Talk of The Town

พบพิรุธงบการเงิน CV! ตลท.จี้ แจงข้อมูลภายใน 18 ธ.ค.นี้ ตะลึง! ตั้งแต่เข้าเทรด ราคาร่วง ผลงานดิ่งเหว


11 ธันวาคม 2567

พบพิรุธงบการเงิน CV!_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ (มหาชน) หรือ CV ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินไตรมาสที่ 3   ปี 2567 โดยผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องของกลุ่มบริษัท เนื่องจากบริษัท   มีขาดทุนสะสม มีหนี้สินหมุนเวียนสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียน และงวด 9 เดือนปี 2567 มีขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 289% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 

นอกจากนี้ บริษัทมีเงินกู้ระยะสั้นที่ครบกำหนดชำระภายใน 1 ปี ในจำนวนที่มีนัยสำคัญ ในขณะที่มีรายการเกี่ยวกับการด้อยค่าทางด้านสินทรัพย์หลายรายการ ซึ่งอาจกระทบฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน รวมทั้งสภาพคล่องของ CV อย่างมีนัยสำคัญ 

ทั้งจึงขอให้ชี้แจงข้อมูลผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 18 ธันวาคม 2567 สำหรับความเห็นของคณะกรรมการและกรรมการตรวจสอบภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2567 โดยขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินของ CV และติดตามคำชี้แจงของบริษัท

สรุปข้อมูลสำคัญในงบการเงินไตรมาสที่ 3 ปี 2567

1. ความสามารถในการชำระหนี้ของกลุ่มบริษัท หนี้ที่ครบกำหนดชำระภายใน 1 ปี  (54% ของหนี้สินรวม) มูลค่า 1,533 ล้านบาท ประกอบด้วย จำนวน 277 ล้านบาท ครบกำหนดแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจา และจำนวน 449 ล้านบาท เป็นหุ้นกู้ครบกำหนดชำระในเดือน ม.ค. 68

2.  เงินจ่ายล่วงหน้าค่าเงินลงทุน (เงินมัดจำ) รวม 427 ล้านบาท ประกอบด้วย 2.1 เงินมัดจำการซื้อหุ้น Fernview Environmental Pty Ltd (“Fernview”) (ณ 30 ก.ย.67 บันทึกด้อยค่าเงินมัดจำ 14% ของมูลค่าเงินมัดจำ) มูลค่า 237 ล้านบาท โดยวันที่ 26 พ.ค.66 ลงนามสัญญาซื้อหุ้นทั้งหมดของ Fernview กับกิจการที่เกี่ยวข้องกัน 11 ล้าน AUD โดยจ่ายเงินมัดจำ 95%ของมูลค่าซื้อ ซึ่งขณะนั้น Fernview อยู่ภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการ

ต่อมาวันที่ 16 ม.ค.67 คณะกรรมการมีมติอนุมัติยกเลิกการลงทุน  และวันที่ 12 พ.ย.67 คณะกรรมการมีมติเรียกคืนเงินมัดจำภายใน 60 วัน นับจากวันได้รับหนังสือ หากไม่ชำระจะดำเนินการทางกฎหมาย

2.2 เงินมัดจำการซื้อหุ้นของบริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเซียล จำกัด (“WTX”) (ณ 30 ก.ย.67 บันทึกด้อยค่าเงินมัดจำ 17% ของมูลค่าเงินมัดจำ) มูลค่า 180 ล้านบาท โดยวันที่ 4 ต.ค.66 ลงนามสัญญาซื้อหุ้น WTX 20% จากบุคคลที่ไม่เกี่ยวโยงกัน มูลค่า 1,040 ล้านบาท โดยจ่ายเงินมัดจำ 17% ของมูลค่าซื้อ  ต่อมา 16 ม.ค.67 คณะกรรมการมีมติอนุมัติยกเลิกการลงทุน  และ27 พ.ย. 67 คณะกรรมการอนุมัติให้ดำเนินการตามกฎหมาย

2.3 เงินมัดจำเพื่อซื้อหุ้นบริษัทแห่งหนึ่ง (ณ 30 ก.ย.67 บันทึกด้อยค่าเงินมัดจำทั้งจำนวน)  มูลค่า 10 ล้านบาท โดยวันที่ 15 ก.ค.65 บริษัทย่อยลงนามบันทึกข้อตกลงซื้อหุ้นกับบุคคลหนึ่ง ต่อมา 22 ส.ค.66 บริษัทย่อยได้รับหนังสือแจ้งยกเลิกการเพิ่มทุนและอยู่ระหว่างเจรจาและดำเนินการทางกฎหมาย

3. ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและผลขาดทุนจากการด้อยค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบด้วย 3.1  ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของลูกหนี้การค้า มูลค่า 181 ล้านบาท โดยงวด 9 เดือนปี 67 บริษัทบันทึกผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 181 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 94 ล้านบาท จากสิ้นปี 66 (108%)

3.2  ด้อยค่าสินทรัพย์ที่เกิดจากสัญญา 220 ล้านบาท โดยงวด 9 เดือนปี 67 กลุ่มบริษัทพิจารณาแผนธุรกิจของส่วนงานผู้ขายเครื่องจักรและให้บริการวิศวกรรมก่อสร้างและรับรู้ค่าเผื่อการด้อยค่าจากรายได้ที่ยังไม่เรียกเก็บ 220 ล้านบาท จากเดิมไม่มีการตั้งค่าเผื่อดังกล่าว

โดยขอให้ CV ชี้แจงข้อมูลดังนี้  1.ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้ที่ผิดนัดชำระ 277 ล้านบาท ผลกระทบต่อการดำรงเงื่อนไขหรือภาระหนี้อื่นๆ 

2. การติดตามเงินมัดจำคืน นโยบายการตั้งด้อยค่าเงินมัดจำ และการตั้งด้อยค่าเงินมัดจำครบถ้วนแล้วหรือไม่ อย่างไร 

3 .ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและการด้อยค่าสินทรัพย์สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2567 ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

4. ตามที่คณะกรรมการบริษัทได้เคยชี้แจงนโยบายการลงทุนของบริษัทว่าได้เพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนในอนาคตมากขึ้น เนื่องจากในงบการเงินประจำปี 2566 มีรายการด้อยค่าสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนภายใน 2 ปีนับจากวันที่ลงทุน  แต่งบการเงินไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ได้ปรากฏรายการในลักษณะดังกล่าวอีก 3 รายการ (การตั้งด้อยค่าเงินมัดจำ) จึงขอทราบความเห็นคณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบถึง

ขณะที่ความเหมาะสมเพียงพอของนโยบายที่เคยกำหนดไว้ รวมถึงนโยบายในการจ่ายเงินมัดจำและการเรียก  เงินมัดจำคืน การดำเนินการทั้ง 3 รายการเป็นไปตามนโยบายที่กำหนดไว้หรือไม่ อย่างไร 

รวมทั้งนโยบายที่กำหนดไว้ต้องมีการปรับปรุงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรายการเช่นเดียวกันในอนาคตหรือไม่ อย่างไร 

ขณะที่มาตรการกำกับดูแลความเสี่ยงในการเรียกเก็บหนี้จากลูกค้า และความเหมาะสมของนโยบายการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของบริษัท

และผลกระทบต่อฐานะการเงิน สภาพคล่อง และการดำเนินงานของบริษัท และแผนการปรับปรุงสภาพคล่องของบริษัท รวมถึงแผนชำระหนี้ระยะสั้นภายใน 1 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า CV เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2564 โดยมีราคา IPO ที่ระดับ 3.90 บาท ซึ่งราคาหุ้นเหนือจองเพียงวันแรกที่เข้าซื้อขาย หลังจากนั้นปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดอยู่ที่ระดับ 0.27 บาท ลดลงกว่า 93% จากราคา IPO

ขณะที่ผลประกอบการภายหลังเข้าตลาดหุ้นก็ไม่ดีเช่นกัน ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด งวด 9 เดือนปี 2567 มีผลขาดทุนสูงถึง 595.34 ล้านบาท ส่วนปี 2566 มีผลขาดทุนที่ระดับ 560.10 ล้านบาท

CV