เทียบฟอร์มผลตอบแทน 3 ช่องทางลงทุน “ทองคำ”

หากจะพูดถึงสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนได้โดดเด่นที่สุดในปี 2567 หนึ่งในนั้นก็คงมี “ทองคำ” ถูกลิสต์เป็นอันดับต้นๆ ของนักลงทุนอย่างแน่นอน แต่เคยสงสัยหรือไม่ว่า หากลงทุนในทองคำผ่านช่องทางอื่นๆจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงเหมือนทองคำหรือไม่ 

ดังนั้น ทางสำนักข่าว Share2Trade จึงได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลผลตอบแทนของทองคำ ผ่านทั้ง 3 ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นทองคำแท่ง กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในทองคำ ไปจนถึงหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับทองคำ มาให้ผู้อ่านและนักลงทุนได้ชมกัน

โดยเริ่มกันช่องทางการลงทุนแรกที่นักลงทุนและผู้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายที่สุด อย่าง ทองคำแท่ง ด้วยช่องทางที่ซื้อขายได้ผ่านร้านทอง ซึ่งหากนักลงทุนถือทองคำก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามราคาทองคำที่จากต้นปีถึงปัจจุบัน (ณ วันที่  12 ธ.ค. 67) ก็ได้มีการปรับตัวขึ้นกว่า 30% หรือมาอยู่ที่ระดับ 44,000 บาท

ถัดมาเป็นช่องทางที่นักลงทุนใช้เงินลงทุนได้ด้วยเพียงจำนวนน้อย อย่างกองทุนรวมที่มีนโยบายลลงทุนในทองคำ ซึ่งกองที่มีผลตอบแทนสูงที่สุดก็คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ หรือ SCBGOLD ที่จะสร้างผลตอบแทนผ่านการลงทุนในกองทุนรวมอีทีเอฟทองคำต่างประเทศ คือ SPDR Gold Trust โดยจากต้นปีถึงปัจจุบัน (ณ วันที่  12 ธ.ค. 67) ก็ปรับตัวขึ้น 26.96%

สุดท้าย ช่องทางการลงทุนในทองคำที่เราจะมาพูดถึงกัน ก็คือการลงทุนในร้านทองโดยตรงหรือผ่านบริษัทจดทะเบียน โดยในตลาดหุ้นไทยก็มีบริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ AURA ที่ประกอบธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ รวมไปถึงเครื่องประดับเพชรและอัญมณีอีกมากมาย ซึ่งความเคลื่อนไหวของราคาจากต้นปีถึงปัจจุบัน (ณ วันที่  12 ธ.ค. 67) ไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรืออยู่ที่ระดับ 15.40 บาท