รายงานพิเศษ : ASIA ผลงานได้แรงหนุน ขานรับธุรกิจโรงแรมปี 68 ฟื้น ต่างชาติเที่ยวไทยแตะ 39 ล้านคน
SCB EIC วิเคราะห์ธุรกิจโรงแรม เชื่อแนวโน้มเติบโตได้ดีทั้งอัตราการเข้าพักและราคาห้องพัก หลังจำนวนนักท่องเที่วที่ยังเติบโตต่อเนื่องคาดปีนี้แตะ39 ล้านบาท ส่งผลดีต่อธุรกิจ บมจ. ASIA
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC วิเคราะห์ภาพรวมของธุรกิจโรงแรม โดยระบุว่ามีแนวโน้มเติบโตได้ดีทั้งอัตราการเข้าพักและราคาห้องพักเฉลี่ยตามการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติและการเติบโตของนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทย โดยในปี 2024 อัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งประเทศคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 72% ขณะที่ราคาห้องพักเฉลี่ยเติบโตสูงกว่าปี 2019 ราว 8% จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะเดินทางเข้าไทยมาราว 36 ล้านคนและนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยราว 270 ล้านคน
โดยในปี 2025 อัตราการเข้าพักและราคาห้องพักเฉลี่ยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มเดินทางเข้ามาราว 39 ล้านคนและนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยที่เติบโตมาอยู่ที่ราว 276 ล้านคน
อย่างไรก็ดี ธุรกิจโรงแรมยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจากอุปทานห้องพักที่จะทยอยเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในภาคใต้อย่างภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และพังงา รวมถึงเมืองน่าเที่ยว (เมืองรอง) ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไทยอย่างน่าน เชียงราย และจันทบุรี
ซึ่งการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมาย ทำเลที่ตั้ง และความสามารถในการปรับตัว โดยธุรกิจโรงแรมที่มีศักยภาพในการเติบโต ได้แก่
1) กลุ่มโรงแรมและรีสอร์ตระดับบน และระดับลักชัวรี่ที่รองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวกำลังซื้อสูงอย่างเช่นกลุ่มนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มเดินทางมาไทยมากขึ้น
2) กลุ่มโรงแรมที่ตั้งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างภูเก็ตและกรุงเทพฯ รวมถึงกลุ่มโรงแรมและที่พักที่ตั้งในเมืองน่าเที่ยว (เมืองรอง) ที่ภาครัฐออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
3) กลุ่มโรงแรมที่สามารถปรับตัวให้สอดรับกับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว เช่น นักท่องเที่ยวกลุ่มนักท่องเที่ยวรัสเซียและอิสราเอลที่มีโอกาสเดินทางมากขึ้นจากผลกระทบของภาวะสงคราม, กระแสการใส่ใจสุขภาพผ่านเทรนด์ Wellness tourism และการท่องเที่ยวแบบ Workation จากการเพิ่มขึ้นของกลุ่ม Digital nomad เป็นต้น
ขณะที่นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ระบุประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 15 ธ.ค. 67 รวมทั้งสิ้น 33,491,851 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,573,080 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 6,449,397 คน มาเลเซีย 4,680,336 คน อินเดีย 2,009,043 คน เกาหลีใต้ 1,767,500 คน และรัสเซีย 1,603,095 คน
สำหรับในช่วงสัปดาห์วันที่ 9-15 ธ.ค. นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมากในทุกกลุ่มตลาด โดยเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 10.50% จากสัปดาห์ก่อนหน้า เป็นผลมาจากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (High season) ส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) เดินทางเข้ามา 279,507 คน หรือเพิ่มขึ้น 12.67% จากสัปดาห์ก่อนหน้า จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดหลัก อาทิ สหราชอาณาจักร รัสเซีย สวีเดน และเยอรมนี
อีกทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 9.31% จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวตลาดหลัก อาทิ นักท่องเที่ยวชาวจีน มาเลเซีย และเกาหลีใต้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ที่เดินทางเข้ามาสะสมแล้วกว่า 2 ล้านคน
ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมามากขึ้น ส่งผลดีต่อบมจ.เอเชียโฮเต็ล (ASIA) ประกอบธุรกิจหลัก 2 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร และธุรกิจให้เช่าช่วงพื้นที่ ผลจากทำเลที่ตั้งของโรงแรมที่ตั้งในแหล่งนักท่องเที่ยว ได้แก่ โรงแรมเอเชีย ราชเทวี,โรงแรมเอเชีย พัทยา,โรงแรมเอเชียแอร์พอร์ท,โรงแรมเอเชีย ชะอำ