กระดานข่าว

ANI มุ่งดันปริมาณขนส่งสินค้าทางอากาศปี 67 พุ่งสู่ 1.35 แสนตัน เพิ่มขึ้น 20%


02 ธันวาคม 2567

บมจ.เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ ANI คาดการณ์วอลุ่มขนส่งสินค้าทางอากาศทั้งปี 2567 พุ่งสูง 1.35 แสนตัน เพิ่มขึ้นกว่า 20% และมุ่งเพิ่มความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2567 จากการเจรจาสายการบินพันธมิตรเพิ่มระวางสินค้าเส้นทางยุโรปและสหรัฐฯ เพิ่มประสิทธิภาพบริหารค่าใช้จ่าย และใช้เครื่องมือทางการเงินลดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน เผยปริมาณขนส่งสินค้าเดือนตุลาคมเป็นไปตามคาด มองนโยบายสงครามการค้าของ โดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นผลเชิงบวกต่อธุรกิจ จากกการใช้ประเทศอื่นๆ ในอาเซียน เป็นฮับของการส่งออกสินค้าทดแทนจีน 

คุณบี เล็ง โก๊ะ  ANI.jpg

นางสาว บี เล็ง โก๊ะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ ANI ผู้นำธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินหรือ Cargo General Sales Agent (GSA) เปิดเผยว่า จากภาพรวมต้องการขนส่งสินค้าทางอากาศนับจากต้นปีถึงปัจจุบันที่อยู่ระหว่างที่ดี ประกอบกับไตรมาสสุดท้ายเป็นไฮซีซันของธุรกิจ

ที่จะมีความต้องการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อสต๊อกสินค้าก่อนถึงเทศกาลปีใหม่ จึงคาดว่าตลอดทั้งปี 2567 บริษัทฯ จะมีปริมาณ (วอลุ่ม) การขนส่งสินค้าทางอากาศรวม 1.35 แสนตัน เพิ่มขึ้นกว่า 20% จากปีก่อน โดยช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีปริมาณการขนส่งแล้วเกือบ 1 แสนตัน เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการขนส่งสินค้าทางอากาศจากไทย จีน ฮ่องกง เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งเป็นผู้ส่งออกหลักในภูมิภาคนี้ 

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ วางกลยุทธ์เพิ่มความสามารถในการทำกำไรในไตรมาส 4/2567 อย่างต่อเนื่อง จากไตรมาสก่อนหน้า โดยการเจรจากับสายการบินพันธมิตรเพื่อเพิ่มระวางสินค้าในเส้นทางยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเส้นทางระยะไกลและได้รับผลตอบแทนที่ดี ตลอดจนอานิสงส์ของไฮซีซั่นของธุรกิจ  โดยสถานการณ์เดือนตุลาคมที่ผ่านมามีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ คาดว่าจากความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น และจากการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย ตลอดจนการนำเครื่องมือทางการเงินมาเพื่อลดความเสี่ยงด้านผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนจากรายการภายในกลุ่ม จะเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับผลประกอบการในไตรมาส 4 นี้ นอกจากนี้ จากสถานการณ์เงินบาทที่อ่อนค่าลง ถือเป็นผลบวกต่อผลกำไรของบริษัทฯ 

ขณะที่การดำเนินงานในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยมีปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศประมาณ 1.2 หมื่นตัน จากดีมานด์ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนอินเดียซึ่งเป็นประเทศล่าสุดที่บริษัทฯ ได้ร่วมลงทุนกับพาร์ทเนอร์ ขยายธุรกิจให้บริการตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินถือว่ามีปริมาณการขนส่งอยู่ในระดับที่ดี เนื่องจากเศรษฐกิจมีศักยภาพเติบโตสูงและเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกสินค้ารายใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย โดยจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเต็มไตรมาส นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยบวกจากค่าขนส่งทางอากาศที่อยู่ในระดับสูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้อีกในช่วงที่เหลือของปีนี้ 

“บริษัทฯ วางแผนขยายสัญญา GSA กับสายการบินอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะได้รับสัญญาใหม่อีกไม่น้อยกว่า 2 สัญญาในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จากปัจจุบันที่ให้บริการ GSA แก่สายการบินชั้นนำกว่า 20 สายการบินใน 9 ประเทศและเขตบริหารพิเศษ เช่น ไทย สิงคโปร์ เวียดนาม เขตบริหารพิเศษฮ่องกง จีน มาเลเซีย อินเดีย ส่วนประเด็นการสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี มองว่าจะเป็นผลเชิงบวกต่อบริษัทฯ เนื่องจากสหรัฐฯ คงต้องมุ่งทำการค้ากับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียและอาเซียนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไทยที่ได้รับเข้าเป็น 1 ใน 13 พันธมิตรของ BRICS ขณะที่จีนอาจปรับเปลี่ยนมาใช้ประเทศอื่นๆ เป็นฮับของการขนส่งสินค้าไปยังสหรัฐฯ เพื่อเลี่ยงผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรง” นางสาว บี เล็ง โก๊ะ กล่าว

ANI