้วยส่วนแบ่งกำไรเต็มปีจากหยุนหลินรวมถึงคาดมีดีล M&Aใหม่ ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 150 บาท
BGRIM นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดกำไรปี 2567-69 ที่ 2,257 ล้านบาท เพิ่มขึ้น10% จากปีก่อน, 2,532 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน และ 2,752 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน จากการปรับสมมติฐานราคาก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยในปี 2567-69 ลง เป็น 330 บาท/MMBtu เพื่อสะท้อนต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลง
สำหรับไตรมาส 4/67 จะมีกำไรอยู่ที่ 400-450 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกัน ได้แรงหนุนจากรายได้รวมที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากการเชื่อมต่อกับกลุ่มลูกค้า IU ใหม่อีกราว 10-15 เมกะวัตต์และการไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการตรึงค่าไฟฟ้าเหมือนปีก่อน ดังนั้นจึง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 32 บาท
BPP นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดการณ์กำไรปี 2567 จะอยู่ที่ 3,426 ล้านบาท ลดลง 35% จากปีก่อนหน้า แต่ในปี 2568 จะมีกำไรอยู่ที่ 3,871 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อนหน้า จากความต้องการใช้ไฟฟ้าในอเมริกาจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นในปีหน้า ดังนั้น จึงแนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 14 บาท