Wealth Sharing
NRF เปิดงบปี 65 กำไรพุ่ง 29% กางแผนปี 66 รุกธุรกิจ “ฟู้ด รีเทล” เป้ารายได้ 3-4 พันลบ.
07 มีนาคม 2566
บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ผู้ผลิต จัดหา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหาร รวมถึงอาหารมังสวิรัติที่ไม่มีส่วนผสมของไข่และนม อาหารโปรตีนจากพืช และเครื่องดื่มชนิดผงและน้ำ รายงานรายได้จากการขายในปี 2565 อยู่ที่ 2,294.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากปี 2564 จากการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ e-Commerce และการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์
NRF มีผลกำไรขั้นต้นในปี 2565 อยู่ที่ระดับ 1,012.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 196.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 ในส่วนอัตรากำไรขั้นต้นนั้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 38.9 ในปี 2564 เป็นร้อยละ 44.1 ในปี 2565 สืบเนื่องจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น และผลประโยชน์จากธุรกิจ e-Commerce ที่เพิ่มขึ้นจากผลิตภัณฑ์ สินค้าภายใต้แบรนด์ Prime Labs, SOL Trading และ WellPath การรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากบริษัท Indeem Group จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง
กำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ของปี 2565 อยู่ที่ 590.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 23.5 ในปี 2564 เป็นร้อยละ 24.5 ในปี 2565 และเมื่อพิจารณากำไรสุทธิของบริษัทฯ ที่ได้มีการปรับตัวดีขึ้นในทิศทางเดียวกันในปี 2565 มีกำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทฯ 267.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46 ล้านบาท หรือร้อยละ 21
แดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF กล่าวว่า นอกเหนือจากการบริหารจัดการความเสี่ยง เชิงรุกในปี 2565 ที่ผ่านมา ภาพรวมของธุรกิจของบริษัทฯ ยังคงไปในทิศทางที่ดี โดยสามารถเห็นได้ผ่านทางรายได้และกำไรสุทธิในปี 2565 ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมั่นใจในกลยุทธ์ที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารระดับโลกและการผลิตอาหารเพื่ออนาคต โดยยึดหลักลูกค้าเป็นที่หนึ่งในการรุกตลาด และหัวใจสำคัญของธุรกิจ คือ Food for Generations ด้วยวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ผลิตอย่างมีมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อทุกเจเนอเรชั่น ส่งออกไปสู่ผู้บริโภคกว่า 30 ประเทศทั่วโลก
รายได้รวมจากการขายปี 2565 จำนวน 2,294.4 ล้านบาท มาจากการดำเนินงานในกลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ ประกอบด้วย
1. ผลิตภัณฑ์อาหารไทย อาหารท้องถิ่นและอาหาร specialty รายได้กลุ่มธุรกิจอาหารไทยและอาหารท้องถิ่นสามารถทำรายได้ 1,394.1 ล้านบาท แม้มีอัตรารายได้ที่ลดลงแต่ยังคงมีฐานลูกค้าทางทวีปเอเชีย และในประเทศไทย ที่ยังมีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง
2. ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ทำรายได้ 547.5 ล้านบาท หรือเติบโต 32.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการรับรู้รายได้จากบริษัท BOOSTED NRF Corp. ซึ่งเป็นบริษัทที่มุ่งเน้นการขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม Amazon.com และรายได้จากบริษัท Indeem Group จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจการขายตรง (Multi-level marketing) ในประเทศ
3. ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ มีรายได้อยู่ที่ 127.8 เพิ่มขึ้น 797.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยการเติบโตแบบก้าวกระโดดมีปัจจัยมาจากความสามารถในการผลิตและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ อีกทั้งยังมีการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์ของบริษัทที่เพิ่มขึ้นอย่างมีสาระสำคัญ
4. ผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช กลุ่มลูกค้ารับจ้างผลิต (OEM) เช่น ผลิตภัณฑ์จากขนุนอ่อน เส้นบุก และเครื่องปรุงรสที่ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นองค์ประกอบ ซึ่งสามารถทำรายได้ในปี 2565 อยู่ที่ 225.7 ล้านบาท
แดน กล่าวย้ำว่า ในปี 2566 NRF ตั้งเป้ารายได้ราว 3-4 พันล้านบาท จากการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับผู้ประกอบการส่งเสริมช่องทาง e-Commerce และต่อยอดสู่ Omni-Channel อีกทั้งการเปิดร้านจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์จากเอเชีย (Asian Grocery Store) และนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเสริมทัพในธุรกิจ พร้อมร่วมมือกับคู่ค้า พันธมิตร และบริษัทในเครือทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อช่วยเหลือ ผลักดัน และเสริมศักยภาพด้านการแข่งขันให้กับผู้ส่งออกและเกษตรกรไทย สู่ตลาดยุโรปและตลาดโลก เป็นการสร้างประสิทธิภาพสูงสุดให้กับอุตสาหกรรมของไทยอีกด้วย
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เสริมความแข็งแกร่งทั้งภายในประเทศและทั่วโลก ตอกย้ำความเป็นผู้นำ “อาหารเพื่อทุกเจเนอเรชั่น (Food for Generations)” ด้วยกลยุทธ์หลัก คือ Direct to Consumer เพื่อเสริมแกร่งธุรกิจ e-Commerce ต่อยอดสู่ Omni Channels ชูศักยภาพกลุ่มธุรกิจ Specialty Food และธุรกิจ Climate Action ขับเคลื่อนบริษัทมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero โดย NRF ยังคงคำนึงถึงความสมดุลทางเศรษฐกิจ ผู้ถือหุ้น ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน สิ่งแวดล้อม และบรรษัทภิบาล เป็นสำคัญ
NRF มีผลกำไรขั้นต้นในปี 2565 อยู่ที่ระดับ 1,012.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 196.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 ในส่วนอัตรากำไรขั้นต้นนั้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 38.9 ในปี 2564 เป็นร้อยละ 44.1 ในปี 2565 สืบเนื่องจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น และผลประโยชน์จากธุรกิจ e-Commerce ที่เพิ่มขึ้นจากผลิตภัณฑ์ สินค้าภายใต้แบรนด์ Prime Labs, SOL Trading และ WellPath การรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากบริษัท Indeem Group จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง
กำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ของปี 2565 อยู่ที่ 590.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 23.5 ในปี 2564 เป็นร้อยละ 24.5 ในปี 2565 และเมื่อพิจารณากำไรสุทธิของบริษัทฯ ที่ได้มีการปรับตัวดีขึ้นในทิศทางเดียวกันในปี 2565 มีกำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทฯ 267.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46 ล้านบาท หรือร้อยละ 21
แดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF กล่าวว่า นอกเหนือจากการบริหารจัดการความเสี่ยง เชิงรุกในปี 2565 ที่ผ่านมา ภาพรวมของธุรกิจของบริษัทฯ ยังคงไปในทิศทางที่ดี โดยสามารถเห็นได้ผ่านทางรายได้และกำไรสุทธิในปี 2565 ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมั่นใจในกลยุทธ์ที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารระดับโลกและการผลิตอาหารเพื่ออนาคต โดยยึดหลักลูกค้าเป็นที่หนึ่งในการรุกตลาด และหัวใจสำคัญของธุรกิจ คือ Food for Generations ด้วยวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ผลิตอย่างมีมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อทุกเจเนอเรชั่น ส่งออกไปสู่ผู้บริโภคกว่า 30 ประเทศทั่วโลก
รายได้รวมจากการขายปี 2565 จำนวน 2,294.4 ล้านบาท มาจากการดำเนินงานในกลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ ประกอบด้วย
1. ผลิตภัณฑ์อาหารไทย อาหารท้องถิ่นและอาหาร specialty รายได้กลุ่มธุรกิจอาหารไทยและอาหารท้องถิ่นสามารถทำรายได้ 1,394.1 ล้านบาท แม้มีอัตรารายได้ที่ลดลงแต่ยังคงมีฐานลูกค้าทางทวีปเอเชีย และในประเทศไทย ที่ยังมีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง
2. ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ทำรายได้ 547.5 ล้านบาท หรือเติบโต 32.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการรับรู้รายได้จากบริษัท BOOSTED NRF Corp. ซึ่งเป็นบริษัทที่มุ่งเน้นการขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม Amazon.com และรายได้จากบริษัท Indeem Group จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจการขายตรง (Multi-level marketing) ในประเทศ
3. ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ มีรายได้อยู่ที่ 127.8 เพิ่มขึ้น 797.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยการเติบโตแบบก้าวกระโดดมีปัจจัยมาจากความสามารถในการผลิตและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ อีกทั้งยังมีการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์ของบริษัทที่เพิ่มขึ้นอย่างมีสาระสำคัญ
4. ผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช กลุ่มลูกค้ารับจ้างผลิต (OEM) เช่น ผลิตภัณฑ์จากขนุนอ่อน เส้นบุก และเครื่องปรุงรสที่ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นองค์ประกอบ ซึ่งสามารถทำรายได้ในปี 2565 อยู่ที่ 225.7 ล้านบาท
แดน กล่าวย้ำว่า ในปี 2566 NRF ตั้งเป้ารายได้ราว 3-4 พันล้านบาท จากการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับผู้ประกอบการส่งเสริมช่องทาง e-Commerce และต่อยอดสู่ Omni-Channel อีกทั้งการเปิดร้านจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์จากเอเชีย (Asian Grocery Store) และนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเสริมทัพในธุรกิจ พร้อมร่วมมือกับคู่ค้า พันธมิตร และบริษัทในเครือทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อช่วยเหลือ ผลักดัน และเสริมศักยภาพด้านการแข่งขันให้กับผู้ส่งออกและเกษตรกรไทย สู่ตลาดยุโรปและตลาดโลก เป็นการสร้างประสิทธิภาพสูงสุดให้กับอุตสาหกรรมของไทยอีกด้วย
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เสริมความแข็งแกร่งทั้งภายในประเทศและทั่วโลก ตอกย้ำความเป็นผู้นำ “อาหารเพื่อทุกเจเนอเรชั่น (Food for Generations)” ด้วยกลยุทธ์หลัก คือ Direct to Consumer เพื่อเสริมแกร่งธุรกิจ e-Commerce ต่อยอดสู่ Omni Channels ชูศักยภาพกลุ่มธุรกิจ Specialty Food และธุรกิจ Climate Action ขับเคลื่อนบริษัทมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero โดย NRF ยังคงคำนึงถึงความสมดุลทางเศรษฐกิจ ผู้ถือหุ้น ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน สิ่งแวดล้อม และบรรษัทภิบาล เป็นสำคัญ