จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : TEGH มั่นใจอนาคตยาง EUDR แกร่ง หนุนผลงานโค้งสุดท้ายโตทะยาน


03 ธันวาคม 2567

ยาง EUDR หนุนผลงาน บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) เติบโตแข็งแกร่ง แม้ EU เลื่อนบังคับใช้เกณฑ์สวนทางคำสั่งซื้อที่มีอย่างต่อเนื่อง ดันไตรมาส 4 ผลงานเติบโตก้าวกระโดด ขณะเดียวกันบริษัทศึกษาต่อยอดอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มดิบ  บุกตลาด Skincare

รายงานพิเศษ TEGH copy.jpg

บล.โกลเบล็ก วิเคราะห์หุ้น บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) โดยระบุว่าปริมาณขายยางในอนาคตมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง บริษัทตั้งเป้าปริมาณการขายยางปี68 ราว 2.6-2.8 แสนตัน เติบโตราว 24-27% YoY โดยในช่วง 1H68 สัดส่วนปริมาณขายยางEUDR คิดเป็นประมาณ 40% และสำหรับช่วง 2H68 สัดส่วนปริมาณขายยาง EUDR ปรับตัวขึ้นเป็น 70% 

เราจึงมีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานงวด 4Q67 โดยคาดปริมาณขายยางแท่ง +QoQ,+YoY ทำระดับสูงสุดของปี บริษัทคาดสัดส่วนปริมาณขายยางEUDR ในงวด 4Q67 ประมาณ 40% ซึ่งราคาขายยางEUDR จะสูงกว่าราคายางทั่วไป 

ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดการณ์กำไรปี 67 อยู่ที่ประมาณ 526 ลบ. +145% YoYปี68 ราว 611 ล้านบาท +16%YoY กำไรในช่วง 9M67 คิดเป็น 73%ของประมาณการกำไรทั้งปี 67 มีราคาเหมาะสมเฉลี่ย 4.9 บาท มี Upside 52% จึงแนะนำ “ซื้อ”

สอดคล้องกับมุมมองกรรมการผู้จัดการ  “สินีนุช โกกนุทาภรณ์” ที่ระบุ แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/67 คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากปริมาณขายยาง EUDR ที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีข่าวว่าสหภาพยุโรป (EU) จะเลื่อนการบังคับใช้เป็นต้นปี 69 แต่ลูกค้ายังมีคำสั่งซื้อเข้ามา ทำให้ในไตรมาส 3/67 บริษัทมีสัดส่วนการขายยางมาตรฐาน EUDR ถึง 32% จากปริมาณการขายยางแท่งทั้งหมด หนุนกำไรโตต่อเนื่อง โดยประเมินว่ายอดขายยางแท่งในปี 67 จะเติบโต 10% เทียบปีที่ผ่านมา

บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้การขายก๊าซชีวภาพ (ไบโอแก๊ส) จากการที่ บริษัท ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด (TEBP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TEGH ขายให้ บมจ. โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) ปริมาณ 40,000-57,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่งตรงทางท่อถึงตัวโรงงาน GGC ในจังหวัดชลบุรี มูลค่า 1,000 ล้านบาท ผูกสัญญา 7 ปี เริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/67 และเตรียมเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ผลิตก๊าซชีวภาพโซน 3 เฟสที่ 2 ในครึ่งหลังของปี 68 ซึ่งจะทำให้สามารถรับกากอินทรีย์เพิ่มขึ้นอีกวันละ 900 ตัน และผลิตก๊าซชีวภาพได้เพิ่มขึ้นอีกวันละ 90,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีลูกค้าหลายรายที่ให้ความสนใจเข้ามาเจรจา

สำหรับธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบ โครงการติดตั้งหม้อต้มไอน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว และหม้อนึ่งต่อเนื่อง (Sterilizer) พร้อมทดสอบระบบในปลายไตรมาส 4/2567 และบริษัทฯ อยู่ระหว่างการขอการรับรองมาตรฐานคาร์บอนและความยั่งยืนระหว่างประเทศ (International Sustainability and Carbon Certification: ISCC) ซึ่งคาดว่าจะได้รับการรับรองภายในปีนี้

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องจากอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มดิบ เช่น Skincare เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์และผลพลอยได้จากกระบวนการผลิต สร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต พร้อมเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล (Biomass) เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตผลพลอยได้โดยการนำมาผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ภายในเครือ สามารถช่วยลดต้นทุนได้อีกทางหนึ่ง

อีกทั้งบริษัทฯยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรที่สร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Sustainable Value Chain) ภายใต้การดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน สอดรับกับวิสัยทัศน์ "พันธมิตรทางธุรกิจระดับโลก ที่สร้างห่วงโซ่คุณค่าที่ยั่งยืน"