รายงานพิเศษ : FM เดินหน้ากลยุทธ์สร้างมูลค่าเพิ่ม “ผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุก”ดันผลงานโต

บมจ.ฟู้ดโมเม้นท์ (FM) เดินหน้ากลยุทธ์การสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปรุงสุก  การขยายกำลังการผลิตและขยายตลาดต่างประเทศใหม่ๆ  มั่นใจไตรมาส 4 ผลงานยังเติบโตต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้นักลงทุน

บล.ทิสโก้วิเคราะห์หุ้นบมจ.ฟู้ดโมเม้นท์ (FM)  โดยระบุว่า กำไรสุทธิไตรมาส 3/67 เติบโตจากปีก่อน แต่อ่อนตัว จากไตรมาสก่อนจากธุรกิจไก่สดที่ลดลง   

โดย FM มีกำไรสุทธิไตรมาส 3/67 ที่ 159 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78% จากปีก่อน ลดลง 34% จากไตรมาสก่อน รายได้รวมเติบโต  26% จากปีก่อน และลดลงเล็กน้อยลดลง 3% จากไตรมาสก่อน มาจากธุรกิจไก่สดชำแหละที่ลดลง จากไตรมาสก่อนเป็นหลัก จากปริมาณและราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงจากช่วง low season ฤดูฝน

สำหรับไก่แปรรูปปรุงสุกคาดปริมาณและราคาขายเฉลี่ยจากไลน์ผลิตเดิมและไลน์ผลิตที่ 5 เพิ่มขึ้น การส่งออกทั้งยุโรป ญี่ปุ่ น และจีน รวมถึงประเทศอื่นๆ เพิ่มขึ้น สัดส่วนรายได้ธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุกเพิ่มขึ้นที่ 48% จาก ไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 39% อัตรามาร์จิ้นเอยู่ที่ 16.4% จาก 11.3%จากปีก่อน และ 17.3% จากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น จากปีก่อน จากสัดส่วนธุรกิจไก่แปรรูปที่เพิ่มขึ้นซึ่งมีอัตรามาร์จิ้นมากกว่าไก่สดชำแหละ แต่ลดลงจากไตรมาสก่อนจากสัดส่วน product mix  ของกลุ่มสินค้าไก่สดและไก่แปรรูปปรุงสุก ค่าเงินบาทที่แข็งค่า และราคาขายเฉลี่ยลดลง

สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 4.9% เพิ่มขึ้น จากค่าขนส่งทางเรือในการส่งออกที่เพิ่มขึ้น (บริษัทขายสินค้าเป็น CIF กับ FOB 50:50, ค่าขนส่งคิดเป็น 2.2% ของรายได้รวม หรือ 4.4% ของรายได้ส่งออก) บริษัทรับรู้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 15 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราทำกำไรสุทธิอยู่ที่  8.7% เพิ่มขึ้นจาก 6.1% จากปีก่อน และ 12.7% จากไตรมาสก่อน

ดังนั้นเรายังคงประมาณการผลประกอบการปี 67 เพิ่มขึ้น แต่แนวโน้มปี 2568 อ่อนตัวตามราคาไก่ เราคาดแนวโน้มไตรมาส 4/67 ลดลง จากไตรมาสก่อน จากช่วง low season และราคาไก่ที่ลดลง และการส่งออกลดลง คาดอัตรามาร์จิ้น ลดลงตามรายได้ที่ลดลงและราคาไก่ที่ลดลง

ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 67 เพิ่มขึ้นจากธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุกที่มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น จากการขยายไลน์ผลิตที่ 5 ใหม่และการขยายตลาดส่งออก ในขณะที่ไก่สดชำแหละเติบโตจากราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นแม้ปริมาณการขายทรงตัว เราคาดกำไรสุทธิปี 68 ลดลง 6% จากคาดราคาขายเฉลี่ยทั้งไก่สดชำแหละที่ลดลงตามแนวโน้มราคาตลาดจากคาด supply ที่เพิ่มขึ้น และไก่แปรรูปปรุงสุกลดลงจากสัดส่วน product mix และคาดปี 69 ปริมาณการขายเพิ่มขึ้นจากการขยายกำลังการผลิต

ดังนั้นยังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.40 บาท อ้างอิงกลุ่มอุตสาหกรรม historical PER 0.5SD ที่ 10x แนวโน้มผลประกอบการปีหน้าลดลงเล็กน้อยตามภาพรวมอุตสาหกรรมไก่ที่คาดอ่อนตัวลง แต่เราคาดจะเติบโตได้ในปีถัดไปจากการเริ่มขยายธุรกิจ CAV การขยายฐานลูกค้าใหม่ และการลงทุนเพื่อรอรับเงินปันผลจากการคาดการณ์ Dividend yield 24F-25F ที่สูงอยู่ที่ 5.6%  และ 6.7% มากกว่ากลุ่มนี้ เฉลี่ยที่ 4.3% ในขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันมีPER24F และ PER25F ที่ต่ำมากอยู่ที่ 5.6Xและ 6.0X ตามลำดับ, มี ROE25F 17.4% มากที่สุดเทียบกับกลุ่ม บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็นเงินสดสุทธิ

ด้าน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FM “ณัฐพล  ดุษฎีโหนด”  ระบุไตรมาส 4/2567 บริษัทฯ ยังเดินหน้ากลยุทธ์สร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV Product ) ที่มีมาร์จิ้นดีและมีการเติบโตสูง รวมทั้งการขยายกำลังการผลิต (Capacity Expansion) ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เช่น เพิ่มประสิทธิภาพ สายการผลิตเดิมและเพิ่มไลน์การผลิตใหม่ของโรงงานแปรรูปไก่ปรุงสุก (CAV Products) และโรงเชือดและชำแหละไก่ รวมถึงการขยายตลาดต่างประเทศใหม่ๆ เพื่อเพิ่มรายได้และผลตอบแทนที่ดี

ขณะที่นายสุเมธ มาสิลีรังสี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ย้ำว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 จะสามารถเติบโตต่อเนื่องตามปริมาณคำสั่งซื้อ ที่มีเข้ามาต่อเนื่องและในปริมาณที่มากขึ้น จากลูกค้ารายเดิมและลูกค้ารายใหม่ ตามแผนการขยายตลาดและขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่เริ่มการส่งออกไก่ดิบในไตรมาส 4 นี้ และคาดว่าจะส่งออกในไก่แปรรูปปรุงสุกในอนาคต

“ที่ผ่านมาเราได้ขยายกำลังการผลิตเพื่อป้อนสินค้าตามความต้องการของลูกค้า ที่ต้องการบริโภคเนื้อไก่ทั้งในและต่างประเทศ ที่มีจำนวนมากและตลาดมีการขยายตัวทุกปี โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศในกลุ่มประเทศยุโรปได้รับการตอบรับที่ดี ขณะเดียวกัน เรายังขยายตลาดกลุ่มเอเชีย เช่น เกาหลี สิงคโปร์ ฮ่องกง และ ฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น ภายใต้ความมุ่งมั่นในการสร้างผลตอบแทนและผลการดำเนินงานที่ดี ซึ่งรายได้ในปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อน และคาดว่าจะทำอัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับ 2  Digit” นายสุเมธ กล่าว