รายงานพิเศษ : SA ปรับกลยุทธ์รับมือกำลังซื้อหด เปิดตัว“Investment Program” หวังสร้าง Passive Income
บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) ปรับกลยุทธ์ทำธุรกิจ ขยายโอกาสทางธุรกิจ เปิดตัวโปรแกรมการลงทุน “Investment Program” สร้างรายได้แบบ Passive Income
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุมเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 67 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.25% ต่อปี ภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ เห็นว่าความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้าปรับสูงขึ้น
การตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงส่งผลต่อต้นทุนหนี้ภาคครัวเรือน และยังเป็นปัจจัยกดดันการปล่อยสินเชื่อของธุรกิจ โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันที่ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว
ดังนั้นจำเป็นที่ผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ เพื่อกระตุ้นยอดขายทรัพย์ ซึ่งล่าสุด บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) ได้ปรับกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ โดย “ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ “ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุบริษัทฯได้วางกลยุทธ์ใหม่เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ โดยเปิดตัวโปรแกรมการลงทุนแบบใหม่ในชื่อ Investment Program ซึ่งมุ่งเน้นให้บริการแก่ลูกค้าที่ต้องการสร้างรายได้แบบ Passive Income ที่ประกอบด้วยอาคาร Cassia Rama 9 Bangkok โรงแรมในกลุ่มเดียวกันกับโรงแรม Banyan Tree ซึ่งอยู่ใน เครือ Banyan Group ที่มีชื่อเสียงและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
โปรแกรมการลงทุนดังกล่าวเปิดโอกาสให้ลูกค้าลงทุนในห้องชุด พร้อมทำสัญญาให้ทีมบริหารโครงการดูแลในรูปแบบ Cassia Residence และ Cassia Hotel โดยรับประกันผลตอบแทนในช่วง 5 ปีแรกที่ 5% ต่อปี และในปีที่ 6-15 จะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบการแบ่งผลกำไร (Profit Sharing) ตามผลประกอบการของโครงการ คาดการณ์ผลตอบแทนเฉลี่ยยู่ที่ 8% ในระยะเวลา 15 ปี
เนื่องจากทำเลที่ตั้งบนถนนพระราม 9 เป็นย่าน New CBD ที่มีศักยภาพสูง มีการพัฒนาเส้นทางคมนาคม รถไฟฟ้า และสาธารณูปโภคต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว มีการลงทุนขนาดใหญ่ของทั้งทางภาครัฐ และเอกชน
นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และความบันเทิง อีกทั้งยังเชื่อมต่อการเดินทางอย่างสะดวกสบายจากสนามบินสุวรรณภูมิ สุขุมวิท และอโศก โครงการนี้ยังโดดเด่นด้วยการออกแบบสไตล์ลอฟต์ที่มีเอกลักษณ์ ครัวทันสมัย และพื้นที่อยู่อาศัยแบบห้อง 2 ชั้น เพดานสูงถึง 4.4 เมตร สามารถตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัย และตอบสนองไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ
รวมถึงเป็นการยกระดับมาตรฐานการบริการให้อยู่ในระดับสากลซึ่งนับว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า ทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือเพื่อการลงทุนก็ตาม ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวยังส่งผลให้บริษัทฯ รับรู้รายได้ส่วนใหญ่ในปีนี้มาจากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดโครงการ LANDMARK AT MRTA STATION โครงการแลนมาร์คแห่งใหม่ใจกลางพระราม9
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 67 บริษัทคาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่องประมาณ 2 เท่าจากปีก่อน (5,000 ล้านบาท) ด้วยกลยุทธ์พัฒนโครงการ Branded Residence และการเพิ่มโครงการแบบ Mixed Use ในโครงการ LANDMARK AT MRTA STATION ร่วมกับกระแสตอบรับที่ดีจากโปรแกรม Investment Program ซึ่งได้รับความสนใจจากทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบ เช่น Siamese Blossom พหลฯ-วิภาวดี (บ้านแฝดและทาวน์โฮม) และ Siamese Holm พหลฯ-วิภาวดี (บ้านเดี่ยวติดถนนใหญ่ ใกล้ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต) รวมถึงรายได้จากธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร และ เฮลท์ & เวลเนส ซึ่งเป็นธุรกิจบริการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามกลยุทธ์สร้างสมดุลรายได้ สะท้อนถึงความสำเร็จในการปรับโมเดลธุรกิจเพื่อบริหารความเสี่ยงและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว