Fund / Insurance

อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัยตั้งเป้า เบี้ยรับปี 66 แตะ 1.02 หมื่นล้านบาท


07 มีนาคม 2566
อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวมปี 2566 แตะ 1.02 หมื่นล้านบาท ขณะที่การควบรวมธุรกิจกับเอ็ทน่า  ดันบริษัทขึ้นสู่อันดับ 8 ประกันวินาศภัย  

Fund Insurance อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัยตั้งเป้า.jpg

มร.ลาร์ส ไฮบุทสกี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2566 ตั้งเป้าสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 1.02 หมื่นล้านบาท เติบโต 9-10% จากปีที่ผ่านมา และมุ่งสร้างองค์กรสู่การเติบโตภายใต้ความแข็งแกร่งของแบรนด์ อลิอันซ์ อยุธยา ทั้งประกันภัยรถยนต์และประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ รวมทั้ง ประกันสุขภาพ ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

Growth Engine มุ่งผลักดันการเติบโตผ่านช่องทางการขายที่หลากหลาย ให้กับลูกค้าทั้งรายเดี่ยว SME และลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ 
Business Platform มุ่งยกระดับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ เน้นการพัฒนาบริการที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อยกระดับความพึงพอใจ โดยในปีที่ผ่านมา เราได้รับคะแนนความพึงพอใจจากลูกค้าในระดับที่ลูกค้ามีความภักดีต่อแบรนด์ในระดับสูงมาก 
Future Positioning สร้างอนาคตสู่ความแข็งแกร่งและยั่งยืน ด้วยการให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมองค์กร ความผูกพันของพนักงาน นอกจากนั้น เรายังมุ่งใส่ใจการดำเนินธุรกิจที่สร้างความยั่งยืน สร้างให้เกิดการมีส่วนร่วมของพนักงานในการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและดูแลสังคม
 
“สำหรับปี 2566 นี้ ถือเป็นปีที่อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย อยู่ในจุดที่แข็งแกร่งพร้อมสร้างการเติบโต ด้วยแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง ความมั่นคงด้านการเงิน และความเชี่ยวชาญทางธุรกิจทั้งวินาศภัยและสุขภาพ เราพร้อมมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า”  มร.ลาร์ส ไฮบุทสกี้ กล่าว

ส่วนการควบรวมกิจการกับเอ็ทน่า (ประเทศไทย) สู่แบรนด์ อลิอันซ์ อยุธยา ได้เสร็จสมบูรณ์อย่างราบรื่นเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ทำให้ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของประกันภัยวินาศภัยขยับขึ้นเป็นอันดับ 8  จากปี2016 อยู่อันดับ 26และอันดับ 11 เมื่อปีที่ผ่านมา  จากการควบรวมนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายธุรกิจประกันสุขภาพ หลังจากได้พอร์ทจากทางเอ็ทน่าเข้ามาเสริมทัพ ทำให้ อลิอันซ์ อยุธยา แข็งแกร่งขึ้น สามารถดำเนินธุรกิจตามพันธสัญญาในการมอบความคุ้มครองด้านสุขภาพที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในประเทศไทยได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทฯมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 6.7 พันล้าน เติบโตอยู่ที่ 17 % ในขณะที่ตลาดประกันวินาศภัยเติบโตเพียงแค่ 3.6% โดยมาจากช่องทางธนาคารและพันธมิตร (FI & Partnership) 3.1 พันล้านบาท เติบโต 28%และช่องทางตัวแทนและโบรกเกอร์ (Agency & Broker) 2.5 พันล้านบาท เติบโต 14% และลูกค้าองค์กร (Corporate) 1.1 พันล้านบาท  

และแบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ (Motor) 3.3 พันล้านบาท และเบี้ยประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ (Non-Motor) 3.4 พันล้านบาท ในขณะที่ฐานะการเงินยังแข็งแกร่ง ด้วยสินทรัพย์กว่า 1.07 หมื่นล้านบาท มีเงินกองทุนสำรอง (Risk-based capital) ถึงกว่า 365% สูงกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดถึง 225% (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565)