1,500 ไม่น่าถึง! หุ้นไทยดิ่งต่อเนื่อง ครบรอบ 2 เดือน จากสูงสุดของปีนี้ SET Index ดิ่งไปแล้วกว่า 120 จุด

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (19 ธ.ค.67) ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,381.32 จุด ทั้งนี้หากสำรวจความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยย้อนหลังตั้งแต่วันที่ทำจุดสูงสุดของปีนี้ที่ระดับ 1,506 จุด ในวันที่ 18 ต.ค.67 พบว่าดัชนีปรับตัวลดลงมาแล้วกว่า 122 จุด

อย่างไรก็ตามหากเข้าไปสำรวจการซื้อขายแยกตามกลุ่มผู้ลงทุน ในช่วงเวลาดังกล่าว พบว่านักลงทุนต่างชาติยังคงขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องที่ระดับ 33,462.43 ล้านบาท

ขณะที่นักลงทุนกลุ่มอื่นๆ ยังมีสถานะซื้อสุทธิ ทั้งสถาบันซื้อสุทธิหุ้นไทย 9,964.31 ล้านบาท ส่วนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิหุ้นไทย 1,463.44 ล้านบาท และนักลงทุนภายในประเทศซื้อสุทธิหุ้นไทย 22,034.68

เปิดคำทำนายนักวิเคราะห์

ทั้งนี้หากเข้าไปสำรวจคำทำนายดัชนีตลาดหุ้นไทยประจำปี 2567 ของนักวิเคราะห์พบว่า มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ เริ่มกันที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ก่อนหน้านี้เคยให้เป้าดัชนีตลาดหุ้นไทยปี 2567 จะอยู่ที่ 1,540 จุด ได้เป็นอย่างน้อย พร้อมแนะนำกลุ่มหุ้นเด่นไตรมาส 4/67 ประกอบด้วย: AOT, GULF, GPSC, MTC, CPALL, BJC, BDMS, KTB, ADVANC, HMPRO

ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ก่อนหน้านี้มอง เป้าหมาย SET INDEX สิ้นปี 2567 ที่ 1,450 จุด (อิง EPS ที่ 92 บาท/หุ้น และ PER ที่ 15.8 เท่า) และสิ้นปี 2568 ที่ 1,600 จุด (อิง EPS ที่ 97 บาท/หุ้น และ PER 16.5 เท่า) 

ในเชิงของกลยุทธ์การลงทุน เน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่ Valuation ไม่แพง, ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในโซนด้านล่าง, ผลประกอบการ Turnaround หรือโตต่อเนื่องในไตรมาส 4/67, และได้ SET ESG Rating ระดับ AA ขึ้นไป เพราะจะมีแรงซื้อจาก กองทุนวายุภักษ์ และ TESG ช่วยจำกัด Downside เช่น KBANK, CPAXT, CPALL, BDMS, BANPU, OSP, THCOM, และ STA เป็นต้น

ตามด้วยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ปัจจัยผลักดันสำคัญของ SET ยังคงมาจากเสถียรภาพทางการเมืองและแนวโน้มเศรษฐกิจขาขึ้นในช่วงไตรมาส 4/67-2568 ในขณะที่กองทุนวายุภักษ์ 1 จะช่วยจำกัด Downside คงเป้า SET ในปี 2567 ที่ 1,470 และเป้าดัชนีปี 2568 เบื้องต้นที่ 1,600 จุด

ส่วนนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ก่อนหน้านี้ ประเมินว่า ในมุมเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยปี 2567 กรณี FUND FLOW ไหลเข้าอาจจะซื้อขายบน MEYG ที่แคบลงมาในระดับ -0.5SD ถึง -1 SD หรือ MEYG 3.5% - 3.3% ตามกลไกจะหนุนให้ตลาดซื้อขายบน P/E ที่สูงขึ้นและหนุนดัชนีเป้าหมายปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก 1,450 จุด มาสู่ระดับเกิน 1,500 จุด เป็น 1,523 – 1,576 จุด

ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ก่อนหน้านี้ระบุว่า เป้าดัชนี SET สิ้นปีอยู่ที่ 1,420 จุด โดยคำแนะนำจะมี upside risk หากธนาคารกลางสหรัฐปรับลด Fed Fund rate เชิงรุกและการเปิดตัวกองทุนวายุภักษ์มูลค่า 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังเตรียมเปิดขายในไตรมาส 3/67 ส่วน downside risk จะมาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยืดเยื้อ, ความล่าช้าของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตและการไหลออกของเงินทุนต่างชาติ Top pick: AMATA, BBL, BCH, CBG, CPALL, CRC, KLINIQ และ PTTEP

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ก่อนหน้านี้ระบุว่า เป้าหมายปลายปี 2567 หากพิจารณาที่ปัจจัยฟื้นฐาน ควรอยู่ที่ 1,450 จุด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกองทุนวายุภักษ์ จึงให้พรีเมียมแก่ SET โดยตั้งเป้าไว้ที่ 1,480 จุด

สุดท้ายนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ก่อนหน้านี้มองว่า เป้าดัชนีตลาดหุ้นไทยปี 2567 อยู่ที่ 1,500 จุด รอซื้อที่ระดับต่ำกว่า 1,400 จุด ส่วนเป้า SET Index ปี 2568 อยู่ที่ 1,550 จุด