เรื่องเด่นวันนี้
LEO ส่งซิกผลงาน Q4/67 สดใส ธุรกิจ Non-freight และ Non-Logistics สร้างรายได้-กำไรขั้นต้นพุ่ง
16 ธันวาคม 2567
บมจ. ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ ( LEO) ประเมินผลงานไตรมาส 4/67 เติบโตต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่อย่าง LEO Sourcing and Supply Chain, LaneXang Express และSritrang LEO Multimodal Logistics รวมถึงกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ฟาก ซีอีโอ “เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์” ระบุเดินหน้าต่อยอดธุรกิจ Non-freight และ Non-Logistics ช่วยสร้างรายได้เพิ่มจากการขายทุเรียนไปยังประเทศจีน การขนส่งทางรถไฟทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศไปไทย-จีน รวมถึงธุรกิจ Self Storage ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (LEO) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 4/2567 มีทิศทางที่สดใส ทำให้มั่นใจผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 4/67 คาดว่าจะเป็นผลประกอบการที่ดีที่สุดจากทุกๆไตรมาสในปี 2567 โดยเฉพาะธุรกิจ Non-freight และ Non-Logistics จะมาช่วยสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีสัดส่วนของรายได้มาเป็น 30-35% จากยอดรวมของบริษัทฯ ใน 1-2 ปีข้างหน้า
“บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลงานได้เติบโตอย่างโดดเด่นที่สุดในไตรมาส 4/67 โดยจะมีการเติบโตของรายได้และกำไรขั้นต้นจากการรับรู้รายได้ของหน่วยธุรกิจใหม่ๆ เช่น รายได้จากการส่งออกทุเรียนไปยังประเทศจีนของบริษัท LEO Sourcing and Supply Chain รายได้จากกาขนส่งสินค้าทางรถไฟจากบริษัท LaneXang Express และ Sritrang LEO Multimodal Logistics รวมถึงรายได้จาก LEO Self-Storage โดยรายได้ของธุรกิจ Self-Storage มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 3/2567 มีการเติบโตถึง 98% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2566 และเมื่อเปรียบเทียบ 9 เดือนปี 2567 กับ 9 เดือนปี 2566 เพิ่มขึ้น 68% ซึ่งธุรกิจใหม่ๆเหล่านี้จะทำให้เกิดรายได้ใหม่ๆของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ ในการเพิ่มรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีสัดส่วนของรายได้มาเป็น 30-35% จากยอดรวมของบริษัทฯ ใน 1-2 ปีข้างหน้า” นายเกตติวิทย์ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทยังได้รับผลดีจากการอัตราแลกเปลี่ยนเงินระหว่างเงินบาทและดอลล่าห์สหรัฐที่ปรับตัวขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 33-34 บาทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากภายในสิ้นเดือนธันวาคมอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ระดับ 34 บาท บริษัทก็จะสามารถปรับรายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาส 3/67 ให้พลิกกลับมาเป็นกำไรในไตรมาส4/2567
อีกทั้งบริษัทยังมีประเด็นบวกที่สนับสนุนคือ ความคืบหน้าของความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของบริษัทลีโอ ซอร์สซิ่ง ซัพพลายเซน จำกัด (บริษัทย่อย) กับกรมพาณิชย์ประจำนครคนหมิง ที่ได้ลงนามไปเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 เพื่อพัฒนาส่งเสริมธุรกิจและการลงทุนกับผู้ประกอบการที่อยู่ในนครคนหมิง ซึ่งมีบริษัททยอยเข้ามาพูดคุยกับทางบริษัทๆเพื่อหาโอกาสในการพัฒนาธุรกิจร่วมกันอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเร็วๆ นี้ ทางบริษัทฯ ได้มีการเซ็นสัญญาขายทุเรียนสด จำนวน 500 ตู้ 40 Reefer คอนเทนเนอร์ให้กับลูกค้ารายหนึ่งจากนครคุนหมิง โดยเป็นลูกค้าที่ได้รับการแนะนำจากกรมพาณิชย์ของนครคุนหมิง ทำให้บริษัทได้ลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือและมีเครดิตที่ดีมาเป็นลูกค้าของทางบริษัท
โดยบริษัทได้เริ่มส่งออกสินค้าทุเรียนจากไทยไปคุนหมิงผ่านรถไฟความเร็วสูงไทย-ลาว - จีน (ที่ให้บริการโดยบริษัท LaneXang Express) โดยสินค้าส่งออกชุดแรกได้มีการส่งออกถึงนครคุนหมิงเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคชาวจีน และมีการสั่งทุเรียนต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถส่งมอบทุเรียนได้ครบจำนวน 500 ตู้ภายในฤดูกาลส่งออกทุเรียนของปี 2568 (เดือนเมษายน-สิงหาคม ของทุกๆปี) และจะมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 2-3/68
ทั้งนี้จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4/67 และภาพรวมธุรกิจทั้งปียังขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดี ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องตามนโยบาย ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40.00 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทั้งหมดแล้วทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ทางบริษัทฯ คาดว่าจะทำให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลของปี 2567 ของบริษัทอยู่ในอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกับอัตราการจ่ายเงินปันผลในปี 2566 อย่างแน่นอน
นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (LEO) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 4/2567 มีทิศทางที่สดใส ทำให้มั่นใจผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 4/67 คาดว่าจะเป็นผลประกอบการที่ดีที่สุดจากทุกๆไตรมาสในปี 2567 โดยเฉพาะธุรกิจ Non-freight และ Non-Logistics จะมาช่วยสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีสัดส่วนของรายได้มาเป็น 30-35% จากยอดรวมของบริษัทฯ ใน 1-2 ปีข้างหน้า
“บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลงานได้เติบโตอย่างโดดเด่นที่สุดในไตรมาส 4/67 โดยจะมีการเติบโตของรายได้และกำไรขั้นต้นจากการรับรู้รายได้ของหน่วยธุรกิจใหม่ๆ เช่น รายได้จากการส่งออกทุเรียนไปยังประเทศจีนของบริษัท LEO Sourcing and Supply Chain รายได้จากกาขนส่งสินค้าทางรถไฟจากบริษัท LaneXang Express และ Sritrang LEO Multimodal Logistics รวมถึงรายได้จาก LEO Self-Storage โดยรายได้ของธุรกิจ Self-Storage มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 3/2567 มีการเติบโตถึง 98% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2566 และเมื่อเปรียบเทียบ 9 เดือนปี 2567 กับ 9 เดือนปี 2566 เพิ่มขึ้น 68% ซึ่งธุรกิจใหม่ๆเหล่านี้จะทำให้เกิดรายได้ใหม่ๆของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ ในการเพิ่มรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีสัดส่วนของรายได้มาเป็น 30-35% จากยอดรวมของบริษัทฯ ใน 1-2 ปีข้างหน้า” นายเกตติวิทย์ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทยังได้รับผลดีจากการอัตราแลกเปลี่ยนเงินระหว่างเงินบาทและดอลล่าห์สหรัฐที่ปรับตัวขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 33-34 บาทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากภายในสิ้นเดือนธันวาคมอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ระดับ 34 บาท บริษัทก็จะสามารถปรับรายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาส 3/67 ให้พลิกกลับมาเป็นกำไรในไตรมาส4/2567
อีกทั้งบริษัทยังมีประเด็นบวกที่สนับสนุนคือ ความคืบหน้าของความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของบริษัทลีโอ ซอร์สซิ่ง ซัพพลายเซน จำกัด (บริษัทย่อย) กับกรมพาณิชย์ประจำนครคนหมิง ที่ได้ลงนามไปเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 เพื่อพัฒนาส่งเสริมธุรกิจและการลงทุนกับผู้ประกอบการที่อยู่ในนครคนหมิง ซึ่งมีบริษัททยอยเข้ามาพูดคุยกับทางบริษัทๆเพื่อหาโอกาสในการพัฒนาธุรกิจร่วมกันอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเร็วๆ นี้ ทางบริษัทฯ ได้มีการเซ็นสัญญาขายทุเรียนสด จำนวน 500 ตู้ 40 Reefer คอนเทนเนอร์ให้กับลูกค้ารายหนึ่งจากนครคุนหมิง โดยเป็นลูกค้าที่ได้รับการแนะนำจากกรมพาณิชย์ของนครคุนหมิง ทำให้บริษัทได้ลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือและมีเครดิตที่ดีมาเป็นลูกค้าของทางบริษัท
โดยบริษัทได้เริ่มส่งออกสินค้าทุเรียนจากไทยไปคุนหมิงผ่านรถไฟความเร็วสูงไทย-ลาว - จีน (ที่ให้บริการโดยบริษัท LaneXang Express) โดยสินค้าส่งออกชุดแรกได้มีการส่งออกถึงนครคุนหมิงเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคชาวจีน และมีการสั่งทุเรียนต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถส่งมอบทุเรียนได้ครบจำนวน 500 ตู้ภายในฤดูกาลส่งออกทุเรียนของปี 2568 (เดือนเมษายน-สิงหาคม ของทุกๆปี) และจะมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 2-3/68
ทั้งนี้จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4/67 และภาพรวมธุรกิจทั้งปียังขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดี ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องตามนโยบาย ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40.00 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทั้งหมดแล้วทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ทางบริษัทฯ คาดว่าจะทำให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลของปี 2567 ของบริษัทอยู่ในอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกับอัตราการจ่ายเงินปันผลในปี 2566 อย่างแน่นอน