CIMBT มองตลาดปี 68 ซับซ้อน-ผันผวน แนะลูกค้ารับมือตั้งเป้าAUM โตมากกว่า 10%

CIMBT มองตลาดเงินตลาดทุนปี68ซับซ้อนและผันผวนมากขึ้น แนะลูกค้าบริหารพอร์ต ตั้งเป้าปีหน้ายอด AUM โตมากกว่า 10% พร้อมหวังรายได้จากการบริหารความมั่งคั่งเติบโต 20%



นายติยะชัย  ชอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Wealth & Preferred Segment  บมจ.ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย หรือ CIMBT กล่าวว่า ในปี2568 บทบาทการบริหารความมั่งคั่งของธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยบริหารเงินลงทุนของลูกค้าในช่วงที่ตลาดมีความซับซ้อนและผันผวนมากขึ้น  ซึ่งธนาคารตั้งเป้ารายได้จากการบริหารความมั่งคั่งเติบโต 20%  ขณะที่ช่วง 10 เดือนแรกของปี 67  รายได้จากการบริหารความมั่งคั่งเติบโตกว่า 35% ในเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา  

ส่วนสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ปีหน้าตั้งเป้าเติบโตมากกว่า 10% หรือ คิดเป็นเม็ดเงินเพิ่มขึ้น 40,000 ล้านบาท  จากปีนี้ที่คาดเติบโต 10%  โดยปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ 400,000 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินลงทุน 65% และ เงินฝาก 35%

สำหรับการบริหารความมั่งคั่งของลูกค้าจะดำเนินการผ่าน 2 กลยุทธ์   ได้แก่  ลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ  ธนาคารได้คัดสรรกองทุนรวม หุ้นกู้อนุพันธ์แฝง และผลิตภัณฑ์ประกันที่มีการคุ้มครองเงินต้น 

ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ได้ร่วมมือกับ Principal Asset Management ในการออกผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะพิเศษ คุ้มครองเงินต้นสำหรับลูกค้าที่ถือกองทุนจนครบกำหนด สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการขาดทุน ซึ่งสามารถระดมทุนได้มากกว่า 1,200 ล้านบาท  
 
ส่วนลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้มากขึ้นแต่ยังต้องการลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนและรับรายได้ประจำอย่างต่อเนื่อง ทางธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ก็ได้มีความร่วมมือกับสถาบันการเงินระดับโลกที่มีความรู้และประสบการณ์ในการบริหารการลงทุนทั่วโลก เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้ามีทางเลือกและเครื่องมือสำหรับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง 

สำหรับเงินฝากออมทรัพย์ของลูกค้าบุคคลในช่วง 10 เดือนแรกเติบโตเกินกว่า 34% นับตั้งแต่ต้นปี มาจากการปรับผลิตภัณฑ์ และ ข้อเสนอตามที่ลูกค้าต้องการ เช่น CIMB Preferred Savings จ่ายอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 2.2% ใน 4 เดือนแรก สำหรับลูกค้าใหม่ที่มีเงินฝากตั้งแต่ 3 ล้านบาท ถึง 500 ล้านบาท และ ปี 68 ตั้งเป้าเงินฝากออมทรัพย์ของลูกค้าบุคคลเติบโต 10% โดยเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากคาดว่าดอกเบี้ยจะอยู่ในช่วงขาลง

อีกทั้ง ในปีนี้ยังเป็นปีแรกของความร่วมมือกับบริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) โดยรายได้จากธุรกิจประกันเติบโตขึ้นกว่า 37% ในช่วง 10 เดือนแรกของปี เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และ ปี 68 ตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจประกัน 10-15% แรงผลักดันจากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการวางแผนมรดกของครอบครัว โดยคาดว่า การบริหารความคุ้มครอง และ การวางแผนมรดกของครอบครัวยังคงเป็นปัจจัยสำคัญของการเติบโตในปีหน้าเช่นกัน

ทางด้านกลุ่มธุรกิจการลงทุนยังคงเห็นการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มลูกค้าที่ซื้อตราสารหนี้ผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือของธนาคาร โดยการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดแรกผ่านแอพพลิเคชั่นเติบโตเฉลี่ยตั้งแต่ปี 63 อยู่ที่ประมาณ 102% ต่อปี

ในส่วนของการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดรองก็เติบโตได้ค่อนข้างดี เฉลี่ยอยู่ที่ 75% ต่อปี ตั้งแต่ปี 64 สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ตลาดรองช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงตราสารหนี้คุณภาพสูง (investment grade bonds) จากธนาคารทุกวันทำการ โดยไม่ต้องคำนึงถึงวันออกขายวันแรกของตราสารหนี้นั้นๆ

"ปี 68 บทบาทการบริหารความมั่งคั่งของธนาคารจะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยบริหารเงินลงทุนของลูกค้าในช่วงที่ตลาดมีความซับซ้อน และ ผันผวนมากขึ้น สำหรับลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ ธนาคารได้คัดสรรกองทุนรวม หุ้นกู้อนุพันธ์แฝง และ ผลิตภัณฑ์ประกันที่มีการคุ้มครองเงินต้น"นายติยะชัย ชอง กล่าว